นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้ กับ “น้องฟ้าโปรด” ใจดวงเล็ก ๆ ที่แสนเปี่ยมสุขของเธอ
ช่วงที่ผ่านมาชื่อและภาพอันน่ารักน่าเอ็นดูของน้องฟ้าโปรด หรือเด็กหญิงสุรสิทธิ์ ปานอ่อน ปรากฏตามสื่อต่าง ๆ ในฐานะลูกสาวบุญธรรม ของสาว นัท มีเรีย เบนเนเดดตี้ กับหนุ่มอั้ม - อธิชาติ ชุมนานนท์
หากใครติดตามอินสตาแกรมของสาวนัทก็คงเห็นว่าทั้งคู่กำลังทั้งรักทั้งหลงหนูน้อยคนนี้มาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซีเคร็ต ติดต่อขอให้สาวนัทขึ้นปกคู่กับน้องฟ้าโปรด เธอได้บอกเราว่า รู้สึกทั้งตื่นเต้นและดีใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ถ่ายรูป
ขึ้นปกนิตยสารคู่กัน งานนี้แม้พ่ออั้มจะไม่ได้อยู่ด้วย แต่ลำพังแม่นัทคนเดียว ความรักก็มาเกินร้อยแล้วละค่ะ
มีหลาย ๆ สื่อลงข่าวว่าน้องฟ้าโปรดเป็นลูกสาวบุญธรรมของคุณนัทกับคุณอั้ม มีความเป็นมาอย่างไรคะ
จริง ๆ นัทกับอั้มไม่ใช่พ่อแม่บุญธรรมของน้องฟ้าโปรดหรอกค่ะ เรียกเราว่าเป็นพ่อแม่ทูนหัวดีกว่า เพราะเราไม่ได้รับน้องมาอุปการะหรือเป็นลูกบุญธรรม นัทรู้จักและสนิทกับคุณแม่ของน้องฟ้าโปรดหรือคุณแตน เพราะเป็นทั้งลูกพี่ลูกน้องและเป็นผู้จัดการส่วนตัวที่ดูแลนัทมากว่า 20 ปีแล้ว เราร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตลอดจนกระทั่งวันหนึ่งเขามีลูก ซึ่งเหนือความคาดหมายของนัทมาก เพราะอายุเราทั้งคู่ก็ไล่เลี่ยกัน เขามีแฟนก็มีหลังเรา แต่มีลูกแซงไปก่อนแล้ว จำได้ว่าแตนเคยบอกนัทว่าจะรอเลี้ยงลูกให้พี่ เพราะตัวเขาน่าจะมีลูกยาก แต่ทำไมไม่รู้ ใครที่พูดอย่างนี้กับเรามีลูกแซงหน้าไปหมดเลย (หัวเราะ) นัทว่ามันเป็นความผูกพันที่เรามีต่อกันนัทดูแลแตนตั้งแต่ก่อนคลอดจนกระทั่งวันที่เขาคลอด คือก่อนส่งแตนไปห้องคลอด นัทยังแต่งหน้าทาปากให้แตนเลยค่ะ (หัวเราะ)
นัทเห็นฟ้าโปรดมาตั้งแต่แบเบาะ จึงรู้สึกว่าลูกของแตนก็เหมือนลูกของนัท พอฟ้าโปรดอายุได้สัก 3 เดือน นัทก็ได้ดูแลเช็ดอุจจาระ เปลี่ยนผ้าอ้อม และอาบน้ำให้ เท่าที่นัทเลี้ยงฟ้าโปรดมาก็เห็นว่าเขาเป็นเด็กเลี้ยงง่ายไม่งอแง และไม่กลัวใคร ใครอุ้มไปไหนก็ไม่ร้อง ฟ้าโปรดเป็นเด็กช่างกิน นัทชอบเวลาป้อนอาหารให้เขา เขาจะเคี้ยวหมับ ๆ กินเก่งมาก นัทจะได้เลี้ยงเขาทุกครั้งที่แม่เขาพามาหา ซึ่งเราเจอกันบ่อยมาก แต่ถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน แต่ก็รู้สึกถึงความรัก ความผูกพันที่มีต่อกัน เพราะมันคือครอบครัว
คุณนัทกับคุณอั้มวางแผนเรื่องมีลูกอย่างไรคะ และการที่รับน้องฟ้าโปรดมาเป็นลูกทูนหัวคุณนัทเชื่อหรือไม่ว่าจะทำให้มีลูกจริง
มาเกิด
เรื่องการรับน้องฟ้าโปรดมาเป็นลูกแล้วจะทำให้มีลูกนั้น มีคนพูดกันเยอะนะคะ แต่นัทเชื่อว่าต่อให้ทำกิฟต์เป็นสิบ ๆ ครั้ง ถ้าข้างบน
เขายังไม่ให้ เราก็ยังมีลูกไม่ได้ ความจริงตั้งแต่แต่งงานกันมา เราก็อยากมีลูกด้วยกันและปล่อยตามธรรมชาติมาตลอด ตอนนี้ก็ปรึกษาคุณหมออยู่ค่ะ แต่ฮอร์โมนของเรามันไม่คงที่ที่จะกระตุ้นได้ทุกเดือน เราเลยคุยกันว่า เราจะตั้งใจเรื่องมีลูกปีนี้ปีเดียว ถ้าไม่มีจริง ๆ ก็แสดงว่าข้างบนเขายังไม่ให้เรามา
ดังนั้นจะมีเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรและคิดว่าคงไม่ขอบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงด้วยเพราะคิดว่าไม่จำเป็น เนื่องจากทุกวันนี้นัทมีหลานที่กำลังส่งเรียนหนังสืออยู่แล้ว และตอนนี้ก็มีน้องฟ้าโปรดเพิ่มมาอีกคนหนึ่ง ส่วนคุณอั้มก็มีหลาน ๆ ซึ่งเป็นลูกพี่สาวและน้องสาวที่ยังเด็กอยู่อีก 4 คน คือ น้องเปรม น้องอเล็กซ์ น้องอลิน และน้องอลัน ซึ่งเขาแวะมาหาเราบ่อย ๆ เราก็รักและช่วยกันเลี้ยงอย่างสนุกสนาน เป็นครอบครัวที่อบอุ่นค่ะ
คำว่า “ครอบครัว” มีความหมายต่อคุณนัทอย่างไรบ้างคะ
ครอบครัวคือสิ่งสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ชีวิตของเรามีคุณค่า มันมีความหมายทั้งที่เป็นเรื่องของความสุขและความอบอุ่นอย่างครอบครัวของนัท แม้ว่านัทเป็นลูกคนเดียว แต่ครอบครัวเราเป็นครอบครัวใหญ่มีญาติพี่น้องเยอะ บ้านของนัทเป็นเหมือนบ้านหลักที่ทุกคนแวะเวียนมาหาบ่อย ๆ ทำให้นัทไม่ค่อยเหงา ถึงแม้คุณพ่อคุณแม่จะเลี้ยงนัทแบบฝรั่งครึ่งหนึ่งไทยครึ่งหนึ่ง แต่ท่านไม่เคยตามใจจนเกินไป โดยเฉพาะคุณแม่มักสอนให้นัทตรงต่อเวลา ให้มีความรับผิดชอบ ให้อยู่ง่าย กินง่าย ไม่ให้เรื่องมาก
คุณแม่สอนเสมอว่าต้องรักกัน รักพี่รักน้องที่เป็นญาติกันด้วย แม้นัทเป็นลูก แต่ก็ไม่เคยมีอภิสิทธิ์ในเรื่องใด ๆ คุณแม่ท่านรักความยุติธรรมฉะนั้นถ้านัททำผิดก็จะโดนตี แต่คุณแม่ก็จะบอกเหตุผลว่าทำไมถึงตีเรา นอกจากนี้ท่านยังสอนให้รู้จักกาลเทศะให้รู้จักมารยาทแบบไทย ๆ เมื่อเจอผู้ใหญ่ต้องเคารพ และไม่ให้ลืมบุญคุณคนที่เคยช่วยเหลือเรามา แล้วแม่มักบอกว่า คนไหนที่แม่รัก นัทต้องดูแลเขา โตมาอย่าทิ้งเขาและต้องรู้จักความกตัญญู
นัทเห็นเรื่องนี้จากการที่คุณแม่ดูแลปรนนิบัติคุณตาคุณยาย คุณแม่มักคอยหยิบยื่นช่วยเหลือดูแลญาติพี่น้องที่ลำบาก ท่านสอนหลายเรื่อง ซึ่งนัทก็ซึมซับมาปฏิบัติจนทุกวันนี้ นัทอยากบอกคนที่มีครอบครัวไม่สมบูรณ์เพียบพร้อมว่า คำว่าครอบครัวไม่ได้
มีความหมายเฉพาะการมีคุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าเท่านั้น เพราะบางคนที่ขาดคุณพ่อคุณแม่ อาจมีคุณตาคุณยายที่รัก
และคอยดูแลทำให้เขามีความสุข มีความอุ่นใจ และเติบโตมาได้เหมือนมีเกราะป้องกัน
หรือบางคนเป็นเด็กกำพร้า แต่เขาก็มีคุณครูหรือพี่เลี้ยงคอยดูแลทำให้ไม่รู้สึกเหมือนว่าอยู่ตัวคนเดียวบนโลก หรือรู้สึกว่าขาดจน
ไม่เหลืออะไรเลย ครอบครัวจึงสำคัญมากและเป็นสถาบันแรกที่ทำให้มนุษย์คนหนึ่งเติบโตมาและยืนอยู่ในสังคมได้อย่างไม่
โดดเดี่ยวจนเกินไป
ตอนนี้คุณนัทมีครอบครัวของตัวเองแล้ว ไม่ทราบว่าเหมือนหรือต่างจากที่เราวาดหวังไว้คะ
ไม่แตกต่างค่ะ นัทโชคดีที่ครอบครัวของคุณอั้มไม่ได้กำหนดให้เราต้องอยู่บ้านพ่อแม่เขา นัทเลยได้ใช้ชีวิตอย่างที่เคยเป็น
และคุณอั้มก็ไม่ได้ห้ามหรือมีเงื่อนไขว่าชีวิตคู่ต้องเป็นแบบไหนอย่างไร อาจมีบ้างที่เขาขอให้เราทำหน้าที่แม่บ้าน เช่น ทำกับข้าว
ให้ผมกินบ้างนะ หรือปรนนิบัติเอาใจเขาบ้าง จริง ๆ อั้มดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว เพียงแต่เขาอยากให้เราเอาใจใส่ นึกถึงเขาในเรื่อง
เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ต้องทำไก่ปั่นซึ่งเป็นอาหารประจำให้เขากินบ้าง หรือซื้อของที่เขาชอบใส่ตู้เย็นไว้ให้บ้าง เ
คยมีเหมือนกันที่ของที่เขาชอบกินเป็นประจำหมด เขาก็งอน น้อยใจว่าเราไม่ดูแล ซึ่งนัทก็เข้าใจ เพราะพอมาอยู่ด้วยกันแล้ว เราต้องให้ความสำคัญเขาก่อนเป็นคนแรก แต่บางทีเราก็เผลอละเลยไปบ้าง
คุณนัทประทับใจอะไรในตัวคุณอั้มคะ
โห หลายอย่างค่ะ อั้มเป็นคนจิตใจดีมาก คิดถึงคนอื่นเสมอ แม้เขาจะอายุน้อยกว่านัท แต่ยิ่งอายุมากขึ้น เขาก็ยิ่งมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น บางครั้งความคิดของเขาในบางมุมโตกว่าเราด้วยซ้ำ ตอนนี้เขาเริ่มมองอนาคตไปไกล ๆ พยายามทำทุกอย่างเพื่อนำสิ่งดี ๆ มาให้ครอบครัว แม้บางทีจะเหนื่อยบ้าง แต่เขาก็ยอมทุ่มเททำเพราะอยากเห็นทุกคนในครอบครัวมีความสุข
นัทจึงมองว่าเขาเป็นผู้ชายที่เราฝากชีวิตไว้กับเขาได้ ตั้งแต่รู้จักกัน เราผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ เวลานัทอยู่กับเขาจึงรู้สึกอุ่นใจ แต่บางทีก็มีทำงี่เง่าใส่กันบ้าง (หัวเราะ) แต่ก็เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่มีเรื่องใหญ่เลยค่ะ
ทราบมาว่าทั้งสองคนชวนกันไปปฏิบัติธรรมด้วย ใช่ค่ะ
นัทเป็นคนเริ่มก่อน ไปมาเกือบสิบปีแล้ว พอรู้จักอั้มก็เลยชวนเขาไปด้วย วัดที่ไปเป็นประจำอยู่ที่จังหวัดราชบุรี ชื่อวัดป่าสันติพุทธาราม มี พระอาจารย์สงบ มนัสสันโต เป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐาน นัทไปที่นี่ครั้งแรกก็ประทับใจเลย เพราะเป็นวัดที่ไม่มีพิธีกรรมอะไร และได้อยู่กับธรรมชาติจริง ๆ ที่นี่ไม่มีแอร์ ไม่มีไฟฟ้า ถ้าจะใช้ไฟก็ต้องจุดเทียนจุดตะเกียง บางครั้งหากเราไม่ได้ไปปฏิบัติธรรม ก็จะไปถวายภัตตาหารหรือไปฟังเทศน์กัน ซึ่งก็มักจะได้มุมมองที่ดี ๆ กลับมาใช้ในชีวิตประจำวันทุกครั้ง
การปฏิบัติธรรมช่วยเปลี่ยนแปลงคุณนัทอย่างไรบ้างคะ
นัทรู้ว่าตัวเองเป็นคนใจร้อนคิดเร็ว ทำเร็ว ทุกคนรอบข้างรู้ว่านัทเป็นคนปรี๊ดเร็วมาก คือถ้าโกรธก็จะโกรธแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย เพราะลืมเร็ว นัทว่านี่คือข้อดีที่เราไม่อาฆาตเคียดแค้นใคร และพอเราได้มาอ่านหนังสือธรรมะเช่นของคุณดังตฤณ ซึ่งเป็นข้อความสั้น ๆเกี่ยวกับมุมมองความรักและการใช้ชีวิต ก็ทำให้นัทยิ่งเข้าใจชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อได้มาปฏิบัติธรรม พระอาจารย์สอนให้เรากลับมาสู่จิตใจตัวเอง ให้พิจารณาตัวเองว่าแท้จริงแล้วจิตใจของเรานั้นเป็นอย่างไร ทำให้นัทมองเห็นจิตใจที่ต้องฝืนกับกิเลส ซึ่งเมื่อมีคำถามหรือข้อสงสัย นัทก็ถามพระอาจารย์ตลอดซึ่งท่านมีคำตอบให้เราเสมอ
นัทชอบไปปฏิบัติธรรม เพราะนอกจากทำให้เรามีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจแล้ว ยังทำให้มีจิตใจที่เข้มแข็งมั่นคงขึ้น ทำให้เราเห็นธรรมะ
ที่เป็นสัจจะความจริงของชีวิตมากขึ้น นัทคิดว่า แม้เรามีงานทางโลกที่ต้องรับผิดชอบ แต่งานทางธรรมก็ทิ้งไม่ได้ และจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำคู่กันไป เพราะนี่คือเส้นทางเดินของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นทางตรงที่ไม่มีเรื่องเครื่องรางของขลังหรือเรื่องความเชื่อเข้ามา
เกี่ยวข้อง แต่เป็นหลักธรรมความจริงที่เราควรยึดถือปฏิบัติ
พูดได้หรือไม่คะว่าธรรมะมีส่วนช่วยให้คุณนัทกับคุณอั้มทำงานด้วยกันอย่างมีความสุข
นัทไม่อยากบอกว่าตัวเองเป็นคนดีตลอดเวลา เพราะบางทีก็มีงี่เง่าบ้าง แต่เมื่อได้มาปฏิบัติธรรมก็ทำให้เราคิดได้เร็ว เมื่อทำผิดก็รู้จักขอโทษ รู้จักสำนึกผิด มันดีกว่าที่เราทำอะไรโดยไม่รู้ตัวเลย คือธรรมะช่วยให้เรารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ รู้จักผิดชอบชั่วดีและยอมรับความเป็นจริง ซึ่งมีส่วนช่วยให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น อย่างเช่นเวลาที่นัทงอแงกับคุณอั้ม และรู้ตัวว่ากำลังทำผิด นัทก็จะ
เข้าไปขอโทษ จึงทำให้เขารู้สึกดีขึ้น ก็ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น นัทว่ามันดีกว่าที่เรารู้ว่าตัวเองทำผิดแล้วยังอยากเอาชนะ อย่างนั้น
ไม่ถูกต้อง
ทุกวันนี้อะไรคือความสุขของคุณนัทคะ
ความสุขของนัทคือการได้อยู่กับครอบครัว อยู่กับคนที่เรารัก นัทโชคดีที่มีญาติพี่น้อง มีเพื่อนที่ดี อีกทั้งยังมีทีมงานที่เป็นน้อง ๆ ที่น่ารัก มีคนรอบข้างที่สนิทกันซึ่งเขารักนัทมากและพร้อมสนับสนุนเราทุกอย่าง นอกจากนี้ยังมีครอบครัวของคุณอั้มที่เขารักนัท และมีคุณอั้มซึ่งพร้อมจับมือเดินไปด้วยกันเสมอ แม้บางครั้งอาจมีอุปสรรคบ้าง แต่เราก็ร่วมทุกข์ร่วมสุขฟันฝ่าด้วยกันมา นัทอยากบอกว่านัทไม่ต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว นี่คือความสุขของนัทที่เติบโตมาพร้อมกับคำว่า “ครอบครัว” ค่ะ
ขอขอบคุณ เสื้อผ้าคุณนัท - มีเรีย Bichalai, Garden เสื้อผ้าน้องฟ้าโปรด Paulaandbaby, H&M
เอื้อเฟื้อสถานที่ สตูดิโอ 128 CDC เลียบทางด่วนรามอินทรา
ที่มา: คอลัมน์ IDOL SECRET นิตยสาร Secret
เรื่อง ธันยาภัทร์ รัตนกุล ภาพปกและภาพประกอบ สุเมธ วิวัฒน์วิชา ผู้ช่วยช่างภาพ ชุติมา มลิชัยศรี, ทศพล ฆ้องคำ, กรวิทย์ คงสิบ สไตลิสต์ ณัฏฐิตา เกษตระชนม์ แต่งหน้า - ทำผม ฉัตรชัย เพียงอภิชาติ