วังคีสะ หมอดูผู้พยากรณ์ชาติหน้า ของคนตายด้วยหัวกะโหลก
สมัยพุทธกาลมีหมอดูที่มีวิธีการทำนายที่ประหลาดมาก เขาจะพยากรณ์ว่าคนตายไปเกิดเป็นอะไรอยู่ที่ไหนด้วยหัวกะโหลกของคนตายคนนั้น หมอดูคนนี้มีชื่อว่า ” วังคีสะ ” เขาเกิดในตระกูลพราหมณ์ ศึกษาพระเวทจนแตกฉาน นับว่าเป็นคนหนึ่งที่เก่งมากเลยทีเดียว
แต่ด้วยความชอบศึกษาเรื่องอาถรรพ์ จึงเชี่ยวชาญในการพยากรณ์คนตายว่าตายแล้วไปเกิดเป็นอะไรเพียงแค่ใช้นิ้วเคาะลงที่กะโหลกเท่านั้น เขายึดวิชานี้หาเลี้ยงชีพจนร่ำรวย สามารถตั้งเป็นกลุ่มช่วยกันทำงานตระเวณไปตามเมืองต่าง ๆ ในชมพูทวีป
ใคร ๆ ก็สนใจเพราะเป็นศาสตร์พยากรณ์ที่แปลก แล้วแถมยังได้รู้อีกว่าคนที่ตนเองรัก ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ตอนนี้ไปเกิดอยู่ที่ไหน
วันหนึ่งกลุ่มของวังคีสะเดินทางมาถึงกรุงสาวัตถี แล้วพักอยู่ในบริเวณที่ไม่ไกลจากพระเชตวันวิหาร ซึ่งเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้ามากนัก กลุ่มของวังคีสะแปลกใจที่เห็นชาวบ้านถือถาดดอกไม้ และข้าวของเดินทางผ่านกลุ่มตนไป จึงตะโกนถามชาวบ้านไปว่า
“พวกท่านกำลังจะไปที่ใดกัน”
ชาวบ้านตอบกลับว่า
“เรากำลังไปฟังเทศน์ที่พระเชตวันวิหาร”
กลุ่มของวังคีสะจึงชักชวนว่า “นำเครื่องสักการะเหล่านั้นมาให้ท่านวังคีสะเสียดีกว่า ท่านเป็นผู้ที่สามารถพยากรณ์ได้ว่า คนตายไปแล้วไปเกิดเป็นอะไร แล้วไปเกิดอยู่ที่ไหน”
ชาวบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
“ไม่มีผู้ใดรู้เท่าเทียมพระพุทธเจ้าของเราได้หรอก”
ทันใดนั้นจึงเกิดการตอบโต้จนกลายเป็นการวิวาทอย่างไม่มีทีท่าว่าฝ่ายใดจะยอมเลิกรา กลุ่มของวังคีสะก็อยากรู้ว่าพระพุทธเจ้าจะทรงรู้แจ้งถึงเรื่องการเกิดของคนตายอย่างวังคีสะหรือไม่ จึงรีบพากันไปพระเชตวันวิหาร
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบด้วยญาณถึงการมาเยือนของกลุ่มวังคีสะ ผู้พยากรณ์เรื่องชาติหน้าด้วยหัวกะโหลกของคนตาย จึงทรงโปรดให้นำหัวกระโหลกของคนตายมา 5 กระโหลกด้วยกัน
เมื่อวังคีสะมาถึงที่ประทับของพระพุทธองค์ ก็พบว่าเบื้องหน้ามีกะโหลกคนตายจัดวางไว้อยู่แล้วถึง 5 กะโหลก พระพุทธองค์ทรงวานให้วังคีสะพยากรณ์ผู้ล่วงลับเจ้าของกะโหลกเหล่านี้ว่า เวลานี้เขาไปเกิดเป็นอะไรและอยู่ที่ใดกันบ้าง
คลิกเลข 2 ด้านล่าง เพื่ออ่านหน้าถัดไป >>>