อย่าหยุด พัฒนาศักยภาพ ตนเอง ธรรมะเตือนสติ โดย ท่าน ว.วชิรเมธี
ใครที่กำลังขาดแรงบันดาลใจ หากได้อ่านบทความนี้ที่เรียบเรียงจากคำสอนของท่าน ว.วชิรเมธี จะไม่อยากหยุด พัฒนาศักยภาพ ตนเอง
ความสุขที่เรามีเปรียบเสมือนบันไดทีละขั้น ๆ ไม่ใช่เป้าหมาย มันเป็นแค่สะพาน สุขแท้อยู่ที่อิสระ อิสรภาพจากความทุกข์ นั่นคือความสุขที่แท้ บางทีการที่เราได้ทานอาหารอร่อย ๆ เราก็บอกสุขมากพอแล้ว อาตมาก็บอกอะไรที่อร่อย ๆ เมื่อกินติดต่อกันสักหนึ่งสัปดาห์ กินจนอาเจียนก็จะเลิกเลย พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า ขอให้เราเพียรพัฒนาตนให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป
เหตุที่ต้องเพียรพัฒนาตนให้ยิ่งขึ้น ก็เพราะว่ามนุษย์นี้เป็นสัตว์ประเสริฐที่สามารถพัฒนาได้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ที่บ้านนางแล เคยมีสมเด็จองค์แรกของภาคเหนือ สมัยก่อนท่านก็เป็นคนที่นี่ เคยเลี้ยงวัวเลี้ยงควาย และก็ไปบวชเณร ได้ไปที่วัดเบญจมบพิตร วันหนึ่งได้เป็นพระราชาคณะรูปแรกของ 16 จังหวัดภาคเหนือ ในขณะที่ท่านเป็นสมเด็จไปแล้ว เพื่อนของท่านหลายคนก็ยังเป็นชาวบ้านเหมือนเดิม ขณะที่เพื่อนอีกคนทำไมถึงกลายเป็นพระราชาคณะ มีคนนับหน้าถือตา เพราะท่านพัฒนาตนเองไม่ค่อยหยุดพัก แต่เพื่อนของท่านเกิดมาแล้วพอใจอยู่แค่นั้น มันก็เลยอยู่กับที่
อาตมามีอาจารย์ท่านหนึ่ง เป็นคนพัฒนาตนไม่หยุดนิ่ง ท่านมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เพื่อนคนนี้คุณพ่อของเขาเป็นคนที่รวยมาก มีที่ดินอยู่ที่จังหวัดสระบุรีอยู่ร้อยกว่าไร่ แต่ตัวของอาจารย์เกิดมาพ่อมีที่ดินเพียง 5 ไร่ ทำนาก็มีข้าวกินเหมือนกัน แต่ไม่ถึงครึ่งปีก็หมดเสียแล้ว พ่อเลี้ยงลูกไม่ไหวก็เอาลูกไปฝากไว้ที่วัด ขณะเดียวกัน เพื่อนของท่านซึ่งเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นลูกของคนข้างบ้านที่มีที่ดินร้อยไร่ กลับประมาท ไม่พัฒนาตัวเอง เพราะคิดว่าพ่อฉันมีที่ดินร้อยไร่ ทำนาทั้งปีมันก็มีกิน
ฝ่ายอาจารย์ของอาตมา พ่อไม่มีที่นาก็เลยต้องสู้ เลยมาบวชเรียนตั้งใจเรียนมากจนสอบได้เปรียญธรรม 9 ประโยค เพราะคิดว่าเรามันจนเราต้องสู้ หลังจากจบเปรียญธรรม 9 ประโยค ก็ไปเรียนต่อ จนกระทั่งได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ ไปเรียนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา กลับมาลาสิกขาได้เข้าทำงานที่ราชบัณฑิต ในพระบรมมหาราชวัง จากเสมียนเล็ก ๆ ขึ้นไปเป็นเลขาธิการราชบัณฑิต
คลิกเลข 2 เพื่ออ่านหน้าถัดไป >>>