5 เหตุผลที่เราควรหยุดพูดว่า “เดี๋ยว” ก่อนชีวิตจะแย่ลง
เชื่อว่าหลายๆคนทราบกันดีว่า คำว่า “เดี๋ยว” ที่เรามักจะพูดติดปากกันนั้น เป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเราแย่ลงไปเรื่อยๆ โดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัว แต่เพราะอะไรกันแน่ที่ทำให้คำว่า “เดี๋ยว” เป็นคำที่มีแต่จะทำร้ายเรา และคนรอบข้าง
1. ทำให้เราเคยชินกับการผัดวันประกันพรุ่ง
จะเรียกได้ว่าเป็นเหตุผลสำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะคำว่า “เดี๋ยว” ที่เราชอบพูดกันนั้น หมายถึงการที่เราบอกกับตัวเอง หรือบอกกับคนอื่นว่า จะทำทีหลัง ทำภายหลัง ขอทำอย่างอื่นก่อนค่อยทำสิ่งนั้นให้ ซึ่งนั่นก็แปลว่าเรากำลังผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ และทำให้เราเคยชินกับการที่บอกว่าค่อยทำทีหลังก็ได้ โดยไม่ได้รู้สึกว่างาน หรือสิ่งที่ต้องทำจะมีเดดไลน์ที่ใกล้เข้ามาแค่ไหน
2. ทำให้สุขภาพร่างกายแย่ลงไปโดยไม่รู้ตัว
แค่คำว่า “เดี๋ยว” มันจะไปทำให้เรามีสุขภาพแย่ลงได้ยังไงกัน คำตอบก็คือ การที่เราบอกว่าค่อยทำทีหลังแบบนี้ไปเรื่อยๆก็จะทำให้งานที่เราควรจะทำให้เสร็จเสียตั้งแต่ตอนนี้ ไปกองอยู่กับงานที่จะต้องทำหลังจากนี้ พอเป็นแบบนี้บ่อยๆ งานที่จะต้องทำก็กองเป็นภูเขาไปเสียแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่ตามก็คือ เราจะต้องรีบทำงานให้เสร็จ อาจจะถึงขั้นที่เราจะต้องโหมทำงาน จนไม่มีเวลาพักผ่อน ใช้ทั้งกำลังสมองและกำลังกายไปกับการทำงาน จนร่างกายและสมองอ่อนเพลีย จะพักก็พักไม่ได้เพราะงานโถมเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน แบบนี้สุขภาพร่างกายของเราจะดีได้อย่างไร
3. แบกรับความเครียด กับความกดดัน
เป็นที่ทราบกันดีว่า เวลาที่เรามีงานเข้ามาเยอะๆ หรือทำงานไม่ทัน เราก็จะได้รับความเครียด และความกดดันที่เข้ามาแบบไม่หยุดไม่หย่อนด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่าการที่เราเอาแต่บอกว่า “เดี๋ยว” ค่อยทำ หรือเอาแต่ผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ จนทำให้งานไปสะสมเป็นกองรอวันที่เราพร้อมจะทำอยู่นั้น ก็เข้าใกล้กำหนดส่งงานขึ้นมาทุกที่ ทำให้เรามีความเครียดมากขึ้นทั้งจากการทำงาน และทั้งจากการที่เรารู้สึกว่าจะทำงานไม่ทัน แต่ก็งานก็ห้ามมีข้อผิดพลาดด้วยเช่นกัน ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดเลยว่าคำว่า “เดี๋ยว” ของเราที่เราชอบพูดติดปาก มันจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเกิดความเครียด ความกดดันและ ทำให้เรามีสุขภาพกายและใจที่ไม่ดีนั่นเอง
4. แม้ไม่ได้ทำ แต่ความกังวลไม่หายไป
แม้ว่าเราจะพูดคำว่า “เดี๋ยว” และไม่ยอมลงมือทำสิ่งต่างๆเสียที ในช่วงเวลานั้นอาจจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย หรือสบายใจ ได้นอนหลับพักผ่อน หรือเล่นเกม ทำนู้นนี่นั้นไปก่อน ซึ่งแม้ว่าเราไม่ได้รู้สึกว่าเรากำลังเคร่งเครียด หรือต้องแบกภาระ แบกรับความกดดันจากงานเอาไว้ แต่ลึกๆแล้วเราก็รู้สึกกังวลใจไปไม่น้อยอยู่ดี ที่ไม่ได้ลงมือทำงานให้เสร็จไปเสียที
5. อาจทำให้เรารู้สึกผิดพลาด ผิดหวัง เสียใจ
บางครั้งการที่เราพูดคำว่า “เดี๋ยว” ออกมา อาจจะทำให้เรามารู้สึกเสียใจภายหลังเอาได้ ว่าทำไมไม่ตอนเราไม่ลงมือทำให้เสร็จไปเลย หรือเราน่าจะลงมือทำไปซะ ไม่น่าพูดคำว่า”เดี๋ยว” และผัดวันประกันพรุ่งเลย แต่เพราะอดีตเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะไปแก้ไขอะไรได้ เราก็ทำได้เพียงแค่ เสียใจกับสิ่งที่ผิดพลาดไป และเอามันเป็นประสบการณ์ชีวิตที่เราจะไม่ทำพลาดอีก แต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง จะดีกว่าไหม ถ้าเราจะป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดจากการที่เราไม่ได้ลงมือทำเสียเลย หรือเราจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ทำช้า หรือยังไม่ได้ลงมือทำ ด้วยการทำทุกอย่างให้เสร็จ โดยไม่ต้อง “เดี๋ยว”