การทำความสะอาดบ้านช่วยแก้ปัญหาคิดไม่ตกในใจได้
เคยไหมที่ตอนเช้าๆ เลือกไม่ถูกว่าจะใส่เสื้อผ้าตัวไหน ก็เลยหยิบมาเลือกๆ แล้วกองไว้บนเตียงบ้าง บนพื้นบ้าง เพราะต้องรีบออกไปงานแล้ว หลังจากนั้นพอกลับมาถึงบ้าน เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานแล้วก็พลันรู้สึกเหนื่อยเข้าไปอีกเมื่อมาเจอสภาพห้องที่มีเสื้อผ้ากองไว้ เจอแบบนี้ก็ไม่อยากทำอะไรต่อแล้วก็ล้มตัวนอนไปทั้งอย่างนั้น พอรุ่งเช้าก็เป็นแบบเดิม คือหาของไม่เจอ หยิบมากองๆ ไว้ แล้วออกไปทำงานทั้งอย่างนั้น
พอห้องรกเพิ่มขึ้นทุกวัน อารมณ์หงุดหงิดไม่สบายใจก็ยิ่งค่อยเพิ่มพูน มีปัญหากับคนในครอบครัวบ้าง หรือเมื่อเจอปัญหานิดๆ หน่อยๆ กลับคิดไม่ออก แก้ไขไม่ได้ พาลทำให้เครียด จิตตกไปตลอดวัน ถ้าเป็นแบบนี้บ่อยๆ อาจถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องเริ่มลงมือ ‘ทำความสะอาด’
หากทำให้บริเวณที่ตัวเองอาศัยอยู่เรียบร้อย จิตใจก็จะสงบลงไปด้วย
ทำความสะอาดในที่นี้ หลายคนอาจคิดถึงการจัดการจิตใจของตัวเอง แต่อันที่จริงแล้ว ก่อนที่จะเริ่มจัดการจิตใจได้ จะต้องเริ่มที่การจัดการสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเองให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะห้องส่วนตัวและโต๊ะทำงาน เพราะห้องที่สกปรกรุงรังจะทำให้ความเหน็ดเหนื่อยเพิ่มขึ้นทั้งกายและใจ และทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด ทั้งที่จริงๆ แล้วห้องของเราควรเป็นสถานที่ที่ทำให้เราสงบและผ่อนคลายมากที่สุด
หรือแม้กระทั่งโต๊ะทำงานส่วนตัว ลองคิดดูว่า หากเรากำลังมีงานใหญ่งานสำคัญที่จะต้องนำเสนอ แต่เมื่อเหลือบไปเห็นโต๊ะทำงานก็พลันรู้สึกเอือมระอา ทั้งเอกสาร ทั้งขนม ทั้งเครื่องใช้สำนักงานวางระเกะระกะ อยากจะหาของที่จำเป็นต้องใช้ก็หาไม่เจอ ต้องมาเสียเวลาหาของเพิ่มแทนที่จะได้ทำงาน พอเป็นแบบนั้นก็รู้สึกหงุดหงิด จิตใจที่อยากทำงานก็อาจฝ่อลงง่ายๆ กำลังใจที่จะพยายามทำงานก็จะค่อยๆ ลดน้อยลงตามความรกของโต๊ะ
ทำไมแค่ของรกรุงรัง ถึงทำให้จิตใจว้าวุ่นได้?
ใครก็ตามที่รู้สึกว่าตัวเองหงุดหงิดง่าย หรือไม่ก็จิตใจว้าวุ่นบ่อยๆ คนแบบนี้ควรจะกวาดตามองห้องของตัวเองให้ทั่วๆ สักครั้ง แล้วลองคิดว่า สภาพห้องของตัวเรา ก็คือสภาพจิตใจของเราในตอนนั้น
เมื่อหงุดหงิดก็ยากที่จะเดินต่อไป บางคนอาจจะนั่งเฉยๆ อย่างหมดอาลัยตายอยากแทนที่จะลงมือทำอะไรสักอย่าง
โดยความรู้สึกหงุดหงิดที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเพราะเราไม่ได้ทำความสะอาดสภาพแวดล้อมของตัวเองให้เรียบร้อย พูดง่ายๆ คือ สภาพแวดล้อมทำให้จิตใจสับสนได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกำลังมีปัญหาคิดไม่ตกอยู่
ปัญหาที่เกิดขึ้นก็ยังหาทางจัดการไม่ได้ สมองก็คิดแต่เรื่องที่กำลังมีปัญหา แต่สายตาก็ดันมองเห็น ‘ปัญหา’ ภายในห้อง ทั้งความสกปรก รกรุงรัง สมองก็จะคิดหาทางจัดการปัญหาห้องรกไปด้วย เราจึงรู้สึกสับสน จิตใจปั่นป่วนได้ง่ายๆ เพราะไม่รู้จะจัดการอะไรก่อน
ดังนั้น เพียงแค่ทำความสะอาดบริเวณที่เราอยู่ โดยเฉพาะห้องนอนของตัวเอง มุมส่วนตัวสุดโปรดและโต๊ะทำงานให้เรียบร้อย เราก็สามารถบอกลาอารมณ์หงุดหงิดกวนใจต่างๆ ได้ง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้นหากกำลังมีปัญหาที่แก้ไม่ตก เมื่อเราได้เข้าไปอยู่ในห้องที่สะอาดสะอ้าน จิตใจก็จะสงบขึ้น ทำให้คิดแก้หาทางออกได้ดีกว่า เพราะหากจิตใจกำลังวุ่นวาย เราจะไม่สามารถจัดการปัญหาต่างๆ ได้ดีแน่ๆ
นอกจากนี้การทำความสะอาดยังช่วย ให้เราลืมความเครียดและความกังวลที่อยู่ตรงหน้าได้ คนอื่นๆ อาจจะบอกให้ปล่อยวาง ให้ลืมมันไป แต่มันก็ยากเหลือเกิน ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องฝืน หรือเอาแต่บอกตัวเองว่า ต้องลืมๆ เพียงแค่ใช้ชีวิตอย่างปกติ แล้วคั่นด้วยการทำความสะอาดบ้านครั้งละ 5 นาที เมื่อรู้สึกตัวว่าเรากำลังนั่งคิดกังวล ไม่ว่าจะจัดโต๊ะ เก็บห้อง ทำงานบ้าน ล้างจาน หรืออะไรก็ตามที่สะดวกกับคุณในช่วงเวลานั้น
การทำความสะอาดสั้นๆ ที่ใช้เวลาเพียง 5 นาทีนี้ จะช่วยให้เราไปจดจ่อการเคลื่อนไหวของร่างาย ซึ่งก็คือจดจ่ออยู่กับปัจจุบันแทนหลังจากผ่านไป 5 นาทีเราจะรู้สึกได้ว่า ความกังวลนั้นเบาบางลง นั่นเป็นเพราะว่าความกังวลเหล่านั้นได้ถูกลบไปจากความจำใช้งานของสมองส่วนหน้าแล้ว ทำให้ยากที่จะนึกถึงความรู้สึกก่อนหน้านี้ได้
เมื่อห้องสะอาด เราจะรู้สึกได้เลยว่าใช้เวลาในแต่ละวันด้วยความสบายใจมากขึ้น ราวกับว่าสิ่งที่สุมในใจและปัญหาต่างๆ ได้ถูกจัดการเรียบร้อย ยิ่งหากเราทำความสะอาดจนเป็นนิสัย การใช้ชีวิตต่างๆ จะราบรื่นขึ้นกว่าเมื่อก่อนแน่นอน เพราะสภาพจิตใจของเราได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อทำความสะอาด ทิ้งข้าวของที่ไม่เป็นประโยชน์ในชีวิต จัดการความสกปรกออกไป ความคิดไร้สาระในใจก็จะหายไป มีเงินเหลือเก็บมากขึ้น เกิดความสบายใจ โล่งอกโล่งใจ จิตใจก็จะสงบขึ้น คิดแก้ปัญหาอะไรก็ง่ายสบายแน่นอน