สิทธิที่จะตายอย่างสงบ – ธรรมะของพระไพศาล วิสาโล
เขมานันทะ นักเขียนและศิลปินที่หลายคนนับถือเป็นครูทางจิตวิญญาณ ได้เล่าถึงเหตุการณ์หนึ่งซึ่งประทับใจมากในวัยเด็ก คือเมื่อทวดของท่านสิ้นลม ตอนที่ท่านจากไปนั้น “ท่านนั่งขัดสมาธิพิงเสาเรือน ใบหน้าอิ่มเอิบ ผิวงามผู้ใหญ่บอกให้ผมเข้าไปกราบใกล้ๆ ผมไม่รู้สึกกลัวเลย” เขมานันทะยังเล่าถึงป้าวัย 93 เมื่อจะสิ้นลม ท่านรู้ตัวดีสั่งให้ไปตามพระเก้ารูปมาสวดชยันโต ท่านจากไปโดยพนมมืออยู่บนอกขณะที่พระกำลังสวดมนต์
การตายอย่างสงบนั้นมิใช่สิ่งเหนือวิสัยของปุถุชน และไม่ได้จำกัดเฉพาะภิกษุผู้ทรงศีลเท่านั้น
แม้คนทั่วไปก็สามารถเข้าถึงความสงบในวาระสุดท้ายได้ จะเรียกว่านี่เป็นสิทธิของทุกคนก็ว่าได้ แต่ไม่มีสิทธิอะไรที่ได้มาเปล่าๆ ต่อเมื่อทำหน้าที่ครบถ้วน เราจึงจะได้สิทธินี้มา
การตายนั้นเป็นหน้าที่ของทุกชีวิต หากเราทำหน้าที่นี้ด้วยดี
เราจึงจะได้สิทธิในการตายอย่างสงบ ปัญหาก็คือคนทุกวันนี้ไม่ยอมรับว่าตัวเองมีหน้าที่ดังกล่าว หรือถึงจะยอมรับแต่ก็พยายามบ่ายเบี่ยง หลีกเลี่ยง หรือผัดผ่อนตลอดเวลา เพียงแค่ระลึกถึงความตายที่จะต้องเกิดขึ้นกับตน คนส่วนใหญ่ก็ไม่อยากทำแล้ว อ้างว่าเป็นเรื่องไกลตัวบ้าง เป็นอัปมงคลบ้าง ผลก็คือเมื่อวาระสุดท้ายมาถึงจึงตายอย่างกระสับกระส่ายทุรนทุราย
การทำหน้าที่ต่อความตาย ประการแรกหมายถึง การยอมรับว่าสักวันหนึ่งเราจะต้องตาย
ความตายเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่มีใครหนีพ้น เขมานันทะเล่าถึงป้าผู้ชราว่า เมื่อครั้งที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ มีญาติวิ่งตื่นตกใจมาบอกว่าหลานผู้ใกล้ชิดคนหนึ่งเสียชีวิตแล้ว ท่านฟังจบก็พูดเบาๆว่า“มึงเคยเห็นคนไม่ตายบ้างเหรอ” ประการต่อมาคือ การเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมรับความตายอยู่เสมอ เพราะความตายนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาทุกสถานที่ “เตรียมตัว”หมายถึงการทำสิ่งสำคัญในชีวิตให้แล้วเสร็จ ไม่ให้เป็นภาระค้างคาใจ เช่น ทำหน้าที่ต่อพ่อแม่ ลูกหลาน คนรักอย่างครบถ้วน จนมั่นใจว่าเขาจะอยู่ได้โดยไม่มีเรา มีเรื่องราวอะไรที่ติดค้างใจก็สะสางให้จบ ภารกิจใดที่สำคัญก็ไม่ปล่อยให้คั่งค้างเป็นภาระแก่คนอื่น
เตรียมตัวยังรวมไปถึงการทำดี ละชั่ว หมั่นสร้างสมบุญกุศลอยู่เสมอ
เพราะเมื่อวาระสุดท้ายมาถึง หากระลึกถึงความดีที่ได้ทำก็จะเกิดความอิ่มเอิบ ภาคภูมิใจที่ได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า รวมทั้งมั่นใจในภพหน้าว่าจะได้ไปสุคติ เพราะเมื่อละโลกนี้ไปแล้ว มีแต่บุญและบาปเท่านั้นที่จะติดตามไปด้วย ทรัพย์สมบัติ เกียรติยศ อำนาจ หรือบริษัทบริวารนั้น เอาไปด้วยไม่ได้เลยแม้แต่อย่างเดียว
“เตรียมใจ”หมายถึงการระลึกอยู่เสมอถึงความตายที่จะต้องมาถึงไม่วันใดก็วันหนึ่ง(มรณสติ)ทั้งนี้เพื่อใจจะได้คุ้นชินกับความตาย
ขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องกระตุ้นเตือนให้เร่งทำสิ่งสำคัญในชีวิตให้แล้วเสร็จ เพื่อจะได้ไม่ทุกข์ใจในภายหลัง เตรียมใจยังรวมถึงการฝึกใจให้พร้อมปล่อยวางทุกสิ่ง เมื่อวาระสุดท้ายมาถึง ไม่หวงแหนอาลัยในชีวิตหรือห่วง กังวลคนรัก รวมไปถึงการพร้อมรับมือกับทุกขเวทนาที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายโดยใจไม่ทุกข์ทรมานไปด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การบ่มเพาะสติ สมาธิ และปัญญา จนใจ ไม่หวั่นไหวต่อความพลัดพรากหรือความทุกข์ใดๆ ที่เกิดขึ้น
เมื่อเตรียมตัวเตรียมใจไว้ดีแล้ว หากวาระสุดท้ายมาถึง ก็สามารถตายได้อย่างดีที่สุด กล่าวคือยอมรับความตายได้ ไม่ดิ้นรนขัดขืน พร้อมละจากโลกนี้ไป
เพื่อเปิดทางให้คนอื่น หรือชีวิตอื่นได้มาอาศัยและใช้ประโยชน์จากโลกนี้บ้าง ถึงตอนนั้นจึงมีสิทธิที่จะตายอย่างสงบ แต่หากละเลยการเตรียมตัวเตรียมใจดังกล่าวแล้ว ความสงบก็อาจอยู่ไกลเกินไขว่คว้าเมื่อจวนสิ้นลม
คุณพ่อวัยเจ็ดสิบผู้หนึ่งล้มป่วยเพราะไตวายหลังจากล้างไตมานานนับสิบปี ก็ตระหนักว่าความตายจะมาถึงเมื่อไรก็ได้ วันหนึ่งจึงบอกลูกว่าอยากทำพินัยกรรม แต่ลูกๆไม่ยอม เห็นว่าเป็นลางร้าย และคิดว่าพ่อยังแข็งแรงดีอยู่ แต่แล้ววันหนึ่งขณะที่ล้างไต ความดันของพ่อขึ้นสูงจน เส้นเลือดในสมองแตก พ่อยังพอมีความรู้สึกตัวอยู่จึงขอกลับไปตายที่บ้าน แต่ลูกๆไม่ยอม ยืนกรานให้รักษาที่โรงพยาบาล แม้หมอจะพยายามช่วยชีวิตเต็มที่ แต่ก็ไร้ผลสองวันต่อมาพ่อก็เสียชีวิต สิ่งที่ลูกๆเห็นก็คือพ่อตายตาไม่หลับ หน้านิ่วคิ้วขมวด เหมือนกับมีเรื่องค้างคาใจอยู่
อีกกรณีหนึ่งเป็นผู้หญิงป่วยด้วยโรคมะเร็ง ตอนที่เสียชีวิตตาของเธอเปิดค้าง พยาบาลพยายามปิดเปลือกตา แต่ก็ไม่สำเร็จ ตั้งแต่สามทุ่มจนเช้าตาก็ยังเปิดอยู่ ญาติที่มารับศพรู้สึกแปลกใจ มีคนหนึ่งฉุกคิดขึ้นมาว่าผู้ตายคงเป็นห่วงลูกคนสุดท้อง เพราะลูกชายสองคนแรกติดยาถูกจับเข้าคุก ตอนมีชีวิตอยู่เธอเคยบ่นว่ากลัวลูกชายวัย10ขวบจะลงเอยเหมือนพี่ ญาติผู้นั้นจึงจุดธูปแล้วบอกผู้ตายว่าจะดูแลหลานคนนี้ให้ ไม่ต้องห่วง พูดจบพยาบาลก็ปิดเปลือกตาผู้ตาย คราวนี้ได้ผล ตาทั้งคู่ปิดสนิท
ทุกวินาทีที่เรายังมีลมหายใจอยู่ ขอให้ระลึกว่า คือโอกาสสำหรับการเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อสิทธิที่จะตายอย่างสงบ อย่าปล่อยให้โอกาสดังกล่าวหลุดลอยไป เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่าความตายจะจู่โจมถึงตัวเมื่อใด
บทความน่าสนใจ
ก่อนมาเป็น หลวงพ่อเทียน โดย พระไพศาล วิสาโล
พระไพศาล วิสาโล กับการจาริกสู่ความสุขอันประเสริฐ
ทุกคนมี คุณค่า ในมุมมองของพระพุทธศาสนา บทความธรรมะโดย พระไพศาล วิสาโล