ปรุงแต่ง ให้ดีชีวีมีสุข บทความจาก นายแพทย์ชวโรจน์ เกียรติกำพล
“สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งตาแหลมคม เห็นดวงดาวอยู่พราวพราย”
“Two men look out through the same bars : One sees the mud and one the stars”
สุภาษิตอังกฤษจาก A Cluster of Quiet Thoughts (1896) เขียนโดยเฟรเดอริก แลงบริดจ์ แปลโดยเจษฎาจารย์ ฟ. ฮีแลร์
ผมนึกถึงสุภาษิตอังกฤษที่แปลเป็นภาษาไทยได้อย่างสวยงามสละสลวยนี้ เมื่อครั้งหนึ่งได้รักษาผู้ป่วยสองรายพร้อม ๆ กันเธอทั้งสองป่วยด้วยโรคเดียวกัน ได้รับการวินิจฉัยในเวลาใกล้เคียงกัน อายุใกล้เคียงกัน แต่การพยายามทำความเข้าใจอาการเจ็บป่วย และรับมือกับโรค ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คนหนึ่งมองโรคเหมือนโคลนตมที่ตนเองกำลังจมดิ่งลงไปอย่างเปรอะเปื้อนสกปรก อีกคนหนึ่งกลับมองว่าเป็นดวงดาวที่กำลังฉายแสงส่องสว่างให้โอกาสได้ฝึกฝนตัวเอง
จันทิมากับเกสรา อายุประมาณ 40 ปีพวกเธอรูปร่างท้วม ก่อนหน้านี้มีโรคประจำตัวคนละหลายโรค เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เธอเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเวลาใกล้ ๆ กันด้วยอาการแขนขาข้างซ้ายอ่อนแรง แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ หรือที่คนทั่วไปชอบเรียกกันว่าเป็นโรคอัมพาตนั่นเองครับ เรารักษาและให้คำแนะนำตามมาตรฐานการรักษาในปัจจุบันแก่เธอทั้งสองเหมือนกัน
แต่สิ่งที่ทีมผู้รักษาสังเกตเห็นได้ถึงความแตกต่างที่ชัดเจนคือ ทัศนคติในการลุกขึ้นสู้ของเธอทั้งสองนั้นช่างแตกต่างกันเหลือเกิน
จันทิมามักปฏิเสธคำแนะนำของทีมผู้รักษา ทั้งแพทย์ พยาบาล และนักกายภาพบำบัด เธอให้เหตุผลว่า แม้จะรับประทานยาทำกายภาพบำบัดมากขนาดไหนก็คงไม่ดีขึ้นเป็นการเสียเวลาเปล่า เพราะเธอเห็นตัวอย่างผู้ป่วยแบบนี้มาหลายคน มีคนหนึ่งเป็นญาติสายตรงของเธอเอง นอกจากนี้เวลาครอบครัวของเธอพากันมาเยี่ยม เธอมักทำเมินเฉยหรือบางทีก็สั่งคุณพยาบาลไว้ว่า เธอต้องการพักผ่อนแบบส่วนตัว ไม่ต้องการให้ใครเข้าพบเพราะจริง ๆ แล้วเธอบอกว่าญาติที่มาเยี่ยมเธอเมื่อเห็นเธอในสภาพเช่นนี้แล้วคงสมเพช และบางคนคงคิดสมน้ำหน้าเธอด้วย จันทิมาน้ำหนักลดลงเรื่อย ๆ เพราะไม่ยอมให้เราให้อาหารเพิ่มเติมทางสายยาง เนื่องจากเธอยังมีความผิดปกติเรื่องการกลืนอาหาร แต่ก็พยายามฝืนกลืนอาหารเองเมื่อถูกคาดคั้นทำให้มีปัญหาสำลักอาหารบ่อยครั้ง ส่วนยานั้นเธอไม่ได้รับประทานเลย บางครั้งก็แอบเอาไปซ่อนไว้ หรือทิ้งลงถังขยะ
เกสราจะกลับมาเดินได้ไหมเหมือนเดิมหรือไม่ คลิก อ่านหน้าต่อไปที่หมายเลข 2 ค่ะ