“ยายผิงกับแมว” เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม จากหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม เป็นเรื่องของหญิงคนหนึ่งชื่อ ยายผิง เคยอาศัยอยู่ที่วัดหลวงพ่อจรัญ ลูกของยายไม่ยอมเลี้ยงดู พอมีลูกสะใภ้ก็ไล่เธอออกจากบ้าน เธอจึงต้องหอบผ้าหอบผ่อนไปขอหลวงพ่อทำงานรับใช้วัด แลกที่อยู่ที่กิน
ยายผิงเป็นคนเกลียดแมวเข้าไส้ เห็นแมวทีไรก็ต้องไล่ตีไล่เตะ บางครั้งเธอคว้าเอาตาลปัตรของหลวงพ่อมาไล่ตีก็มี แต่ยิ่งตีเท่าไหร่ แมวก็ยิ่งสร้างความเกลียดให้ยายผิงด้วยการขับถ่ายเรี่ยราด จนหลวงพ่อว่า “แมวนี่แปลก ถ้าด่า มันยิ่งขี้ มันขี้เปรอะเลอะพรมหมด”
วันหนึ่ง หลวงพ่อจรัญ มองเห็นแมวคู่อริยายผิงเดินลงไปด้านล่างกุฏิ แล้วชวนสมัครพรรคพวกมาขับถ่าย
“มันเกลียดยายผิงที่ด่ามัน มันไปชวนเพื่อนมาช่วยขี้ ให้ยายผิงเช็ด แมวที่บ้านใครไม่รู้ มันชวนเป็นแถวหมด แล้วมาถึงขี้เอา ๆ แล้ววิ่งเลย อาตมาเห็นกับตาแล้ว โอย เห็นไหมมันขี้ทีเดียวไม่พอนะ มันไปชวนเพื่อนชวนสมัครพรรคพวกมันมาช่วยขี้ที่กุฏิอาตมาแล้วให้ยายผิงเช็ด ยายผิงก็ด่าไปเช็ดไป ด่าไป อะไรอย่างนี้นะ เดี๋ยวอีกวันไปชวนเพื่อนมาอีก ชวนเพื่อนยังไม่พอ ชวนหมามาขี้ แหม แมวนี่สำคัญ เอายังไงนี่เรื่องจริงที่นี่นะ ถามคนที่นี่ดู”
หลังจากหมดแขกที่มากราบไหว้หลวงพ่อแล้ว ท่านก็เรียกยายผิงมาหา เพื่อขอบิณฑบาตให้ยายผิงเลิกตีแมว
“นี่โยมไปด่าแมว มันยิ่งขี้เห็นไหม” หลวงพ่อถาม
“เห็นเจ้าค่ะ…และฉันจะทำยังไงเจ้าคะ ก็แผ่เมตตาไม่ออก อยากจะกระทืบเสียเลย อยากจะกระทืบแมว…แหมหลวงพ่อ เอาอย่างงี้เหอะ หาตะคอกให้ฉันสักลูกเถอะ จะจับไปปล่อยแถวพรหมบุรี” ยายผิงตอบด้วยความโกรธแค้น
“อย่า บ้านแตกสาแหรกขาด อย่าไปปล่อย วิธีของเราอย่างนี้ โยมนั่งกรรมฐานเสียซี” หลวงพ่อพูด
ยายผิงไม่เคยนั่งกรรมฐานมาก่อน หลวงพ่อจึงสอนยายผิง พร้อมกับสอนให้ยายผิงแผ่เมตตาต่อแมว
“บอกแมวว่า แม่แมวเอ๋ย อย่าขี้เลยนะ เรากวาดลำบากไปขี้ที่อื่นเถิด ต่อไปนี้ฉันจะไม่ด่าแก ฉันจะไม่ตีแก ให้สัญญากับแก ไปขี้ที่อื่นนะ พูดให้เพราะ ๆ ยายผิงพูดกับแมวจ๊ะจ๋าหน่อยซี แมวมันก็มีชีวิต แมวตามบ้านที่มาปล่อยวัดเพราะอะไร ขี้รดหัวเตา ก็เจ้าของบ้านไม่มีราศี ไม่มีสกุลรุนชาติ แมวจึงขี้รดหัวเตา เอ้า ลองดูซิ พอขี้รดหัวเตาแล้วทำไง เอามาปล่อยวัด แล้วที่หมามันไม่ขี้ตามถนนหนทางนี่น่ะ เพราะมันมีระเบียบ มันชวนกันขี้ที่ท่าโน้น ไม่เหมือนวัดสุทัศน์ นกกระจาบขี้ตามถนนเต็มไปหมด นี่มีขี้ตามถนนไหม ไม่มีหรอก มันขี้ที่ท่า ถามมันดูซิ ลองไปตีไปเตะ ไม่ช้าก็ขี้ตามถนนหรอก ที่ขี้ตามนี้ไม่ใช่หมาที่วัด มีคนมาปล่อยไว้ 2 วันนี้ยังไม่ได้หัดมัน
“อย่าไปตีมัน เตะมัน เสียสกุลรุนชาติ เอาตีนเตะแมวเตะหมานี่นะ แมวหมาเสียแมวเสียหมา กลับมาขี้รดเป็นกาลกิณีประจำบ้าน บางบ้านมันออกลูกกรอกให้เลย แม่แมวจ๋ามาทานเสียตรงนี้ แมวบางตัวมันขี้ในส้วม อาตมาเห็นบางตัวมันเข้าไปในส้วมเลย เอ๊ะ แมวมันเข้าไปทำไมหว่า อ้อ ไปถ่ายลงบ่อนะพอดีเลย ลงโถพอดีเลย บางคนเห็นแมวไปตีไปเตะ เสียสกุลรุนชาติ ไม่ใช่เสียแมว เสียที่คน คนไม่มีสกุลรุนชาติ แมวก็ขี้ให้เช็ดเสียดูนะ อันนี้เรื่องจริงนะ”
หลังจากได้ฟังหลวงพ่อสอน ในที่สุดยายผิงก็ยอมพูดเพราะ ๆ กับแมว และเลิกเตะตีแมว ยายผิงเล่าให้หลวงพ่อฟังว่า หลังจากทำตามคำแนะนำของหลวงพ่อ เธอก็ไม่ต้องเช็ดขี้แมวอีกเลย หลวงพ่อจึงเล่าเรื่อง กฎแห่งกรรม สมัยยังเด็กให้ยายผิงฟังว่า
“ตอนอาตมาเป็นเด็กเคยไปเที่ยวตามบ้าน บ้านโยมเขามีลูกสาวสวย อยากจะไปชอบลูกสาวเขา อาตมาไปเห็นหมาเยอะ เออ หมาบ้านพ่อตานี่เยอะจัง ขว้างมันเลย วันหลังเราไปเห่าเราคนเดียว มันจำแม่น สิบปีมันยังจำได้
จะบอกเทคนิคโยมที่จะไปบ้านลูกสาวใคร สมมติว่า ติดพันลูกสาวบ้านใครเอาลูกชิ้นไป ห่อไปให้ได้ หมามันชอบลูกชิ้น โอยมันจำหน้าไว้เลย วันหลังไปมันเชิญ ๆ เอาลูกชิ้นมาหรือเปล่า เลียแข้งเลียขาลูกชิ้นมาหรือเปล่า อั้นแน่ ลูกชิ้นไม่ได้เอามา วันหน้ามาต้องกัด เอ้าลองดูซี ถ้าไม่เชื่อตามใจนะ ถ้าไปขว้างหมา ไม่ต้องคนหรอก แค่หมามันก็เกลียด หมาก็เกลียด เราไปขว้างมัน ไปไล่มัน ไปด่ามัน พูดวาจาสามหาว ไม่มีสัจจะวาจา พูดจาไม่ดี แมวก็เกลียดหมาก็เกลียด ยังอุตส่าห์มาช่วยขี้นะ…”
หลวงพ่อเล่าว่าสรุปแล้ว ไม่มีอะไรดีเท่าแผ่เมตตา ที่ได้จากการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน
ที่มาจากหนังสือ กรรมและการแก้กรรม โดย กานต์ ชลอาภา
บทความน่าสนใจ