คำร้องขอของเจ้ากรรมนายเวร –ถ้าวันหนึ่ง เจ้ากรรมนายเวร ต้องการชีวิตคนที่คุณรัก คุณจะทําอย่างไร
1
ฉันอาศัยอยู่กับน้าตั้งแต่เล็ก ๆ จนโตทํางานแล้วก็ยังอยู่ด้วยกัน เพราะพ่อแม่ไปทํางานต่างประเทศ จะกลับมาเยี่ยมปีละ 2 – 3 ครั้ง ระยะหลังมานี้ฉันสังเกตว่าน้าไอเรื้อรัง ดูอ่อนเพลียอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พอจะพาไปหาหมอ น้าก็ปฏิเสธ บอกแค่ว่าช่วงนี้ทํางานหนักเลยอ่อนเพลียนิดหน่อย ฉันไม่อยากบังคับจึงเฝ้าดูอาการอย่างเงียบ ๆ ยิ่งนานวันน้ายิ่งไอหนักขึ้น บางครั้งไอจนหอบ แต่ไม่ว่าฉันจะพูดอย่างไรน้าก็ไม่ยอมไปโรงพยาบาล ฉันเริ่มไม่สบายใจ แต่คิดไม่ออกว่าควรทําอย่างไรดี
2
วันหนึ่งน้องในออฟฟิศชวนไปดูดวง เธอโฆษณาว่า หมอดูคนนี้แม่นที่สุดในสามโลก ฉันรีบตกลง ตอนนั้นคิดแค่ว่า เอาวะ ถ้าแม่นจริงจะได้รู้กันไปว่าน้าเป็นอะไรกันแน่ เผื่อหมอดูจะแนะนําอะไรให้ฉันสบายใจได้บ้าง
3
หมอดูเป็นผู้หญิงอายุราว 25 ปี เธอให้เขียนชื่อ – นามสกุลในกระดาษ ฉันเขียนชื่อของน้าลงไปก่อนเพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ แล้วเขียนชื่อตัวเองในกระดาษแผ่นถัดมา หมอดูหลับตาประมาณ 10 นาที ก่อนจะลืมตาแล้วบอกว่า
4
“ชื่อแรกที่ไม่ใช่ชื่อคุณ ถึงเวลาที่เจ้ากรรมนายเวรจะเอาคืนแล้วค่ะ เขาต้องการชีวิต”
5
ได้ยินแบบนั้นใจฉันตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม พูดอะไรไม่ออก หมอดูคงจะเห็นสีหน้าอันซีดเผือดของฉันจึงพูดต่อว่า
6
“น้าของคุณเป็นมะเร็ง 3 จุด จากที่เราเห็นตอนนี้เนื้อร้ายก้อนเท่าไข่ไก่ทั้ง 3 ที่ ตาของคุณเคยเลี้ยงนกกับไก่ใช่ไหม เขากักขังหน่วงเหนี่ยวพวกมันจนสัตว์เหล่านั้นอาฆาตเอาไว้ เขาไม่ได้อาฆาตแค่ตาของคุณ แต่อาฆาตเชื้อสายของตาคุณด้วย และตอนนี้ถึงเวลาที่กรรมส่งผลแล้ว เขากําลังจะมาเอาชีวิตน้าคุณ และรายต่อไปก็คือคุณ”
7
ฉันอึ้งไป เพราะตาเลี้ยงนกและไก่อย่างที่หมอดูบอก และไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ เพราะฉันชื่อนก ส่วนน้องชายชื่อไก่ หมอดูหลับตาอีกครั้ง คราวนี้ใช้เวลานานกว่าเคย ฉันเริ่มกระสับกระส่ายเพราะอยู่ท่ามกลางความเงียบ สักพักหมอดูลืมตาขึ้นมาและบอกว่า
8
“ทางแก้มีทางเดียว เจ้ากรรมนายเวรบอกว่า ต้องให้น้าของคุณสวดมนต์บทธัมมจักกัปปวัตตนสูตรเป็นเวลา 7 วัน เขาต้องการฟังธรรมของพระพุทธเจ้าจากปากน้าคุณ จากนั้นให้สวดบทมงคลจักรวาลใหญ่ต่อ และตัวคุณต้องร่วมสวดพร้อมกับน้าด้วย อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทําคือ ให้น้าของคุณปล่อยนกจากหน้าต่างโรงพยาบาลเป็นเวลา 7 วัน เพื่อปลดปล่อยสัญญากรรมที่มีต่อกัน ขอให้เริ่มทําให้เร็วที่สุด ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป”
9
สามวันหลังจากที่ฉันไปดูดวง น้าไออย่างหนักจนต้องขอให้พาไปโรงพยาบาล หมอเรียกฉันเข้าไปพบในฐานะญาติคนไข้และบอกว่า
10
“เราตรวจพบเนื้อร้าย 3 จุด มีบริเวณมดลูก กระเพาะปัสสาวะ และปอด หมอต้องแจ้งให้ทราบตามตรงว่าทั้ง 3 จุด เป็นมะเร็งระยะที่ 3
เราจะรักษาน้าของคุณให้ดีที่สุด แต่หมออยากให้คุณทําใจเผื่อไว้บ้าง”
11
ทันทีที่ได้ยิน ฉันคิดถึงหมอดูคนนั้นขึ้นมาทันที และอยากร้องไห้ออกมาดัง ๆ กับความสูญเสียที่ใกล้จะมาถึงเต็มที แต่ก็ร้องไม่ออก
12
โชคดีที่น้าเป็นคนเข้มแข็ง เธอยิ้มรับเมื่อฉันบอกว่าเธอป่วยเป็นอะไรและพร้อมเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล รวมทั้งยินดีทําตามที่ฉันบอกทุกเรื่อง ทั้งเรื่องการปล่อยนกและสวดมนต์ แต่ฉันไม่ได้เล่าเรื่องนกเรื่องไก่ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรที่หมอดูบอกเอาไว้
ทุกคืนก่อนนอนฉันกับน้าสวดมนต์ด้วยกันตามบทที่หมอดูบอกไว้
สองวันแรกของการสวดมนต์ น้าลุกขึ้นมานั่งสวดไม่ไหว ต้องนอนสวดจนจบบท แต่พอวันที่ 3 น้ากลับลุกขึ้นนั่งสวดมนต์ได้ รวมทั้งกินอาหารได้มากขึ้น ร่างกายดูแข็งแรงสดใสกว่าเดิม
13
คืนที่ 7 ของการสวดมนต์ น้าเล่าให้ฉันฟังว่า นกตัวใหญ่ที่เอาเท้าจิกอยู่บนแขนบินจากไป และไก่ยักษ์ที่เหยียบเท้าอยู่ก็หายไปเช่นกัน ฉันพยายามปลอบน้าว่าเป็นแค่ความฝัน ไม่มีอะไร
14
เช้าวันที่ 8 คุณหมอตรวจร่างกายน้าอย่างละเอียดอีกครั้ง ปรากฏว่าก้อนเนื้อหายไป 2 จุด เหลือเพียงจุดเดียวบริเวณมดลูก และเป็นก้อนที่เล็กลงมากแล้ว คุณหมอเองก็อธิบายไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่แนะนําให้ผ่าก้อนเนื้อบริเวณมดลูกออก ซึ่งทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี หลังจากน้าหายเป็นปกติ เราสองคนทําบุญกันมากขึ้น และยังคงสวดมนต์ทั้งสองบทด้วยกันทุกคืน
15
เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่า ไม่ว่าจะมีเงินทองแค่ไหนก็ซื้อชีวิตคนไม่ได้ ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ช่วยได้ก็คือธรรมะขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
16
ที่มา : นิตยสาร Secret
เรื่อง : ริบบิ้นสีรุ้ง
photo by longleanna on pixabay
บทความน่าสนใจ