Least Studio งานดีไซน์ กลิ่นอายสถาปัตย์
Least Studio แบรนด์ผลิตภัณฑ์จากแผ่นรองตัดที่มีลูกเล่นและดีไซน์แปลกตา มีจุดเริ่มต้นมาจากนิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ชั้นปีที่ 4 2 คนที่คิดอยากสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์จากวัสดุทดแทนหนังสัตว์มาขายในงานละครของคณะสถาปัตย์ฯ ก่อนจะก่อเกิดเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว คุณมิ้น – ธีรพล อัครทิวา และคุณออม – อรัญญา นันทสันติ ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Least Studio เล่าถึงที่มาของแบรนด์ให้ฟังว่า
“ตอนเรียนชั้นปีที่ 4 เราเริ่มทำผลิตภัณฑ์พวกเครื่องเขียนและอุปกรณ์เกี่ยวกับสถาปัตย์อย่างสมุดสเก็ต หรือกระบอกแบบ โดยทำขายในงานละครคณะสถาปัตย์ และร้านเครื่องเขียนในคณะ
“พอเรียนจบ เราก็ออกมาทำงานประจำกันประมาณปีครึ่ง เพื่อเรียนรู้แนวคิด และระบบการทำงานในองค์กร นอกจากนั้นเรายังได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่เรียนมา ไม่สามารถนำมาใช้กับการออกแบบได้ทั้งหมด ความคิดกับความเป็นจริงนั้นต่างกัน
“ระหว่างนั้น เราก็ทำผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ Least Studio ควบคู่ไปด้วยเป็นงานอดิเรก โดยเลือกใช้วัสดุทางเลือกต่างๆ เช่น หนังเทียม ไม้ค็อก หรือแผ่นยางทำรองเท้า เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้หนังสัตว์
“ต่อมาเราก็ได้เข้าร่วมโครงการ D Space ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม โครงการนี้ ทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำการตลาด และการสร้างตัวตนความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ การเข้าร่วมโครงการนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจว่าแบรนด์ของเรามีความเป็นไปได้ เพียงแต่ต้องหาตัวตนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เราทั้งคู่จึงตัดสินใจออกจากงานประจำมาทุ่มเทสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมาอย่างจริงจัง
“เริ่มแรก โค้ชแนะนำให้เราหาวัสดุใหม่ เราจึงเริ่มมองจากสิ่งของใกล้ตัวบนโต๊ะทำงานก่อน แล้วก็สะดุดตากับแผ่นรองตัดที่มีความแข็งแรง และมีสเน่ห์เฉพาะตัว
“ตอนที่ปรึกษากันก็ยังหัวเราะกันว่าจะเป็นไปได้ไหม เพราะขนาดมีดยังกรีดไม่เข้า แถมน้ำหนักก็มาก เรื่องเอามาทำเป็นกระเป๋าแทบไม่ต้องคิดเลย เรานำเอาไอเดียนี้ไปเสนอโค้ชคนไหนก็ปฏิเสธความเป็นไปได้กันทุกคน แต่มีโค้ชคนหนึ่งที่สนับสนุน และบอกว่าไหน ๆ ก็ออกจากงานประจำแล้วก็ลุยให้เต็มที่
“เราตัดสินใจสร้างวัสดุใหม่ที่มีลักษณะแข็งแรงทนทานเหมือนแผ่นรองตัด แต่มีน้ำหนักเบา ใช้เวลาศึกษาค้นคว้าและทดลองอยู่ 6 เดือนก็ได้วัสดุตามต้องการมาผลิตเป็นสินค้า เพื่อวางขายในงานอีเว้นต์ที่ประเทศฮ่องกง ตามโครงการของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และได้รับข้อคิดเห็นมาว่าวัสดุที่เราใช้ยังค่อนข้างหนา มีน้ำหนักมาก และมีผิวสัมผัสที่ยังหยาบ
“ เราจึงกลับมาปรับปรุงและพัฒนาอีกกว่า 6 เดือนจนได้เป็นวัสดุยางพาราธรรมชาติที่มีคุณสมบัติกันมีดกรีด กันน้ำ ทนความร้อนถึง 200 องศาเซลเซียส มีพื้นผิวนุ่มลื่น น้ำหนักเบา ป้องกันแบคทีเรีย และรังสียูวี ซึ่งทำให้สีไม่ซีดเมื่อต้องโดนแดดเป็นเวลานาน เราต้องการสร้างวัสดุใหม่ในวงการออกแบบ ที่มีราคาไม่แพงจนเกินไป และสามารถนำมาใช้แทนหนังสัตว์ นอกจากนั้น เรายังอยากจุดประกายให้น้อง ๆ หรือนักออกแบบคนอื่นเห็นว่า หากเราใส่ไอเดียลงไปในสิ่งของเดิม ๆ รอบตัว เราก็สามารถสร้างสรรค์และพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ได้อีกมากมาย
“ในด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ เราออกแบบผลิตภัณฑ์โดยเพิ่มลูกเล่นความเป็นโต๊ะทำงานของสถาปนิกเข้าไป อย่างแผ่นรองตัดที่นำมาทำเป็นกระเป๋าหรือแฟ้ม เราก็ออกแบบให้มีลวดลายเหมือนสเกลบนแผ่นรองตัดจริง ๆ เรียกได้ว่า หากถือกระเป๋าของเราเดินไปไหนมาไหน แล้วจู่ ๆ เกิดไอเดียอะไรขึ้นมา ก็สามารถนำเอาผลิตภัณฑ์ของเรามาใช้รองตัดได้เลย และแฟ้มที่เราออกแบบก็ได้รางวัล Demark Award ด้วย”
นอกจากจะผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ Least Studio เพื่อส่งขายตามห้างสรรพสินค้าและร้านค้าต่าง ๆ แล้วยังรับออกแบบผลิตภัณฑ์ให้กับองค์กรหรือผู้ที่สนใจ
“เรามีส่วนงานการผลิตเพื่อขายส่งให้ลูกค้า โดยเราจะวิเคราะห์กลุ่มผู้ใช้ว่าเป็นใคร เพื่อลูกค้าให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ให้มากที่สุด
“ในอนาคต เราอยากเพิ่มประเภทผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น และอยากประยุกต์ใช้วัสดุยางแผ่นรองตัดเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อย่างเช่น ของแต่งบ้าน หรือเฟอร์นิเจอร์”
“ท้ายที่สุด เราอยากสร้างไลฟ์สไตล์แบบ Least Studio ที่คนเห็นแล้วจะนึกถึงเรา”
ขอบคุณสถานที่
Ecotopia ชั้น 4 ศูนย์การค้า Siam Discovery
เรื่อง Issara R. ภาพ วรวุฒิ วิชาธร
บทความที่น่าสนใจ
ความรัก และสุขที่แท้ ข้อคิดจาก วิลล์ สมิธ คนที่ทำให้คุณมีความสุข
10 เทคนิคพิชิตความสำเร็จ ฉบับโอปราห์ วินฟรีย์
“กระดาษโพสต์อิท” สิ่งประดิษฐ์สุดห่วย เปลี่ยนความล้มเหลว ให้เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
