>>ไม่เคยรู้สึกมีความสุขกับงานที่กำลังทำ <<
ต้องยอมรับอย่างปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้คนเราต่างต้องเผชิญกับปัญหาความเครียด และไม่มีความสุขกับงานที่ทำ แม้หลายคนจะพยายามทำหลายวิธีเพื่อจะลดความเครียด แต่กลับรู้สึกว่ามันยากเหลือเกิน เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็เจอค่ะ ไม่ใช่แค่เราเท่านั้น ลองสังเกตดูสิคะเวลาเรานัดเจอกลุ่มเพื่อนสมัยเรียน ประเด็นที่มักจะเอามาคุยก็ไม่พ้นเรื่องงาน บางคนถึงขั้นพูดแบบเต็มปากเลยว่า “เกลียด” งานที่กำลังทำอยู่ จนบางครั้งเราได้ยินยังแอบคิดเลยว่า ทำไมคนเราถึงยอมทนทำอะไรที่เกลียดได้เป็นวันๆ ในระยะเวลานานๆ ซึ่งอันที่จริงเราควรต้องยอมรับเสียก่อนว่าการจะหางานให้ได้ดั่งใจฝันนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย คนจำนวนน้อยที่จะทำงานแล้วเจองานประเภทที่ใช่เลย ทำแล้วโอ้โห! สนุกมาก มาทำงานเหมือนมาเที่ยวเล่น แบบนั้นเค้าเรียกไม่ได้ทำงานแล้วล่ะค่ะ
ฉะนั้นถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้แฮปปี้ไปกับงานก็ต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่สิ่งที่ตามมาคือคุณไม่ควรจมอยู่กับความทุกข์แบบนั้นไปตลอด การที่คุณรู้สึกไม่มีความสุขกับงานควรเปลี่ยนให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการหาโอกาสใหม่ๆ หรือเปลี่ยนไปสู่สิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิมได้คนที่ประสบความสำเร็จนั้นมักจะเต็มไปด้วยความสุขกับงานที่ทำ และนั่นทำให้เรามักพบว่าเขาทุ่มเทและเต็มที่กับงานได้อยู่เสมอ แต่ก็นั่นแหละที่คนเหล่านั้นไม่ได้เป็นคนส่วนใหญ่ของสังคม เพราะคนส่วนมากมักจะพบตัวเองเหนื่อยหน่ายและไม่อยากลุกมาทำงาน บ้างก็รู้สึกซ้ำซากจำเจกับงานที่ทำโดยมองไม่เห็นว่าตัวเองจะก้าวหน้าไปไหนได้เสียที
>> หมดรัก แต่ไม่ยอมตัดขาดจากกันสักที <<
อีกข้อหนึ่งที่เรียกว่าเป็นเรื่องดราม่าในชีวิตหลายๆ คนเลยก็คือ เรื่องความสัมพันธ์ที่ไปไม่รอด หลายๆ คู่รักต้องเคยมีโมเมนต์ที่ว่าไม่ได้รักกันแล้ว แต่ก็ยังไม่ยอมเลิกกัน เพราะเสียดายความสัมพันธ์ที่เคยมีมา อยู่กันเพราะความผูกพันธ์ ไม่ได้อยู่เพราะรัก ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับว่าหลายๆ ครั้งความสัมพันธ์ของคู่รักมันไปไม่รอด เข้ากันไม่ได้ และทางที่ดีคือการจบความสัมพันธ์ดีกว่าที่จะให้มันทำลายชีวิตของใครคนใดคนหนึ่งไป อย่าลืมว่าชีวิตจริงไม่ใช่ละครหลังข่าวนะคะ ไม่รักก็ต้องเบิกอย่าเป็นพระเอก นางเอก แบบเศร้าๆ ชีวิตไม่ได้ต้องกราม่าอะไรขนาดนั้น
เข้าใจค่ะว่าด้วยเหตุผลต่างๆ นานา ที่คนช้ำรักมักพบเจอจากการหมดรักแต่เบิกไม่ได้เนี่ย มันมีเยอะ ใครไม่เจอคงไม่รู้ ซึ่งหลายๆ ทีเราก็จะพบว่ามันเป็นเหมือนการหลอกตัวเองว่ายังรักเขาอยู่ ยังต้องการเขาอยู่ เลยต้องพยายามทนอยู่ร่ำไปทั้งที่จริงๆ แล้วความรักอาจจะหมดไปแล้ว ที่ยังคงอยู่คือพันธะความเป็นคนรักที่ตัวคนสร้างเงื่อนไขมาผูกตัวเองต่างหาก ฉะนั้นเรื่องนี้คุณควรจะสนใจความรู้สึกของตัวเองให้มากๆ ดีกว่าจะเสียเวลาดีๆ ของชีวิต ไปกับสิ่งที่คุณอาจจะสร้างขึ้นมากล่อมตัวเองจนมองไม่เห็นความจริง แบบนั้นก็ต้องจมกับความเศร้าไปอีกนานแสนนานเลยบ่ะค่ะ ยอมรับและเดินหน้าสู่สิ่งที่ดีจะดีกว่าค่ะ
