จิมมี่ ชวาลา เตรียมบริจาค 16 ล้าน เข้าโครงการ “ก้าวคนละก้าว”
วันที่ 11 พ.ย.นี้ ที่ “ตูน บอดี้สแลม” จะวิ่งผ่านพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช จิมมี่ ชวาลา เศรษฐีใจบุญแห่งเมืองนคร ยืนยันบริจาคเงินในนามชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 1.6 ล้านคน คนละ 10 บาท เป็นยอดเงินบริจาค 16 ล้านบาท เพื่อทำบุญตามโครงการ “ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” โดยคุณจิมมี่ให้สัมภาษณ์ว่า
“เงินที่นำมาบริจาคนั้นไม่ใช่เงินตัวเองแต่เป็นเงินชาวนครศรีธรรมราช ที่มาอุดหนุนจุนเจือครอบครัวของเขาให้อยู่ได้ ซึ่งเงินจำนวนนี้จึงขอทำหน้าที่แทนคนนครศรีธรรมราช มีคนถามว่าทำไมถึงเป็น 16 ล้านบาท สำรวจแล้วคนในนครศรีธรรมราชมีทั้งสิ้น 15 ล้านคนเศษๆ ทำไมถึงไม่ให้มันเต็ม ก็เลยกลายเป็นที่มาของเงินจำนวน 16 ล้านบาท เพราะบางคนอาจจะไม่สะดวกในการบริจาคเพราะอยู่ไกลจึงขอทำตรงนี้แทน”
ซึ่งจากการร่วมบริจาคของคุณ จิมมี่ ในครั้งนี้ สอดคล้องกับหลักพระพุทธศานาในเรื่องของ
บุญกิริยาวัตถุ 10 “ทานมัย” เป็นการทำบุญ โดยการให้
สังคหวุตถุ 4 คือ ทาน เป็นการให้ การเสียสละ หรือการเอื้อเฟื้อแบ่งปันของๆตนเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว ไม่เป็นคนเห็นแก่ได้ฝ่ายเดียว
อามิสทาน คือ การบริจาคหรือการเสียสละทรัพย์สินเงินทองข้าวของ ตลอดทั้งกำลังกายและสติปัญญาความรู้ความสามารถของตนเอง เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น
นอกจากการบริจาคในครั้งนี้แล้ว เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปี 2558 คุณจิมมี่ ชวาลา บริจาคเงินจำนวน 28 ล้านบาท ผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์เพื่อบูรณะปลียอดองค์ พระบรมธาตุเจดีย์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร พร้อมทั้งให้เหตุผลว่า
“ผมหวังให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงแย้มพระสรวลที่ทรงทอดพระเนตรเห็นชาวไทย ชาวนครศรีธรรมราช ตั้งใจที่จะร่วมกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นการทำบุญที่ถูกที่ ถูกเวลา ตนมีความภาคภูมิใจและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณยิ่งนัก”
พระพุทธศาสนาสอนว่า การให้ทานอันได้แก่การเสียสละทรัพย์ สมบัติของตนเองแก่ผู้อื่น โดยมุ่งหวังให้เกิดประโยชน์และความสุขแก่ผู้รับนั้น จะนําไปสู่การลดความ
โลภอันเป็นกิเลสที่ครอบงําจิตใจมนุษย์ ทั้งนี้การให้ทานเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกฝนทําความดีภายใต้ปุญญสิกขาอันได้แก่ ทาน ศีล และภาวนา ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ปฏิบัติเข้าถึงความสุขในที่สุด
พระพุทธองค์เคยตรัสถึงอานิสงส์ของการบริจาคทานดังกล่าว าตามที่ได้แสดงไว้ในพระไตรปิฎกว่า
– การให้ทานโดยหวังว่าเมื่อตายไปจะได้เสวยผลของทาน ย่อมส่งผลทำให้ได้ไปเกิดเป็นเทวดาชั้นจตุมหาราช
– การให้ทานเพื่อกระทำความดีโดยไม่มุ่งหวังผลตอบแทน ย่อมส่งผลทำให้ได้ไปเกิดเป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์
– การให้ทานเพื่อความสบายใจและจิตที่ผ่องใส ย่อมส่งผลทำให้ได้ไปเกิดเป็นเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตดี
อย่างไรก็ตามการบริจาคทานไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวเลข หรือจำนวนเงิน แต่ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ และศรัทธาในสิ่งที่ให้ หากเรามีมาก เราบริจาคมากตามกำลังของเรา หากเรามีน้อย เราก็บริจาคให้พอดี ไม่เดือดร้อนตนเอง
รูปภาพจาก คนนครดอมคอม ประชาชาติธุรกิจ
บทความน่าสนใจ
ตายแล้ว (เอาตัว) ไปไหน (ดี) เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ การบริจาคร่างกาย
ชาวอินเดียใจบุญ ขอบริจาคยาแจกคนยากจน