ธัญ (THANN) ร่วมกับโฮมสไตลิสต์สาว ‘อวน – วยา ดุลยบวรกุล’ จัดเวิร์คช็อปเผยไอเดียแต่งบ้านสวย พร้อมสร้างความหอมเพื่อเสริมบรรยากาศกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ ‘โฮม อะโรมา’ (Home aroma series)
“ไม่มีที่ใดในโลก จะมีความสุขเท่าบ้านเรา” เพราะบ้านคือที่ที่คุณใช้เวลาด้วยมากที่สุด เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความเป็นคุณ และเป็นสถานที่ก่อเกิดความทรงจำของครอบครัว ดังนั้นแค่บ้านสวยอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ต้องสวยทั้งรูปหอมทั้งกลิ่น เพื่อสร้างความรู้สึกดีตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามา ล่าสุดแบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ‘ธัญ’ (THANN) ร่วมกับโฮมสไตลิสต์สาวมากฝีมือ อวน – วยา ดุลยบวรกุล จัดเวิร์คช็อปแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ ‘โฮม อะโรมา’ (Home aroma series) พร้อมเผยไอเดียแต่งบ้านสวย และแนะเคล็ดลับการเลือกกลิ่นหอม (Aromatherapy) เสริมสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับแต่ละห้อง เพื่อให้บ้านเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย พร้อมเชื้อเชิญเหล่าเซเลบริตี้ผู้รักการตกแต่งบ้าน อาทิ มธุนาฏ ซอโสตถิกุล, ธัญชนก วัชโรทัย, วสุ วิรัชศิลป์ และจุฑาธรรม จิราธิวัฒน์ ร่วมเผยเคล็ดลับการเลือกกลิ่นหอมในแบบฉบับของตนเองที่คอนโด ‘วิทโทริโอ้’ (Vittorio) สุขุมวิท 39
โฮมสไตลิสต์สาว อวน – วยา ดุลยบวรกุล กล่าวถึงเทรนด์การแต่งบ้าน พร้อมแนะเคล็ดลับการเลือกกลิ่นหอม เพื่อสร้างบรรยากาศความผ่อนคลายภายในบ้านว่า ‘การตกแต่งบ้านให้น่าอยู่เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะบ้านเป็นเสมือนโลกใบเล็กๆ ของเรา เพราะฉะนั้นการตกแต่งบ้านให้มีความสวยงาม น่าอยู่ก็ช่วยทำให้ผู้อาศัยอบอุ่นใจและรู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้การตกแต่งบ้านยังเป็นการบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ตัวตนเจ้าของบ้านว่าเป็นคนแบบไหนด้วย โดยการตกแต่งบ้านที่กำลังเป็นที่นิยมในตอนนี้คนส่วนมากชื่นชอบการตกแต่งสไตล์มิกซ์แอนด์แมทช์ จากเดิมที่นิยมการตกแต่งบ้านแบบบิวท์อิน (Built in) โดยมีแพทเทิร์นของเฟอร์นิเจอร์ข้าวของเครื่องใช้ในโทนสีและลักษณะแบบเดียวกันแทบทั้งบ้าน เปลี่ยนมาเป็นสไตล์การตกแต่งบ้านด้วยการเลือกเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์แตกแต่งบ้านที่มีลักษณะและโทนสีที่แตกต่างกันออกไป ด้วยการนำมามิกซ์แอนด์แมชท์ตกแต่งรวมกัน เกิดเป็นมิติใหม่เพิ่มความน่าสนใจให้กับบ้านมากยิ่งขึ้น นอกจากการเทรนด์การมิกซ์แอนด์แมทช์แล้ว การตกแต่งแบบเก่าในใหม่ อย่างสไตล์ ปารีเซียง (Parisian) ที่เน้นการตกแต่งที่ผสมผสานกลิ่นอายความความเป็นฝรั่งเศสเข้าไป โดยจะมีตัวโครงบ้านเป็นแบบเก่า อย่างการปูพื้นด้วยไม้ มีการแกะสลักเสาและคิ้วบัวเน้นความวินเทจ (Vintage) แต่มีการเลือกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์น ถือเป็นการสร้างความแตกต่าง (Contrast) ของสไตล์เก่าและใหม่ได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ปัจจุบันคนยังนิยมการตกแต่งบ้านสไตล์ทรอปิคอล (Tropical Style) ซึ่งเป็นสไตล์ที่เหมาะกับประเทศที่มีภูมิอากาศเขตร้อนชื้นอย่างบ้านเรา ให้ความรู้สึกเสมือนได้พักผ่อนอยู่ในรีสอร์ทที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ผ่านการเลือกใช้วัสดุตกแต่งที่มาจากธรรมชาติเป็นพวกต้นไม้ที่สามารถปลูกในบ้านได้ ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนที่คนไม่ค่อยนิยมใช้ต้นไม้ประดับตกแต่งภายในบ้านมากนัก โดยสไตล์ทรอปิคอลนี้ เราสามารถตกแต่งเพิ่มความโดดเด่นขึ้นได้ โดยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งภายในห้องที่เน้นเป็นโลหะสีทองก็จะช่วยเพิ่มความหรูหราตามแบบสไตล์ทรอปิคอล แกลม (Tropical Glam)
นอกจากการตกแต่งบ้านให้สวยทุกมุมมองแล้ว การแต่งเติมกลิ่นหอมให้บ้าน ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน โดยอุปกรณ์ในการตกแต่งด้านกลิ่นหอมก็มีหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเทียนหอม ก้านไม้หอม น้ำมันหอมระเหย เครื่องกระจายกลิ่นหอม เคล็ดลับคือ อย่าเติมกลิ่นให้บ้านมากจนเกินไป ควรเจือจางให้กลิ่นอ่อนๆ นอกจากจะช่วยให้หายใจได้ปลอดโปร่งแล้ว ยังเป็นการสร้างเสน่ห์ให้กับห้อง และถ้าหากใช้เทียนหอม ต้องดูเชิงเทียน และจุดวางให้ปลอดภัยจากการชนล้ม เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายนอกจากนั้นเรายังสามารถเพิ่มกลิ่นหอมให้กับของแต่งบ้านที่เป็นวัสดุจำพวกไม้หรือดินปั้นได้อีกด้วย โดยการนำน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบมาค่อย ๆ ทาให้ซึมลงไปในผิวไม้ของแผ่นไม้ตกแต่งหรือกระถางดินเผาใบจิ๋ว หรือการนำน้ำมันหอมระเหยหยดไปที่แผ่นกรองอากาศของเครื่องฟอกอากาศ เครื่องปรับอากาศ หรือแม้กระทั่งหลอดไฟของโคมไฟ เพียงเท่านี้ก็ได้ไอเทมสำหรับแต่งบ้านสวยๆที่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมได้ไปในตัว
โดยการเลือกกลิ่นหอมสำหรับแต่ละห้องก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละห้องก็จะมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน เริ่มจากห้องรับแขก ควรเลือกเป็นกลิ่นที่ให้ความหอมสำหรับทุกคน ควรเป็นกลิ่นแนวสดชื่น อาทิ กลิ่นตระกูลส้ม มะนาว ถัดมาที่ห้องทำงาน เน้นการสร้างสมาธิ ทำให้สมองปลอดโปร่ง อาทิ กลิ่นโรสแมรี่ มะลิ หรือกลิ่นในกลุ่มไม้ อาทิ ซีดาวู้ด หรือแซนดัลวู้ด ส่วนห้องนอน ควรเน้นกลิ่นที่สร้างบรรยากาศของการพักผ่อน มอบความสงบ ผ่อนคลาย อาทิ กลิ่นลาเวนเดอร์ กลิ่นกุหลาบ หรือมะลิ ช่วยให้คลื่นภายในสมองมีความสงบในการพักผ่อนมากขึ้น ต่อมาที่ห้องน้ำ ควรเลือกเป็นกลิ่นที่สามารถกลบกลิ่นท่อ รวมถึงกลิ่นอับชื้นได้ อาทิ กลิ่นตะไคร้ มะกรูด มะนาว ถ้าชอบแนวดอกไม้ ก็จะมีอัญชัน กระดังงา และห้องครัว ควรเน้นที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกสะอาดสดชื่น อาทิ กลิ่นตระกูล Citrus อบเชย และโป๊ยกั๊ก’
กิจกรรมครั้งนี้โฮมสไตลิสต์สาวแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์สร้างบรรยากาศความหอม (Aromatherapy) เหมาะสำหรับเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีจากแบรนด์ ‘ธัญ’ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลกและเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา ‘ธัญ’ (THANN) มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำ เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม โดยปัจจุบันมีกว่า 90 สาขา รวมถึงสปาอีก 16 แห่งใน 3 ทวีป ได้แก่ เอเชีย อเมริกา และยุโรป สำหรับผลิตภัณฑ์ที่แนะนำสำหรับใช้ในกิจกรรมครั้งนี้คือ ‘เครื่องกระจายกลิ่นหอม’ (Electric aroma diffuser ราคา 4,390 บาท) ทำงานด้วยกลไกการกระจายความหอมแบบ Ultrasonic Water – Oxygen โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงถึง 2.5 ล้านรอบ/วินาที ทำให้น้ำแตกตัวเป็นไอเย็นที่มีโมเลกุลขนาดเล็กเพียง 5 ไมครอน นำพาน้ำมันหอมระเหยขึ้นสู่อากาศ กลิ่นหอมจึงกระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการทำงานแบบไม่ใช้ความร้อนจึงปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว มาพร้อมกับ 2 ฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ได้แก่ โหมดทำงานแบบต่อเนื่อง (Green Light) ตัวเครื่องจะทำงานต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง เมื่อเสร็จการทำงานเครื่องจะปิดแบบอัตโนมัติ และโหมดควบคุมจังหวะการทำงาน (Orange Light) ตัวเครื่องจะพ่นควัน 1 ครั้ง สลับกับการหยุด 30วินาที สามารถใช้ได้ต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมง มาพร้อมระบบตัดไฟอัตโนมัติทันทีเมื่อน้ำหมด จึงมีความปลอดภัยต่อการใช้งานอย่างแน่นอน
‘น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ 100%’ (Pure essential oil) แต่งเติมความหอมหลากหลายรูปแบบ สามารถใช้งานร่วมกับเครื่อง Electric aroma diffuser เพื่อรังสรรค์บรรยากาศความสุขภายในบ้านได้อย่างมีรสนิยม มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 10ml และ 50ml
‘ก้านไม้หอม’ (Aroma diffuser ขนาด 150ml ราคา 1,450 บาท) มอบกลิ่นหอมนุ่มนวลจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ตกแต่ง และสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น โต๊ะทำงาน หรือห้องนอน มีให้เลือก 4 กลิ่น อาทิ Aromatic wood, Oriental essence, Spring forest และ Eden breeze (ราคา1,700 บาท)
‘เทียนหอม’ (Aromatic candle ขนาด 190g ราคา 750 บาท) เทียนหอมไร้ควัน ผลิตจากน้ำมันปาล์มธรรมชาติ 100% ปราศกลิ่นสังเคราะห์ และพาราฟิน ปลอดภัยต่อผู้ใช้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับสร้างบรรยากาศความรื่นรมย์ได้ในทุกสถานที่ มีให้เลือก 3 กลิ่น อาทิ Aromatic wood, Oriental essence และ Eden breeze (ราคา 1,050 บาท)
ด้านเหล่าเซเลบริตี้ต่างก็เผยถึงวิธีการเลือกกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เริ่มที่เซเลบริตี้สาวรักงานดีไซน์ มธุนาฏ ซอโสตถิกุล เล่าว่า ‘ปัจจุบันทำงานด้านการออกแบบ (Illustration) ต้องใช้ความคิดและสมาธิเพื่อคิดงานออกแบบใหม่ๆ ส่วนตัวเป็นคนที่จริงจังกับงานออกแบบมากๆ ถ้าคิดงานไม่ออกเลย ก็จะหาตัวช่วยเพื่อให้เกิดสมาธิและเกิดแนวความคิดใหม่ๆ ด้วยการเปิดเพลงหรือดนตรีคลาสสิกคลอระหว่างทำงาน นอกจากนั้นในห้องทำงานก็จะมีก้านไม้หอม (Aroma diffuser) และจุดเทียนหอม (Aromatic candle) เพื่อสร้างบรรยากาศ โดยกลิ่นที่ชอบ คือ กลิ่น ‘โอเรียนทอล เอสเซนส์’ (Oriental Essence) ซึ่งเป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ของตระไคร้และมะกรูด ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและทำให้เรามีสมาธิกับงานมากยิ่งขึ้น’
ถัดมาที่สาวเวิร์คกิ้งวูแมน ธัญชนก วัชโรทัย เผยว่า ‘ส่วนตัวจะเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานมาก ทำงานแทบทุกวันเพราะทำบริษัทเกี่ยวกับการท่องเที่ยว โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันหยุดคนส่วนมากมักจะออกไปเที่ยวกัน แต่นั่นจะเป็นเวลาทำงานของเรา บางครั้งจะรู้สึกเครียดกับการทำงานบ้าง พอกลับถึงบ้านก็จะหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดทำ พร้อมกับการใช้เครื่องกระจายกลิ่นหอม มาเป็นตัวช่วยสร้างความบรรยากาศความผ่อนคลายภายในบ้านและช่วยคลายความเครียดจากการทำงานได้ดีมาก ส่วนกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยที่ชอบ คือ กลิ่น ‘อะโรมาติก วูด’ (Aromatic Wood) เพราะเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวาด้วยกลิ่นหอมของผลส้ม, แทนเจอรีน ผสานกับกลิ่นหอมของจันทร์เทศและแซนดัลวูด’
ปิดท้ายที่คู่รักนักออกแบบ วสุ วิรัชศิลป์ – จุฑาธรรม จิราธิวัฒน์ เล่าว่า ‘ผมเป็นสถาปนิก ปกติการทำงานของผมต้องใช้ความคิด และจินตนาการในเรื่องงานดีไซน์ หรือหาไอเดียใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะใช้เครื่องกระจายกลิ่นหอมมาเป็นตัวช่วยในการสร้างบรรยากาศความผ่อนคลายภายในบ้าน และห้องทำงาน เพราะชอบให้บ้านมีกลิ่นที่หอมสดชื่นอยู่เสมอ และช่วยสร้างแรงบัลดาลใจในการสร้างสรรค์ใหม่ออกมา’ นอกจากนี้ภรรยาสาวสวย จุฑาธรรม จิราธิวัฒน์ ยังเสริมอีกว่า ‘ส่วนตัวเป็นคนที่ชื่นชอบกลิ่นหอมอยู่แล้ว ปกติมักจะจุดเทียนหอมเพื่อสร้างบรรยากาศภายในบ้านเป็นประจำ พอตอนนี้มีลูกน้อย ก็จะเปลี่ยนมาใช้เครื่องกระจายความหอมเปิดแทน ส่วนกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยที่เลือกใช้ คือ กลิ่น ‘อีเดน บรีซ’ (Eden Breeze) เป็นกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกุหลาบและดอกมะลิที่มอบความผ่อนคลาย ช่วยสร้างบรรยากาศให้เรา สามี และลูกๆ ได้นอนหลับพักผ่อนกันได้อย่างเต็มที่’
สร้างสรรค์บรรยากาศความหอมให้กับทุกห้องภายในบ้านด้วยผลิตภัณฑ์กลุ่มโฮม อะโรมา (Home aroma series) ได้แล้ววันนี้ที่ร้าน ‘ธัญ’ (THANN) ทั้ง 16 สาขาทั่วประเทศ อาทิ สาขาสุขุมวิท 47, ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษร, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม, ชั้น1 และชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยามดิส คัฟเวอรี่, ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, ร้านวูว์ ถนนเจริญราษฎร์ และตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง จังหวัดเชียงใหม่, สาขาภูเก็ต (หน้าโรงแรม La Flora ป่าตอง) และสาขาใหม่ล่าสุด ชั้น 4ไอคอน สยาม