อยากเคี้ยน…อยากเขียน เรื่องคนกอดกันครับ… (สัมผัสแห่งรัก)
เมื่อไม่นานมานี้ ผมมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่ง เธอเป็นเบญจกัลยาณีมาก เธอมีลูกชายวัยน่ารักสองคน อายุประมาณสี่ขวบกับหกขวบ (อันนี้ผมเดาเอาเองนะครับ ผมยังไม่มีลูกเลยกะอายุเด็กไม่ถูก) มีอยู่ช่วงหนึ่งสามีของเธอต้องเดินทางไปติดต่อธุรกิจ เธอต้องเลี้ยงลูกคนเดียว เหนื่อยมาก เธอเล่าให้ผมฟังว่า “เหนื่อยแค่ไหนก็หายพี่ เมื่อหนูได้กอดลูก” ทันทีที่ความรักถูกส่งไปทางกายสัมผัส ก็แทบไม่ต้องมีภาษาพูดให้สดับ ไม่ต้องมีคำอธิบายใด ๆ ทั้งคุณแม่และลูกชายตัวน้อยต่างก็เข้าใจตรงกันว่า ต่างคนต่างเป็นที่รักของกันและกันสุดประมาณ
เธอยังเล่าต่ออีกว่า เวลาเธอกอดกับสามี แล้วลูกเดินมาเห็นพ่อแม่กอดกัน สามีเธอจะผละออก เพราะคงจะเขินลูก เธอเลยบอกกับสามีว่า “เรามากอดกันเถอะพี่ ไม่เป็นไรหรอก เรามาแสดงความรักต่อกัน” นานเข้าสามีเธอจึงคล้อยตาม ตั้งแต่นั้นมา ถ้าเจ้าลูกชายตัวน้อยบังเอิญมาเห็นพ่อกับแม่กอดกัน เขาจะวิ่งเข้ามากอดด้วยทันที ช่างเป็นมโนภาพที่ซึ้งจับจิตจริง ๆ
เธอให้เหตุผลว่า ที่เธอยืนกรานและกล้าหาญในการแสดงความรักต่อคนที่เธอรักอย่างเปิดเผย เพราะตอนเด็ก ๆ แม่ไม่เคยกอดเธอเลย ไม่เคยแม้แต่จะพาลูกสาวไปส่งที่โรงเรียน…และเธอก็ฝังใจมาตลอด
ผมอยากบอกกับเธอว่า แม่เธอรักเธอมาก เพียงแต่ท่านไม่รู้วิธีแสดงออกเท่านั้นเอง ในสังคมบ้านเรา คนแบบเธอกับผมนั้นมีน้อยมาก ตัวผมเองอายุ 35 ปีแล้ว แต่ผมยังกอดและหอมแม่เหมือนเด็ก ๆ แม่ผมตัวเล็ก บางครั้งผมก็อุ้มแม่ได้อย่างไม่เคยอายใคร ช่วงเทศกาลปีใหม่หรือสงกรานต์ พี่สาวผมกลับจากบางกอกมาเยี่ยมบ้าน ผมไปรับเธอ เมื่อสองพี่น้องพบกัน เรายังกอดกันกลม ไม่เห็นต้องอายใคร
ส่วนกับภรรยา ผมชอบพูดว่า “ขอจอด (กอด) หน่อย” เราสองคนอยู่ด้วยกันมาเป็นสิบปีแล้ว แต่ก็ยังจูงมือกันเหมือนคู่รักอยู่เลย กลัวหลง (หลงทางยังหาเจอ หลงเธอไม่รู้จะไปหาที่ไหน…ฮา!) ภรรยาผมบอกว่าอายเด็กมัน ผมก็ทำหน้ากวน ๆ แล้วตอบกลับไปว่า “ซามแหล่ว” (แปลว่าช่างปะไร ฉันไม่แคร์)
ผมก็ยังงงตัวผมเองอยู่เหมือนกันละครับ ตัวผมเป็นคนอีสานขนานแท้ แต่มีพฤติกรรมเหมือนชาวต่างชาติไม่มีผิด (เฉพาะเรื่องการแสดงความรักนะครับ) ผมกล้ากอดคนที่ผมรัก กล้าแสดงความรักอย่างเปิดเผย ผมมานั่งทบทวนดู น่าจะเป็นเพราะตอนวัยรุ่นผมชอบดูหนังฝรั่ง เวลาเขากอดกันแล้วพูดว่า “ผมรักแม่ฮะ” “แม่ก็รักลูกจ้ะ” หรือ “พ่อรักลูกนะ” “หนูก็รักพ่อค่ะ” ผมประทับใจมาก ขณะเดียวกันผมสงสัยว่าทำไมคนไทยไม่กล้าทำแบบนี้บ้าง (วะ) หน้าบางกันเหลือเกิน
ตั้งแต่นั้นผมก็ฝึกแสดงความรักจนกลายเป็นนิสัย กลายเป็นความเคยชิน กลายเป็นบุคลิก กลายเป็นกิจวัตร…สุดท้ายก็กลายเป็นธรรมชาติของครอบครัว
เพื่อนผมคนหนึ่งเขาเห็นแล้วก็อยากทำตาม เขาชื่อสุดธิชัย (ขออนุญาตเอ่ยชื่อนะเพื่อน หากเรื่องของนายทำให้ใคร ๆ กล้าทำเรื่องดี ๆ นายก็ได้บุญนะเพื่อน) พ่อของสุดธิชัยถึงแก่กรรมตั้งแต่เขายังเด็ก สุดธิชัยอยู่กับแม่มาตลอด เขาจำได้ว่าตอนเด็ก ๆ เคยกอดแม่บ้าง แต่จำไม่ได้ว่าเลิกกอดแม่ไปตั้งแต่เมื่อไร รู้ตัวอีกทีก็อายุ 19 ปีแล้ว เขาบอกผมเป็นภาษาอีสานว่า “เฮาอยากเฮ็ดได่คือโตเว้ย แต่เฮาอาย เฮาสิเริ่มจั่งได๋” (เราอยากกอดแม่เหมือนนายนะ แต่เราอาย ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน) ผมก็เลยบอกเขาว่า “นายก็เริ่มที่หัวใจสิ ส่งผ่านมันออกมา เป็นวาจาหรือการกระทำ”
หลังจากนั้นสักสี่ห้าวัน เขาก็เข้ามาหาผมที่หอพัก แล้วบอกผมว่าเขาทำแล้วนะ ผมก็งง ถามว่านายทำอะไร เขาบอกว่าเขาได้แสดงความรักต่อแม่ของเขาแล้ว…ผมฟังแล้วตื่นเต้นยิ่งกว่าตัวเขาเสียอีกครับ
สุดธิชัยเล่าว่า เมื่อวันแม่ที่ผ่านมา แม่เขากำลังขายของอยู่ เขาก็ไปยืนต่อหน้าแม่ แต่ไม่พูด แม่เลยถามเขาว่า “มื่อนี่มึงมาไม้ได๋วะ บ่ปาก ขอเงินติ เอาจักบาท” (วันนี้แกจะมาไม้ไหนเนี่ย ไม่พูดไม่จา จะขอเงินเหรอ เอากี่บาท) จากนั้นสุดธิชัยก็เอาดอกมะลิที่ซ่อนอยู่ข้างหลังออกมายื่นให้แม่แล้วบอกว่า “มื่อนี่วันแม่ ผมให้แม่ครับ” (วันนี้วันแม่ ผมให้แม่ครับ)
เท่านั้นแหละ! อุทกธาราก็เอ่อล้นไหลท่วมท้นออกจากดวงตาอาบสองแก้มของแม่ เป็นน้ำตาแห่งความปีติอันลึกซึ้ง สุดธิชัยเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์นี้อยู่แล้ว เพราะรู้แน่ว่าถ้าแม่ร้องไห้ เขาต้องร้องตามแน่ ๆ ความที่เป็นเด็กช่างและมีมาดนักเลง ก็เลยกลัวจะเสียฟอร์ม สุดธิชัยจึงรีบหันหลังกลับแล้วเดินหนีไป แต่ไม่ถึงห้าก้าวที่เดินจากแม่มา สุดธิชัยก็ไม่วายยกแขนขึ้นปาดน้ำตา น้ำตาที่มาจากความรักและตื้นตัน
ทุกวันนี้ผมกับสุดธิชัยยังคบหาเป็นเพื่อนรักกัน เขามักพาแม่และเมียมาเยี่ยมผมบ่อย ๆ วันนี้สุดธิชัยยังพาเมียและแม่ที่ฟันหลอไปกินไอติมในห้าง เขาถ่ายรูปมาให้ผมดูด้วยครับ…สามคนกอดกัน เป็นภาพที่น่ารักมาก
ภาพคนกอดกันนี่มันน่ารักจริง ๆ นะครับ
เขียนเรื่องคนกอดกันก็สนุก
กอดกันเถอะครับ ไม่ต้องอาย
คุณค่าของเราไม่ได้วัดจากสายตาของคนอื่น…จะแคร์ทำไม ถ้าหัวใจเรารักกัน!
(สัมผัสแห่งรัก)
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง บุญรักษา
บทความน่าสนใจ
ตำรวจน้อยน้ำใจงาม ทำภารกิจแจกกอดให้ผู้สูงอายุได้คลายเหงาที่บ้านคนชรา