20 ปีที่รอคอยของพ่อแม่ที่จำต้อง ทิ้งลูก
ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยาก ทิ้งลูก แต่เหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นกับ เคตี้ พอห์เลอร์ (Kati Pohler) นักศึกษาเชื้อสายจีนวัย 20 ต้น ๆ ในมิชิแกน สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการเลี้ยงดูจนเติบโตจากพ่อแม่บุญธรรม เคน และ รูธ พอห์เลอร์ (Ken and Ruth Pohler) และพี่ชายอีกสองคนคือ สตีเวน และ เจฟฟ์ ซึ่งเป็นลูกแท้ ๆ ของเคนกับรูธ
พ่อแม่ที่แท้จริงของเคตี้คือ ซู ลี่ต้า (Xu Lida) และ เฉียน เฟินเซียง (Qian Fenxiang) อาศัยอยู่ในประเทศจีนกับลูกสาวคนโต ช่วงที่ตั้งครรภ์เคตี้ในปี 1995 เป็นยุคที่ประเทศจีนมีนโยบายให้ประชาชนมีลูกคนเดียว เพื่อลดปัญหาความยากไร้ ดังนั้นเฉียนจึงต้องแอบคลอดเคตี้ในเรือบ้านโดยที่ซูเป็นคนตัดสายรกให้ด้วยกรรไกรที่ฆ่าเชื้อในน้ำเดือด การคลอดผ่านไปด้วยดีแต่รกไม่ยอมหลุดตามมาด้วย ซึ่งอันตรายมาก การไปโรงพยาบาลยิ่งเป็นไปไม่ได้ โชคดีที่มีคลินิกเล็ก ๆ อยู่ใกล้ที่จอดเรือ และคุณหมอที่นั่นใจดีมาก ยอมช่วยสองสามีภรรยาโดยไม่ไปแจ้งทางการ
ห้าวันต่อมา ซูตื่นแต่เช้ามืด นำลูกไปตลาดโดยเอาผักคลุมไว้ เขาทิ้งลูกน้อยไว้ที่นั่นพร้อมเขียนโน้ตแนบไว้ บอกวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟาก บอกถึงสาเหตุที่จำใจทิ้งลูกน้อยเพราะถูกบีบบังคับจากความยากไร้ รวมทั้งยังกล่าวขอบคุณผู้มีเมตตาที่จะเก็บลูกสาวไปอุปการะ และลงท้ายว่าหากสวรรค์รับทราบถึงเรื่องนี้ในอีก 10 หรือ 20 ปีข้างหน้า ขอให้เราได้พบหน้ากันอีกที่สะพาน Broken Bridge ในมณฑลหางโจวในช่วงเช้าของเทศกาลชีซี (Qixi Festival)
หลังจากนั้นหนูน้อยถูกส่งไปยังสถานสงเคราะห์เด็ก ซึ่งในเวลานั้นเคนและรูธสองสามีภรรยาชาวอเมริกันจากเมืองฮัดสันวิลล์ รัฐมิชิแกน ก็ตัดสินใจจะรับอุปการะเด็กสักคนพอดี ถึงแม้จะมีลูกชายของตัวเองแล้วสองคนก็ตาม ความจริงทั้งสองไม่ได้เจาะจงว่าจะรับเด็กจากประเทศไหนเป็นพิเศษ แต่พอดีว่าน้องสาวของรูธรับอุปการะเด็กจากจีนมาก่อนหน้านี้ ก็เลยเลือกประเทศจีน
ในปีต่อมา เอเยนซี่ของอเมริกาที่รับจัดการเรื่องอุปการะเด็กข้ามชาติก็พาเคนและรูธเดินทางไปประเทศจีน จึงได้พบกับหนูน้อยที่มาพร้อมกับโน้ตแผ่นนั้น เมื่อมีคนแปลข้อความในกระดาษให้รูธฟัง เธอถึงกับน้ำตาไหลด้วยความสะเทือนใจ ทั้งสองตั้งใจว่าจะยังไม่บอกอะไรกับเคตี้จนกว่าเธออายุ 18 หรือจนกว่าเธอจะอยากรู้อดีตของตัวเองขึ้นมา ซึ่งทั้งคู่ก็เลี้ยงดูเคตี้เป็นอย่างดีราวกับลูกแท้ ๆ ของตัวเอง
20 ปีต่อมาเคนและรูธต้องการให้พ่อแม่ที่แท้จริงของเคตี้รู้ว่าลูกสาวเติบโตในครอบครัวที่รักและดูแลเธออย่างดี จึงตัดสินใจเดินทางไปพบ แต่ก็ช้าไป พวกเขาคลาดกับเฉียนและซูเพียงไม่กี่นาที โชคดีที่สำนักข่าวแห่งหนึ่งทราบเรื่องนี้จึงช่วยเผยแพร่ ทำให้พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายได้ติดต่อกัน
ต่อมาเคนและรูธก็บอกเคตี้เรื่องโน้ตนัดพบของพ่อแม่ที่แท้จริง เธอจึงเดินทางไปจีน และได้พบกับพ่อแม่ที่แท้จริงในช่วงเช้าของเทศกาลชีซีเมื่อปีที่แล้ว คงไม่ต้องบอกว่าวินาทีที่ได้เจอหน้ากัน ต่อมน้ำตาจะแตกขนาดไหน
ถึงแม้ว่าต้องใช้ล่ามช่วยเพราะเคตี้พูดภาษาจีนไม่ได้ แต่ทุกคนก็ดีใจและกอดกันกลมน้ำตาไหลพรากอย่างมีความสุขที่ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง
ซูและเฉียนสารภาพว่า ตนเองรู้สึกผิดกับเรื่องนี้มาตลอด ตอนที่เคตี้อายุครบ 10 ขวบ ทั้งสองมายืนชูป้ายซึ่งเขียนข้อความเดียวกับในโน้ตแผ่นนั้น อยู่ที่สะพานทั้งวัน ก็ไม่ปรากฏแม้เงาของลูกสาวหรือคนที่รับเลี้ยงเธอไป จึงกลับบ้านด้วยความผิดหวังและหัวใจที่ร้าวราน
เมื่อมาทราบว่า ลูกสาวถูกรับเลี้ยงไปอยู่ที่อเมริกา ทั้งสองแปลกใจมาก แต่ก็ดีใจสุด ๆ เมื่อเห็นว่าลูกมีความเป็นอยู่สุขสบายกว่าอยู่ที่เมืองจีน ซึ่งช่วยปลดปล่อยทัั้งคู่จากความทุกข์ทรมานที่แบกไว้มานานถึง 20 ปี ถึงแม้จะต้องสื่อสารกันผ่านล่ามแต่ซูและเฉียนก็สามารถบอกได้ว่าเคตี้เป็นเด็กดี ยิ่งพอได้พบหน้ากันก็ยิ่งคิิดถึงลูกมากขึ้น แต่สำหรับเรื่องการกลับมาอยู่ด้วยกันอีกคงต้องทำใจและบอกตัวเองว่า คิดซะว่าลูกสาวคนนี้แต่งงานออกเรือนไปก็แล้วกัน
***เคตี้กับพ่อแม่บุญธรรม***
ที่มา : นิตยสาร Secret ฉบับที่ 229
เรียบเรียง : ชนาฉัตร
ภาพ : scmp.com, The Intelligencer, CBS News, AsAm News
บทความน่าสนใจ