5 สิ่งที่ต้องทำให้น้อยลง เพื่อ รอยยิ้มและความสุข ที่มากขึ้นในทุกวัน

อีกไม่กี่วันก็จะก้าวเข้าสู่ปี 2020 แล้ว หลายๆ คนอาจกำลังเริ่มตั้งเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อสร้าง รอยยิ้มและความสุข ได้ในทุกวัน แล้วเราจะกดปุ่มรีสตาร์ทปรับปรุงชีวิตตัวเองจากตรงจุดไหนก่อนดี ตามมาฟังสิ่งที่ GoodLife อยากบอกกันเลยค่ะ

หยุดอาการหงุดหงิดหัวเสียง่าย

หลายคนอาจมีนิสัยขี้ใจร้อน หรือหงุดหงิดหัวเสียง่ายมากเกินไป ซึ่งรู้มั้ยคะว่ามันเป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารักเอาซะเลย เนื่องจากมันอาจส่งผลให้บรรยากาศดีๆ ขุ่นมัว เพราะความกระฟัดกระเฟียดที่แผ่ออกมาจากตัวคุณสู่คนรอบข้าง ดังนั้น หากยังอยากเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขุมน่าเคารพมากขึ้น ก็จงหัดมีสติ ยับยั้งชั่งใจ ลดๆ ความใจร้อนลงหน่อยก็ช่วยได้เหมือนกันนะคะ

อย่าเก็บทุกเรื่องมาคิดมาก

การเก็บทุกเรื่องมาคิดมาก ดูจะเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคนอยู่ไม่น้อย เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าความรู้สึกของเรามักจะกระวนกระวาย ไม่สบายใจ จนส่งผลให้ความทุกข์เล็กๆ เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว เพราะฉะนั้น หากเรายังอยากเป็นคนที่ยิ้มง่ายและมีความสุขกับชีวิตทุกๆ วัน ก็คงต้องหัดเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง อะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยให้มันเกิดไป แล้วค่อยกลับมารับมือแก้ไขกับมันอย่างมีสติอีกครั้งดีกว่าค่ะ

ห้ามใช้ชีวิตด้วยความประมาท กล้าได้กล้าเสีย

แม้ชีวิตของเราทุกคนจะยืนอยู่บนความไม่แน่นอน แต่ยังไงซะ เราก็ต้องไม่ยืนอยู่บนความประมาทด้วย เพราะไม่ว่าจะคิดหรือทำอะไร ควรใช้เวลาทบทวนและตัดสินใจให้รอบครอบก่อน การตอบตกลงหรือทำลงไปด้วยความวู่วาม กล้าได้กล้าเสียเกินเหตุ อาจก่อให้เกิดเป็นผลร้ายมากกว่าที่จะเป็นผลดี ฉะนั้น คนที่มีสติและใจเย็นอยู่เสมอ ย่อมเกิดความสุขในใจขึ้นง่ายมากกว่าคนที่เอาแต่กล้าแลกกับทุกๆ เรื่องอย่างแน่นอน

ไม่ควรคาดหวัง ทั้งกับตัวเองและคนอื่นมากเกินไป

การไม่คาดหวังกับอะไรมากจนเกินไป ถือเป็นขอบเขตุแห่งความพอดี ที่จะทำให้เราไม่ต้องมานั่งเสียความรู้สึกหรือเป็นทุกข์ เนื่องจากการไปคาดหวังในตัวของคนอื่นๆ ว่าจะต้องเป็นไปตามแบบที่ใจเราคิด นอกจากนี้ การไม่คาดหวังกับตัวเอง ไม่ต้องกดดันชีวิตตัวเอง และปล่อยให้มันเป็นไปตามแบบแผนที่วางไว้อย่างช้าๆ อาจเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้เรามีความสุขได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ

อย่าแบกทุกเรื่องไว้เพียงลำพัง

จริงอยู่ที่ว่าในบางครั้งเราคงไม่สามารถที่จะเล่าเรื่องบางเรื่อง หรือระบายความในใจออกไปให้ใครฟังได้ แต่อีกหนึ่งวิธีช่วยฮีลความรู้สึกไม่ดีในใจออกไปได้อย่างรวดเร็วที่สุด คงหนีไม่พ้นการปลดปล่อยมันออกไปเสียบ้าง ฉะนั้น ลองเปลี่ยนมุมมองความคิดของตัวเองดูใหม่ เพราะแค่เราพูดออกไป แม้มันจะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อย แต่ก็ถือว่าเราไม่ต้องแบกรับมันให้อัดอั้นตันใจอยู่เพียงคนเดียวอีกต่อไปแล้วค่ะ

ขอบคุณภาพจาก : Pinterest

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ