เมื่อเรามีเรื่องอื่นที่ต้องคิดมากขึ้น เราจะไม่หมกมุ่นกับเรื่องกลัดกลุ้มภายในจิตใจอีกต่อไป ทำให้ความคิดและจิตใจปลอดโปร่งมากขึ้น ไม่ว่าหน้าที่การงานของเราจะประสบความสำเร็จแค่ไหน มีคนคอยสนับสนุนมากเพียงใด จิตใจของเราต้องมีความหนักแน่น ไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งกระตุ้นต่างๆ
>> จดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ และทำตามที่ใจสั่ง <<
สิ่งที่เราอยากจะเป็น วันพรุ่งนี้จะมีชีวิตอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าวันนี้เราใช้ชีวิตแบบไหน คนเราย่อมมีหน้าที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงของชีวิต ใช้เวลาทั้งชีวิตทำฝันให้เป็นจริงให้ได้ ไม่มีใครได้เจองานที่ตัวเองชอบตั้งแต่เริ่มต้นหรอก เราต่างค้นหาสิ่งที่ชอบต่อไป เมื่อเจอกับสิ่งที่ตัวเองสนใจแต่ทำไม่เป็น ก็ต้องพยายามเรียนรู้ ถึงจะใช้เวลาหลายปีหน่อยก็ไม่เป็นไร ความเงียบเป็นพลังอย่างหนึ่งที่สามารถทำให้เราตกอยู่ในภวังค์ความคิดตัวเอง ทำให้มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ หลายครั้งที่เราไม่กล้าลงมือทำสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน ยิ่งพ่อแม่ไม่ให้การสนับสนุนด้วยแล้วเรายิ่งไม่กล้าลองทำเข้าไปใหญ่ สิ่งสำคัญคือ เราได้เริ่มลองทำไปแล้วหรือยัง อย่ามัวแต่คิดว่าทางไหนจะเป็นทางที่ใช่
ทำทุกสิ่งในชีวิตให้ดีแล้วทุกอย่างจะดีเอง หากเจอปัญหาในชีวิต ให้คิดซะว่าเป็นการพบเจอความยากลำบากที่เป็นความท้าทาย อย่ามัวเสียเวลานั่งคร่ำควรญว่าโลกนี้ไม่ยุติธรรม จริงๆ ทุกสิ่งยุติธรรมกับเราเสมอ อยู่ที่ว่าเราจะทำสิ่งใดได้ดีแค่ไหนก็เท่านั้น ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกสิ่งที่พบเจอเป็นสัจธรรมของมันเอง มุ่งหน้าที่จะพัฒนาตัวเองในด้านที่สร้างสรรค์มากขึ้นจะดีกว่า โลกนี้ยุติธรรม ชีวิตนี้ก็ยุติธรรม ใครทำสิ่งใดก็ย่อมต้องได้สิ่งนั้นเสมอ นี่คือเรื่องจริงที่สุด อย่าโทษโลกกันอีกเลย!
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ