หลานม่า ภาพยนตร์ฟูลฟิลหัวใจฝีมือคนไทยที่กระตุ้นความรู้สึกและเป็นภาพสะท้อนมุมมองชีวิตให้กับผู้ชมในหลายมิติ โดยเนื้อหาของหนังเล่าถึงเด็กหนุ่มที่รู้ว่าอาม่าป่วยด้วยโรคร้าย “มะเร็ง” เขาจึงอาสาไปดูแลเพื่อหวังสมบัติของอาม่าในช่วงนั้นปลายชีวิต มี คุณยายแต๋ว-อุษา เสมคำ วัย 79 มารับบท “อาม่าเหม้งจู” ที่สร้างความประทับใจจนมีชื่อเสียงไปทั่วเอเชีย และหลามม่ายังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอสการ์สาขาภาพยนตร์นานาชาติยอดเยี่ยมอีกด้วย
หลายคนคงอยากรู้จักบทบาทชีวิตจริงนอกจอของคุณยายแต๋วมากยิ่งขึ้น ทั้งเรื่องเส้นทางการแสดง และที่สำคัญคือการมาเปิดเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพที่ทำให้ทำให้นักแสดงสูงวัยมีรอยยิ้มที่สวยสดใสน่าประทับใจอยู่เสมอ ใครเป็น FC คุณยาย ย้ำว่าไม่ควรพลาด
เส้นทางชีวิตก่อนมารับบทอาม่าเหม้งจูในภาพยนตร์ “หลานม่า”
“แม้ยายอายุจะย่างเข้าเลข 8 และเกษียณจากงานประจำมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว แต่ก็ยังหาเวลาออกไปทำกิจกรรมที่รักและชื่นชอบตามชมรมต่าง ๆ สม่ำเสมอ โดยเฉพาะรำไทยกับร้องเพลง และมีโอกาสได้ขึ้นโชว์ในหลายเวทีจนไปสะดุดตาผู้ผลิตรายการทีวี และได้รับเชิญให้มาแสดงความสามารถในรายการ อาม่าคาเฟ่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มตันของเส้นทางการเป็นนักแสดงค่ะ”
เคล็ดลับสุขภาพดีของอาม่าในวัย 79 ปี
เป็นคำถามที่เจอบ่อยมาก ทำไม 79 ปีแล้วยังสุขภาพดีขนาดนี้ และยิ่งช่วงนี้ หลานม่าประสบความสำเร็จในหลายประเทศ จึงต้องเดินทางไปออกงานค่อนข้างบ่อย กียิ่งต้องดูแลสุขภาพให้ดียิ่งขึ้น คุณยายบอกว่าพื้นฐานหลักคือหมั่นตรวจสุขภาพทุกปีและรับประทานอาหาร์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
เราอยากอยู่กับลูกหลานไปนานๆ ไปเที่ยวกับเขาในหลายๆที่ อยากเห็นพวกเขาเป็นฝั่งเป็นฝาเจริญก้าวหน้า
“นอกจากนั้นสังคมตอนนี้ยังเปิดกว้างสำหรับผู้สูงอายุมากขึ้น เพื่อให้ออกไปทำกิจกรรมและใช้ชีวิต ยายจึงอยากชวนให้ผู้สูงอายุออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน ไปทำกิจกรรมที่ชอบตามชมรมต่างๆ หรือเป็นจิตอาสาก็ได้ จะช่วยพัฒนาศักยภาพทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจไปพร้อมกัน ขอยกตัวอย่างคุณยาย เวลามากองถ่ายก็ได้รู้จักกับคนหลายรุ่นตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น วัยกลางคน หรือวัยเดียวกัน ได้พูดคุยสนุกสนาน พอถึงเวลาต้องทำงานซึ่งมีการแสดงทำทางตามบท ร่างกายก็ได้เคลื่อนไหว เป็นการออกกำลังกายไปในตัว

“แล้วคุณจะมีความสุข อย่ากลัวหรือปฏิเสธว่าไม่เอาไม่อยากเจอใคร ถ้าคิดเช่นนั้น คุณจะเหงาอยู่บ้านและแก่ไปเลย แต่ที่สำคัญการจะออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านผู้สูงอายุควรต้องเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมด้วย เพราะร่างกายที่เสื่อมโทรมไปตามวัยหรือโรคภัยที่รุมเร้าอาจเป็นอุปสรรคในการออกไปใช้ชีวิตตามที่ปรารถนา”
เคล็ดลับดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันมะเร็ง
“เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันบางคนก็ตรวจเจอโรคมะเร็งแต่ในความคิดเห็นของยาย ปัจจุบันมะเร็งไม่ได้น่ากลัว อย่างที่คิด ถ้าตรวจเจอเร็ว รักษาเร็ว หายเร็วก็มี”
คุณยายแต๋วย้อนเล่าประสบการณ์ให้ฟังว่าเมื่อสิบปีก่อนมีญาติผู้หญิงป่วยเป็นมะเร็งเต้านม เพราะคลำพบก้อนที่เต้านมโดยบังเอิญ เมื่อไปตรวจจึงรู้ว่าเป็นก้อนเนื้อร้ายระยะที่ 2 หมอแนะนำให้ตัดออก และปัจจุบันก็ยังมีชีวิตอยู่ คุณยายจึงคิดว่ามะเร็งในปัจจุบันไม่น่ากลัวอย่างที่คิดจากหลายปัจจัย ทั้งนวัตกรรมการรักษามีความเจริญก้าวหน้าบวกกับความรู้ความเข้าใจเรื่องการดูแลสุขภาพการรับประทานอาหาร การออกกำลังกายที่เหมาะสม และการใช้ชีวิตอย่างสมดุดทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้การรักษาผู้ป่วยมะเร็งประสบความสำเร็จ
นอกจากนี้นวัตกรรมเรื่องอาหารสุขภาพก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งมีสุขภาพแข็งแรงขึ้น และถ้าให้แนะนำผลิตภัณฑ์ที่คุณยายรู้จักและใช้อยู่ก็คือ IMIURA (อิมูร่า) อาหารเสริมของผู้ป่วยมะเร็งที่ไม่ใช่แค่วิตามิน แต่อิมูร่ายังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมกำลังกาย อีกทั้งยังยังช่วยเติมเต็มกำลังใจให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็ง รวมไปถึงครอบครัวคนใกล้ชิดด้วย เพราะเมื่อผู้ป่วยไม่ต้องนอนชม มีเรี่ยวแรงกลับมาทำกิจกรรมได้อย่างที่ต้องการแล้ว ก็ย่อมสร้างความสุข รอยยิ้มและกำลังใจในชีวิตของตัวผู้ป่วยและครอบครัว ช่วยสร้างความทรงจำในช่วงเวลาดี ๆ ของชีวิตไห้ยาวนานขึ้น

ทั้งนี้ขอย้ำว่าผู้ป่วยต้องปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์กินอาหารที่มีประโยชน์ สะอาดถูกสุขลักษณะ ออกกำลังกาย
อย่างสม่ำเสมอ และควรตรวจสุขภาพหรือตรวจคัดกรองมะเร็งเป็นประจำทุกปี เพราะหากตรวจพบรอยโรคเร็วจะสามารถ
ป้องกันไม่ให้โรคลุกลามหรือรักษาให้หายขาดได้
ส่วนเรื่องกำลังใจก็สำคัญ “หากใครตรวจพบเนื้อร้ายนี้ก็อย่าเพิ่งท้อแท้หรือหมดกำลังใจ เพราะยายเข้าใจว่าทุกวินาที
ในชีวิตผู้ป่วยโรคมะเร็งต้องใช้ความกล้าหาญและกำลังใจมหาศาลในการต่อสู้กับความเจ็บปวด ทั้งความเจ็บปวดจาก
ตัวโรค และความเจ็บปวดจากผลข้างเคียงของยาและการรักษา ทำให้ในแต่ละวันเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าชวนให้
ท้อแท้ สิ้นหวัง และผ่านไปอย่างยากลำบาก”
สนุกกับงานในฐานะพรีเซ็นเตอร์ด้านสุขภาพ
คุณยายแต๋วมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ IMURA (อิมูร่า) นอกจากสนุกกับการทำงาน ที่สำคัญคือเมื่อทดลอง
ใช้ผลิตภัณฑ์ก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง สดชื่นกระฉับกระเฉง มuเรี่ยวแรง ไม่รู้สึกอ่อนเพลuย และถ้าให้พูดถึงรสชาติ คุณยายบอกว่ารับประทานง่าย อร่อย ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล แต่มีสารทดแทนความหวานที่ผู้ป่วยเบาหวานสามารถรับประทานได้ รวมไปถึงคนทั่วไปก็สามารถรับประทานได้เช่นกัน
“ดื่มก็ง่าย แค่ฉีกของเทใส่แก้ว เติมน้ำ จากนั้นเชคๆ สนุกๆ แล้วดื่ม…รสชาติอร่อยดี ตอนนี้ยายดื่มทุกวัน”
นอกจากนี้ยังมีโอกาสส่งต่อการมีสุขภาพดีให้กับคนใกล้ชิดด้วย เพราะเมื่อคุณยายรู้ว่าสามีของคนรู้จักป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ และหลังจากไปหาหมอผ่าตัดเรียบร้อย แต่ยังมีอาการอ่อนเพลียมาก จึงส่ง IMURA (อิมูร่า) ไปให้ ผ่านไปสัก 1 อาทิตย์จึงโทร.กลับไปถามอาการอีกครั้งด้วยความห่วงใย ก็ได้รับคำตอบที่น่ายินดี
“ดีมากคุณยาย สามีดื่มแล้วร่างกายเขาดูมีแรง สามารถเดินออกกำลังกายได้มากขึ้น รู้สึกสดชื่นขึ้น แข็งแรงขึ้น ตอนนี้สั่งซื้อมากินเองแล้ว”
วันนี้แม้คุณจะต้องอยู่ร่วมกับโรคร้าย แต่คุณยายแต๋วขอเป็นตัวแหนอิมูร่า เติมเต็มคืนวันดี ๆ ให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกคน เพื่อตอกย้ำความเชื่อที่ว่าทุก ๆ วันมีค่าและคู่ควรกับการได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข