พูดเชิงบวก

กำจัดความเหนื่อยล้ากับชีวิตที่บัดซบด้วยการพูดเชิงบวกกันเถอะ

กำจัดความเหนื่อยล้ากับชีวิตที่บัดซบด้วยการ พูดเชิงบวก กันเถอะ

ไม่มีใครที่ไม่เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์ และคำพูดเหล่านั้นก็ช่างบั่นทอนจิตใจเหลือเกิน บางคนอาจฟังแล้วไม่ใส่ใจกับมัน นับว่าเป็นคนที่เก่งและมีภูมิต้านทานเรื่องนี้เป็นอย่างดี แต่สำหรับคนที่ฟังแล้วเอามาใส่ใจ ก็จะจมดิ่งไปกับความทุกข์ที่มาจากคำพูดเชิงลบเหล่านั้นฝังอยู่ในหัว สิ่งที่ตามมาคือการยอมแพ้และคิดตามคำพูดนั้นว่าเราเป็นคนที่ทำงานไม่ได้เรื่อง ทางออกที่จะช่วยได้คือ การ พูดเชิงบวก กับตนเอง

ทำไมต้องพูดเชิงบวกกับตนเอง ทางจิตวิทยาบอกว่าการระบายเรื่องที่ไม่สบายใจให้ผู้อื่นฟัง แล้วอีกฝ่ายจะแนะนำทางออก ให้กำลังใจ หรือปลอบใจ จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้น ถ้าสมมติว่าใน  1 เดือน เราต้องฟังคำพูดเชิงลบจากเจ้านายและเพื่อนร่วมงานเป็นเวลาทั้งหมด 20 วัน เพื่อนสนิทที่รักคุณต้องอดทนฟังคำบ่นและเป็นที่ระบายให้กับคุณถึง 20 ครั้ง คิดว่าเขาจะมีความสุขไหมที่ต้องอดทนฟังเรื่องราวที่ไม่ดีอยู่บ่อย ๆ

 

ภาพจาก https://pixabay.com

 

คุณอาจเคยพูดคำว่า “เหนื่อยจัง” แต่รู้ไหมว่าเราสามารถเปลี่ยนเป็นคำพูดเชิงบวกได้ตั้ง 3 ประโยค เช่น “ทำเต็มที่แล้วนะเรา” เป็นอย่างไรพอทำให้หัวใจพองโตขึ้นมาบ้างไหม “ให้มันได้อย่างนี้สิ” เหมือนเรากำลังจะขว้างมันออกไปให้พ้น เป็นอย่างไรบ้างสบายใจหรือยัง และอีกประโยคคือ “สงสัยกรดแล็กติกจะสะสมมากไป” เชื่อว่าถ้าพูดอย่างนี้จะอดหัวเราะไม่ได้ ความเครียดได้รับการบรรเทาด้วยพลังแห่งการหัวเราะ ลองเปลี่ยนคำพูดที่ทำให้จิตตก เป็นคำพูดที่ทำให้เรามีกำลังใจที่จะสู้ต่อดีกว่า

การพูดเชิงบวกไม่ได้เป็นการหลอกตัวเอง แต่ทำให้เราก้าวต่อไปข้างหน้าได้ต่างหาก คนส่วนใหญ่มักมีความทุกข์เพราะคำพูดของคนอื่น ดังนั้นลองปรับการรับฟังคำพูดเชิงลบให้กลายเป็นคำพูดเชิงบวกก็ไม่เลว เช่น เมื่อหัวหน้าดูงานของเราแล้ว ไม่พอใจถึงกับโยนงานลงบนโต๊ะ พร้อมกับใช้นิ้วชี้มาที่เราและพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า “ทำงานได้แค่นี้เองเหรอ” แปลงเป็นคำพูดเชิงบวกได้ว่า “ผมอยากเห็นความก้าวหน้าของคุณไปอีกระดับ ช่วยทำงานมาให้ผมดูใหม่อีกทีนะ” ท่าทีของหัวหน้าดูอ่อนโยนและสุภาพลงทันที

 

ภาพจาก https://pixabay.com

 

แต่อย่างไรก็ตาม ในวันหนึ่งที่ไม่มีใครฟังคำบ่นของเราอีกต่อไป คงเหลือแต่เราเท่านั้นที่ที่ต้องช่วยให้ตนเองผ่านพ้นช่วงเวลาอันเลวร้ายไปให้ได้ สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งถ้าเกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นกับเรา ขอให้เข้าใจอีกฝ่ายให้มาก ๆ เพราะเขาอาจมีสาเหตุหรือปัจจัยอื่นทำให้พวกเขาต้องพูดเชิงลบ เช่น ในอดีตตอนเป็นลูกน้องเคยถูกหัวหน้าพูดแบบนี้มาโดยตลอด จนกลายเป็นคนเสพติดการพูดเชิงลบจนยากที่จะแก้ไข หรือเขาต้องการให้เราแสดงศักยภาพออกมา เลยจำเป็นต้องเล่นละครเป็นบทร้าย เพื่อให้เรากล้าที่จะลบคำสบประมาท แต่อย่างไรก็ตามเราต้องประเมินตนเองด้วยว่าเราไหวไหม เพราะมีแต่เราเท่านั้นที่รู้ตัวเองดีกว่าใคร

 

ที่มา :

แด่คุณที่กลัวการเปลี่ยนแปลงมาตลอดชีวิต โดย Mentalist DaiGo

ภาพ :

https://pixabay.com


บทความน่าสนใจ

ความสุขที่ไม่เคยหายไป – ประสบการณ์ชวนให้มองความสุขใกล้ตัวที่ไม่ต้องซื้อหา

คิดบวก ชีวิตบวก ข้อคิดสู่ชีวิตเป็นสุข จาก ท่านว.วชิรเมธี

เขาทำมา ให้ธรรมกลับ ข้อคิดดีๆ โดย พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ

เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนคิดบวกด้วยโยนิโสมนสิการ

ทำอย่างไรเราจะคิดถึงความตายได้โดยที่ไม่กลัวตาย โดย พระไพศาล วิสาโล

© COPYRIGHT 2024 Amarin Corporations Public Company Limited.