คนไกลบ้าน

ความในใจของคนไกลบ้าน

กลับมาครั้งนี้ฉันได้พบกับ “ชัย” หนุ่มภาคกลางที่มาทำงานสร้างถนนที่นี่ ชัยเป็นรักครั้งแรกของฉัน เขาดีกับฉันทุกอย่าง เมื่องานของเขาเสร็จก็ต้องย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ ฉันจึงตามไปอยู่กับเขา โดยไม่ได้ส่งข่าวกลับไปบอกที่บ้านเลย

เมื่อมากรุงเทพฯ ชัยให้ฉันเป็นแม่บ้านดูแลเขา และติดตามเขาไปทำงานตามไซต์งานต่าง ๆ งานของเขาต้องย้ายที่อยู่บ่อย จึงได้เจอผู้คนมากหน้าหลายตา ฉันเคยได้ข่าวว่ามีผู้หญิงมาติดพันเขา แต่ก็ต้องทำเป็นนิ่งไว้ ไม่อยากให้เขาเห็นว่าฉันเป็นคนขี้หึงงี่เง่า ฉันใช้ความนิ่งข่มความโกรธ แต่ความนิ่งของฉันกลับทำให้ผู้หญิงที่มาติดพันเขาได้ใจและเริ่มแสดงตัวท้าทายฉันขึ้นทุกวัน แต่คนอย่างฉันก็เลือกที่จะข่มความทุกข์แสนสาหัสไว้ในใจ

ฉันจะไปปรับทุกข์กับใครได้เล่า ในเมื่ออยู่ตัวคนเดียวในกรุงเทพฯ เพื่อนฝูงก็ไม่มี มีแต่ชัยที่เป็นที่พึ่งเดียวในเมืองใหญ่แห่งนี้ หลายครั้งหลายคราอยากติดต่อคนทางบ้านก็ทำไม่ได้ จะเขียนจดหมายก็เขียนหนังสือไม่เป็น คนที่วางใจจะให้เขียนให้ก็ไม่มี

แต่ที่สำคัญเหนืออื่นใดคือ ฉันไม่อยากบอกเรื่องนี้กับใคร เพราะฉันเลือกแฟนเอง จะทุกข์แสนสาหัสแค่ไหนก็ขอเก็บไว้คนเดียว หากเล่าให้ใครฟัง เขาอาจพูดซ้ำเติมให้เสียใจได้ว่า ก็หามาเองแล้วจะโทษใคร ครั้นจะหนีกลับบ้านก็ไม่ได้ ชาวบ้านคงนินทาว่าโดนผู้ชายหลอกไปกรุงเทพฯแล้วก็ทิ้งให้ช้ำใจ

วัน ๆ ฉันได้แต่นั่งมองท้องฟ้า คิดว่าคนที่บ้านก็คงมองฟ้าเดียวกันอยู่ พวกเขาอาจรับรู้ถึงความคิดถึงของฉันได้

ฉันจมอยู่ความเศร้าและกังวลว่าชัยอาจคิดนอกใจไปจริง ๆ ช่วงเวลาที่หาทางออกไม่ได้ ฉันกลับเจอทุกข์ใหญ่ทับถมเข้ามา นั่นคือฉันตั้งท้อง เวลานั้นฉันอายุแค่เพียง 19 ไม่มีญาติมิตรเป็นที่ปรึกษา จึงแก้ปัญหาได้เพียงแค่ว่าต้องทำแท้ง เพราะ ถ้าชัยเลือกผู้หญิงคนนั้น ฉันคงไม่อาจเลี้ยงดูลูกได้ เพราะงานก็ไม่มี เงินก็ไม่มี ชีวิตทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขาเท่านั้น

ที่พึ่งของฉันในเวลานั้นคือเจ้าของห้องเช่า เธอดูเป็นผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ เมื่อบอกว่าอยากทำแท้ง เธอก็หายาขับเลือดมาให้กิน ฉันท้องยังอ่อนจึงไม่เจ็บทรมานนัก แต่เลือดก็ไหลไม่หยุดอยู่สิบวัน ระหว่างนั้นชัยไม่ระแคะระคายเลยแม้แต่น้อย เขาคงคิดว่าฉันนอนซมจากอาการปวดท้องประจำเดือน ฉันรู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปเป็นบาปและรู้สึกผิดมากที่ต้องทำเช่นนี้ แต่ชีวิตคนเราก็ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก

ชัยคงสังเกตเห็นว่าฉันดูซึมเศร้า วันหนึ่งเขาจึงเข้ามาถามว่า อยากกลับไปเยี่ยมบ้านไหม เขาจะพาไป เวลานั้นฉันดีใจยิ่งกว่าสิ่งใดทั้งสิ้น เร่งวันเร่งคืนให้ถึงวันที่ได้กลับบ้าน เพราะหลายปีที่ผ่านมาคนทางบ้านไม่เคยได้ข่าวฉันเลยสักครั้งและพวกเขาคงห่วงกันมาก

“นึกว่าลูกตายไปแล้ว” พ่อพูดพลางน้ำตารื้นเมื่อเห็นหน้าฉัน

คลิกเลข 3 เพื่ออ่านหน้าถัดไป >>>

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.