ผู้มีความเพียรเท่านั้นถึงจะประสบความสำเร็จ คำสอนของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร
หลวงปู่สิมได้กล่าวถึงความเพียรว่า ความเพียรเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จทั้งปวง และเป็นหัวใจของการภาวนา เพราะหากเราไม่มีความเพียรเสียแล้ว การภาวนาเพื่อให้เข้าถึงธรรมก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ และการภาวนานั้นถือว่าเป็นการทำความดีที่ประณีตและได้อานิสงส์สูงสุด ฉะนั้นเราจึงต้องนำความเพียรมาเป็นกำลังเกื้อหนุนการภาวนา เพื่อให้การภาวนาเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป
“ความเพียรนี้แหละท่านว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญ…พระพุทธเจ้าตรัสว่า ผู้มีความพากเพียรพยายามแล้ว กิจกรรมการงานใด ๆ ไม่เหลือวิสัย ผู้มีความเพียรพ้นทุกข์ได้ แต่ผู้มาภาวนาตั้งใจปฏิบัติไม่มีความเพียร แต่อยากให้จิตใจของตนพ้นจากความทุกข์ความเร่าร้อนต่าง ๆ นานา…ก็อุบายที่ไม่ขี้เกียจนั่นแหละ…ทำอย่างไรข้าพเจ้าจะสู้กับกิเลสราคะ โทสะ โมหะในใจได้ ไปสู้ที่ไหน ก็สู้ด้วยความเพียร สู้ด้วยความตั้งใจมั่น เราตั้งใจลงไปแล้วให้มันมั่นคง ไม่มั่นคงอย่าไปถอย เมื่อจิตใจไม่ถอย จิตใจเพียรพยายามอยู่ หาวิธีการที่จะเอาชนะกิเลสในใจของตนให้ได้
“พระองค์ตรัสว่า เพียรพยายามอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก คำว่าทุกลมหายใจเข้าออก นั่นคือว่า เพียรอยู่เสมอ ตั้งใจอยู่เสมอ…เพียรพยายามฝึกตัวเองอยู่ มันจะเหลือวิสัยผู้มีความเพียรไปไม่ได้ เพราะว่าบนแผ่นดินนี้ ผู้มีความเพียร ผู้ไม่ท้อแท้อ่อนแอในดวงใจ ไม่ว่าจะทำอะไรย่อมสำเร็จได้ ดูตัวอย่างพระพุทธเจ้า เมื่อเห็นแล้วต้องตั้งความเพียรลงไป ภาวนาลงไป เมื่อมันยังไม่ตาย จะไปถอยความเพียรก่อนไม่ได้ ให้มันตาย มนุษย์เผาไฟแล้วจึงค่อยถอย ถ้ามันยังไม่ตาย เราจะไปถอยความเพียรไม่ได้
“ดูพระสาวกในครั้งพุทธกาล ท่านทำจริง ท่านเดินจงกรมอย่างเดียว เอาจนได้สำเร็จมรรคผล เห็นแจ้งพระนิพพาน ท่านทำอย่างไร คำว่าจริง ทีนี้ท่านนั่งภาวนามันก็ง่วงเหงาหาวนอนเหมือนเราท่านทั้งหลายนี่แหละ ท่านก็ไม่ยอมนั่ง ถ้านั่งมันสัปหงก ท่านไม่นั่ง ท่านเดินจงกรม…เดินเอาอย่างเดียว เดินจนไม่รู้ว่ามันนานเท่าไหร่ละ เดินจนหนังเท้าแตกเลือดไหลเดินไม่ได้
“แล้วเราท่านทั้งหลายผู้นั่งภาวนาอยู่นี่เดินจนเท้าแตกเลือดไหลเดินไม่ได้ มีหรือ ไม่เห็นมี…เราได้คลานภาวนาจนเข่าแตกเลือดออกมีไหม ไม่มี มีแต่นอนห่มผ้าให้มันตลอดคืน มันจะได้สำเร็จมรรคผลอะไร ก็ได้แต่กรรมฐานขี้ไก่เท่านั้นเองแหละ กรรมฐานขี้ไก่ กรรมฐานขี้หมู ไม่ลุกขึ้นภาวนาเหมือนพระแต่ก่อน พระแต่ก่อนท่านไม่ได้เดิน ท่านคลานเอา
“ถามหัวใจตัวเองว่ามีความเพียรหรือยัง มันตั้งใจมั่นหรือยังในใจนั้น…เพียรละกิเลสทำไมไม่เพียร เพียรเอากิเลสทำไมมันเพียรเอาได้ กิเลสราคะ โทสะ โมหะ ทำไมมันมีเต็มกายเต็มใจเต็มวาจาของทุก ๆ คน ไปไหนมาไหนก็กิเลสความโกรธ ความโลภ ความหลง แบกไป หาบไป หามไปทะเล่อทะล่า กิเลสพระพุทธเจ้าสอนให้ละทิ้ง ได้ละทิ้งหรือยัง ไม่ทิ้งเดี๋ยวนี้จะเอาไปทิ้งที่ไหน ไม่ตั้งเดี๋ยวนี้ไปตั้งที่ไหน ไม่เพียรพยายามเดี๋ยวนี้จะไปเพียรเมื่อใดเวลาใด โกหกพกลมตลอดเวลา ใจไม่จริงคนไม่จริง เกิดมาทำไม เป็นชายทำไมใจไม่แก่กล้าสามารถเหมือนพระพุทธเจ้า เป็นหญิงทำไมไม่แก่กล้าสามารถ เกิดมาตายเสียดีกว่าเปลืองข้าวสุก
“ฉะนั้นพุทธภาษิตที่พระองค์ทรงตรัสไว้ว่า วิริเยนะ ทุกขะมัจเจติ บุคคลจะล่วงทุกข์ไปได้เพราะความเพียร พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าก็เพราะความเพียร พระอริยสงฆ์สาวกเจ้าทั้งหลาย ท่านได้บรรลุมรรคผลเห็นแจ้งพระนิพพาน ท่านก็มีความเพียร ความขี้เกียจขี้คร้านมักง่าย ท่านละทิ้งปล่อยทิ้งตัดทิ้ง เอามันเด็ดขาดลงไป ความเพียรมันก็เกิดขึ้นเต็มที่ ไม่ว่ากิจกรรมงานใด ๆ ภายนอกภายใน เมื่อมีความเพียรก็ทำได้ปฏิบัติได้ทุกอย่าง
“ฉะนั้นดวงจิตดวงใจของเราอย่าได้ประมาทต่อไป ประมาทแล้วก็ให้แล้วไป ตั้งแต่เดี๋ยวนี้ขณะนี้ ปัจจุบันนี้เป็นต้นไป เราจะไม่ประมาททุกลมหายใจเข้าออก มรณกรรมฐาน พุทโธในดวงใจไม่ให้หลงลืม”
ที่มา ชุดสุดยอดสงฆ์ 2 : หลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ
ภาพ dhammathai.org