จิ๊กซอว์ที่ไม่เคยคิดจะต่อของ ไก่ – มีสุข แจ้งมีสุข
ไก่ไม่เคยเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือปาฏิหาริย์ชีวิตใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะคิดว่าทุกเรื่องในชีวิตจะดีได้อยู่ที่เราลิขิตชีวิตตัวเอง รวมถึงเรื่องคู่ชีวิตด้วยค่ะ
สมัยเป็นสาวน้อยมัธยม จำได้ว่า ไก่สนุกกับชีวิตสุด ๆ เพราะไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แค่เรียนให้ไม่ตกชั้น เอาเกรด 4 มาฝากพ่อแม่สักตัวเป็นพอ เวลาที่เหลือจึงหมดไปกับการวาดรูป แต่งกลอน และแต่งตัว ช่วงวัยรุ่น ไก่เป็นสาวที่แต่งตัวจัดมาก คือโดดเด่นกว่าเพื่อน ๆ แต่สวยไม่สวย อันนี้ไม่แน่ใจนะคะ
สมัยนั้นมีนิตยสารอยู่ไม่กี่เล่มในท้องตลาด และในจำนวนนั้นเล่มโปรดของไก่คือ วัยน่ารัก วัยหวาน และ แพรว แรก ๆ ไก่ซื้อมาดูแบบเสื้อผ้า แต่หลัง ๆ ที่หยุดซื้อไม่ได้เพราะไปเจอนายแบบคนหนึ่ง หน้าตาท่าทางโดนใจไก่เข้าอย่างจัง…สูงสมส่วน หน้าเข้ม ผมแสกกลางปรกหน้าเล็กน้อย พอให้เห็นคิ้วกับตาที่มีเสน่ห์ แถมชอบไม่ชอบเปล่านะคะ ทุกหน้าที่มีเขา ไก่ต้องตัดแปะติดไว้ข้างฝาห้องนอน…“คิม รังสิมันต์” คือชื่อของนายแบบคนนั้นที่ตราตรึงอยู่ในความฝันของหญิงสาวต่างจังหวัดคนหนึ่งนานหลายปี จนกระทั่งไก่พกพาความมั่นใจเข้ามาเรียนต่อและทำงานในกรุงเทพฯ
ความที่ครอบครัวอบอุ่น ชีวิตของมีสุขจึงไม่เคยเหงา ไม่เคยเศร้าเพราะความโสด มีแฟนกี่คนไก่เป็นคนขอเลิกก่อนทุกทีไป และในชีวิตนี้ก็เคยอกหักเพียงครั้งเดียวเท่านั้น! เป็นไงคะ มั่นสุด ๆ ไปเลย จนอายุล่วงเลยจะเหยียบ 40 ก็เริ่มรู้สึกไม่อยากมีใคร มีสุขจึงตัดสินใจประกาศก้องกับตระกูลแจ้งมีสุขว่า “ไม่ต้องห่วงไก่แล้วนะ จากนี้ไปจะไม่มีแฟนแล้ว เลิกคิดเรื่องแต่งงานไปเลย จะทำงานกับอยู่วัด แค่นี้แฮ็ปปี้แล้ว”
จนกระทั่งวันหนึ่งได้เจอผู้ชายคนหนึ่ง เขาช่างมีอะไรเหมือนกันและเข้ากับเราได้ราวจับวาง เราสองคนเจอกันโดยบังเอิญ (ย้ำนะคะว่าโดยบังเอิญจริง ๆ) และเมื่อเจอกันจิ๊กซอว์ที่ไก่ไม่เคยคิดจะต่อ มันก็เกิดต่อขึ้นมา
ไก่เป็นคนพิษณุโลก เขาคนนี้ก็เกิดและโตที่พิษณุโลก ไก่เข้าวงการสื่อมวลชนเบื้องหน้า เขาเรียนสื่อสารมวลชนและทำงานเบื้องหลัง ไก่เป็นพรีเซ็นเตอร์ยาสระผมยี่ห้อหนึ่ง เขาก็เป็นช่างภาพถ่ายโฆษณาให้ยาสระผมยี่ห้อนี้ทุกชิ้น เว้นชิ้นที่ไก่เป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ครั้งเดียว ไก่เป็นพิธีกรงานนาฏราชคู่กับไก่ – ภาษิต เขาเป็นทีมงานถ่ายทอดสด แต่กลับจำพิธีกรหญิงในคืนนั้นไม่ได้! ใครจะคิดล่ะคะว่าคนที่คลาดกันไปคลาดกันมาเมื่อวาน ในที่สุดจะกลายมาเป็นคู่ชีวิตของเราในวันนี้!
วันที่เราทั้งคู่เดินทางไปกราบผู้ใหญ่เพื่อขออนุญาตรวมครอบครัวและตัดสินใจใช้ชีวิตเป็นคนคนเดียวกัน ไก่ได้ยินแม่เขาเรียกชื่อเขาว่า “ต้อย” ไก่ก็เลยถามเขา เพราะชื่อที่เรารู้จักกันมันไม่ใช่ชื่อนี้
“อ๋อ จริง ๆ พี่ชื่อเล่นชื่อต้อย พี่ชายก็ชื่อตู่ไงล่ะ”
“อ้าว แล้วชื่อคิมล่ะมาจากไหน” ไก่ถามต่อด้วยความสงสัย
“สมัยก่อนพี่เคยถ่ายแบบนิตยสารแล้วโมเดลลิ่งเขาให้ใช้ชื่อในวงการว่าคิม…” เมื่อฟังเขาพูดถึงตรงนี้ หูไก่เริ่มอื้อ ๆ ใจเต้นรัว สมองส่วนฉลาดเกิดทำงานขึ้นมาเชียว รีบพูดแทรกละล่ำละลัก
“อย่าบอกนะว่า…พี่คือคิม รังสิมันต์!”
“ใช่ ก็คิม รังสิมันต์ ไง” เขาสำทับขึ้นมาอย่างเร็วไม่แพ้กัน คงเพราะเห็นไก่ทำหน้าเหมือนโดนผีหลอก
“คิม รังสิมันต์” นายแบบในดวงใจสมัยไก่เป็นวัยรุ่น นายแบบในนิตยสารที่ไกลเกินฝัน บัดนี้เขายืนอยู่ตรงหน้าไก่ และเรากำลังจะใช้ชีวิตด้วยกัน คนที่เราพร่ำบอกต่อกันว่าทำไมเราหากันเจอช้าจัง ที่แท้ไก่เคยเจอเขามานานแสนนานแล้ว
แต่ถึงตอนนี้ ไก่ก็ยังไม่เชื่อเรื่อง “พรหมลิขิต” อยู่ดีค่ะ เพราะสำหรับไก่ สิ่งที่นำพาเราสองคนมาเจอกันไม่ใช่โชคชะตา แต่คือ ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญาที่เท่า ๆ กันตามคำของพระพุทธเจ้าต่างหาก
“อย่าคิดว่าสิ่งนี้จริง สิ่งอื่นไม่” ไก่เข้าใจคำสอนนี้แล้วจริง ๆ ค่ะ
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง ไก่ มีสุข แจ้งมีสุข
ภาพ @kaimeesuk
บทความน่าสนใจ
“ทิ้ง…!” บทความดี ๆ ให้แง่คิดชีวิตคู่ โดย ไก่- มีสุข แจ้งมีสุข