อาหารจานด่วนอย่าง ก๋วยเตี๋ยว นั้น รู้หรือไม่ว่าอาจมีพิษภัยแฝงมาไม่น้อยโดยเฉพาะร้านก๋วยเตี๋ยวบางร้านที่ไม่ได้คำนึงถึงคุณภาพของวัตถุดิบและความสะอาดเท่าที่ควร ดังนั้นเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภคเราจึงรวบรวม 7 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับจานด่วนจานนี้มาฝากกัน
เหนียว – ขุ่นเกินไปอันตรายถามหา
เราทราบกันดีว่าเส้นสดจำพวกเส้นใหญ่และเส้นเล็กนั้นมีความชื้นสูง เก็บไว้ได้เพียง 2 – 3 วันก็เสีย จึงมีการเติมสารกันบูดเพื่อยืดอายุของเส้นให้อยู่ได้นาน โดยมีสีสันคงเดิม ไม่ขึ้นรา ส่วนเส้นแห้งอย่างเส้นหมี่ที่เชื่อกันว่ามีสารกันบูดน้อยกว่านั้น ความจริงแล้วมีสารกันบูดเป็นรองแค่เส้นเล็กเท่านั้นส่วนบะหมี่ซึ่งทำจากแป้งสาลี มักเติมสารชนิดนี้ไม่เกินมาตรฐาน แต่กลับพบสีสังเคราะห์ซึ่งอันตรายไม่แพ้กัน วิธีสังเกตคือหากเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เหนียวผิดปกติ กัดขาดจากกันยาก นำลงลวกแล้วน้ำขุ่น เส้นสดที่ทิ้งไว้ 2 – 3 วันยังคงเดิม ไม่ขึ้นรา แต่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว รวมถึงบะหมี่ที่สีสดเกินจริง ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ฟันธงได้เลยว่าใส่สารสังเคราะห์แน่นอน และถ้าต้องกินนอกบ้าน ควรบริโภคเพียง 1 ชามต่อวันและไม่ควรกินติดต่อกันเป็นประจำทุกวัน เพื่อไม่ให้ตับ – ไตต้องเสี่ยง และลดโอกาสสะสมสารพิษที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้อีกด้วย
มันมากับความชื้นกลิ่นหืน และเหม็นอับ
อะฟลาท็อกซินหรือเชื้อราที่พบในพริกป่น – ถั่วป่นนั้น เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมานาน ด้วยเพราะเป็นวัตถุดิบที่เก็บรักษายากแค่เจอความชื้นหรือเก็บไว้นาน อะฟลาท็อกซินก็พร้อมก่อตัวทันที ที่น่ากลัวคือ ความร้อนเพียงจุดเดือดฆ่าไม่ตาย เพราะเชื้อราชนิดนี้สามารถทนความร้อนถึง 260 องศาเซลเซียสสิ่งเดียวที่จัดการได้คือ รังสีอัลตราไวโอเลตดังนั้น การนำพริกป่น – ถั่วป่นไปตากแดดก่อนเก็บ จึงลดและยับยั้งการเติบโตของเชื้อราได้ การทำกินเองจึงปลอดภัยที่สุดเพียงเลือกถั่วลิสงและพริกแห้งที่ไม่ขึ้นรา ไม่เหม็นอับที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องซื้อคราวละมาก ๆ เนื่องจากมีขายตลอดทั้งปี แต่หากต้องกินของเหล่านี้ตามร้านต่าง ๆ ก็ควรสังเกต ถ้ามีลักษณะเหม็นหืน สีผิดปกติ จับตัวเป็นก้อนหลีกเลี่ยงไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะพิษของเชื้อรานี้เป็นบ่อเกิดชั้นดีของมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับ นอกจากนี้ยังมีผลต่อระบบหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ระบบสืบพันธุ์ และระบบภูมิคุ้มกัน หากได้รับอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานจะทำให้หายใจลำบาก ตับถูกทำลาย สมองและหัวใจบวมส่วนเด็กที่บริโภคมากเกินไปอาจทำให้ชักและหมดสติได้เลยทีเดียว
คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป
ไร้มาตรฐานเสี่ยงสารตะกั่ว
ต้องบอกว่าหม้อสำหรับน้ำซุปและลวกก๋วยเตี๋ยวนั้น ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญของอาหารจานนี้ แต่ร้านก๋วยเตี๋ยวบางส่วนกลับไม่ให้ความสำคัญ เลือกใช้หม้อที่ใช้ตะกั่วบัดกรี ซึ่งไม่ได้มาตรฐาน มอก. บางแห่งใช้หม้อที่ชำรุดไม่ได้คุณภาพ ส่งผลให้สารตะกั่วจากหม้อปนเปื้อนมาในอาหารหากได้รับในปริมาณมากจะเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย ปวดหัว และเมื่อมีพิษสะสมมาก จะเสี่ยงต่อระบบประสาทส่วนปลาย บริเวณนิ้วมือ-นิ้วเท้าเป็นอัมพาตอ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย จึงควรสังเกตก่อนเพื่อความปลอดภัย เลือกร้านที่ใช้หม้อที่มีรอยต่อเป็นแนวตะเข็บเรียบร้อยไม่ขรุขระ และมีตรามาตรฐานมอก.การันตี
สีสวยแต่อันตราย
สีสวย ๆ และรสอร่อยของเย็นตาโฟถือเป็นอีกสิ่งที่ถูกใจคนรักเส้นจำนวนไม่น้อยแต่ซอสสีสดที่แสนน่ากินนั้น มักมีอันตรายแอบแฝงมาด้วย เนื่องจากผู้ผลิตซอสดังกล่าวนิยมใช้สีปองโซ 4 อาร์ ซึ่งเป็นสีผสมอาหารที่ได้จากการสังเคราะห์ในปริมาณที่เกินกำหนด เพื่อให้ซอสมีสีแดงสด ส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภคโดยตรง เนื่องจากสีสังเคราะห์ส่วนใหญ่มีสารตะกั่วและสารหนูเป็นส่วนประกอบ เมื่อบริโภคเข้าไปจะเกิดการสะสมและตกค้างในร่างกาย หากกินเมนูที่ใช้ซอสอันตรายนี้อย่างน้อย 3 ต่อสัปดาห์จะทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง โลหิตจาง ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติ คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการทางระบบประสาท เมื่อสะสมในปริมาณมากทำให้เกิดโรคมะเร็งได้ การหลีกหนีซอสสีแดงสดและเลือกร้านที่ทำซอสเองจากเต้าหู้ยี้จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด
สารพิษคืนชีพความกรอบ
เย็นตาโฟคือหนึ่งในเมนูเส้นยอดนิยมที่อุดมไปด้วยเครื่องเคราแบบจัดเต็ม ที่ถือเป็นเอกลักษณ์และขาดไม่ได้คือปลาหมึกกรอบกรุบ เพิ่มสัมผัสและความอร่อยได้เป็นอย่างดี ทว่าเพื่อคงความกรอบไว้ผู้ค้าบางส่วนจึงนำไปแช่ฟอร์มาลีน และเติมบอแร็กซ์ให้ปลาหมึกกรอบน่ากิน เมื่อกินเป็นประจำจะทำให้กระเพาะอาหารเป็นแผล เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเป็นอันตรายต่อเซลล์ตับ – ไต ทำให้ไตวายได้ด้วย หลีกเลี่ยงได้เป็นดีที่สุด
คลิกเพื่ออ่านต่อหน้าถัดไป
เด้งดึ๋งพึงระวัง
อีกสิ่งที่คนรักเส้นให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ ความอร่อยของลูกชิ้นที่หากเด้งดึ๋งหนึบหนับรสชาติดี ก็มักจะถูกใจลูกค้าเป็นพิเศษ และเพื่อเพิ่มความหยุ่น กรอบเด้งไม่เสียง่าย ผู้ผลิตบางแห่งจึงใส่สารบอแร็กซ์และสารกันบูดทั้งที่บอแร็กซ์นั้นเป็นสารต้องห้ามในแวดวงอาหาร แม้จะใส่ในปริมาณน้อย แต่ผลเสียก็ส่งตรงถึงผู้บริโภค ทั้งแบบเฉียบพลันทำให้ปวดศีรษะ ผิวหนังอักเสบ ผมร่วงคลื่นไส้ อาเจียน อุจจาระร่วง ไปจนถึงเสียชีวิต และแบบเรื้อรัง ที่ทำให้อ่อนเพลียเบื่ออาหาร ตับ-ไตอักเสบ น้ำหนักลด ส่วนสารกันบูดนั้น เมื่อบริโภคในระยะยาวนอกจากทำให้ความดันโลหิตสูงแล้ว หากเติมน้ำส้มสายชูหรือมะนาวยังทำให้เกิดสารก่อมะเร็งที่เรียกว่า “เบนซีน” และเสี่ยงต่อโรคพาร์กินสันและสมองเสื่อมอีกต่างหาก
ทางที่ดีหากซื้อมาปรุงเอง ควรนำมาล้างน้ำหรือลวกอีกครั้ง ถ้านำออกจากตู้เย็นต้องลวกเป็นเวลานาน และระวังลูกชิ้นที่ราคาถูกเกินไป เพราะอาจมีส่วนผสมของเนื้อปลาปักเป้าหรือเนื้อปลาที่เก็บไว้นานแล้วนำกลับมาทำใหม่ ซึ่งอาจมีแบคทีเรียปนเปื้อนส่วนผู้ที่นิยมกินนอกบ้านให้เลือกเข้าร้านที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะร้านที่ทำลูกชิ้นเองเพื่อความสดใหม่
ขาวน่ากิน แต่ไม่ฟินเพราะพิษเพียบ
แทบทุกเมนูก๋วยเตี๋ยวต้องมีถั่วงอกทั้งแบบลวกและกินสด แต่ถ้าสังเกตเห็นถั่วงอกสีขาวกว่าปกติควรหลีกเลี่ยง เพราะสุ่มเสี่ยงว่าจะใช้สารฟอกขาวหรือสารโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพหากบริโภคเข้าไปจะมีผลให้อวัยวะภายในเช่น ปาก ลำคอ กระเพาะอาหาร เกิดการอักเสบได้ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้ปวดหลัง ปวดศีรษะอาเจียน แน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก ความดันลดลง เมื่อได้รับในปริมาณมากอาจทำให้เสียชีวิตได้ เลือกกินถั่วงอกที่ไม่ขาวจนเกินไป มีสีใกล้เคียงธรรมชาติปลอดภัยกว่า
อ่านข้อมูลเหล่านี้แล้วอย่าเพิ่งหวาดวิตกจนขยาดก๋วยเตี๋ยวไปเสียก่อน เพียงเลือกเข้าร้านที่วางใจได้และไม่บริโภคมากจนเกินไปก็น่าจะทำให้มีความสุขกับก๋วยเตี๋ยวจานโปรดได้แล้ว จะให้ดีลองนำสูตรก๋วยเตี๋ยวโฮมเมด
จาก H & C ไปใช้ ก็รับรองว่าอร่อยปลอดภัยหายห่วง
เรื่องโดย : mambo
ภาพ : พีระพัฒน์ พุ่มลำเจียก
สไตล์ : ปรางรัตน์ ฤกษ์สง่า ผู้ช่วยสไตลิสท์ : แสงดาว สุขสาลี
