ออกกำลังกาย อารมณ์

7 วิธี ออกกำลังกาย ให้เหมาะกับอารมณ์

7 วิธี ออกกำลังกาย ตามอารมณ์ ทำให้ชีวิตคุณดีอย่างไม่น่าเชื่อ!

เชื่อหรือไม่ว่า ถึงแม้เราจะมีอารมณ์ร้าย หรือดีแค่ไหนแค่ไหน การลุกไป ออกกำลังกาย จะช่วยเยียวยาคุณให้กลับสู่สมดุลได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะนอกจากสามารถช่วยระงับอารมณ์แล้ว แถมยังทำให้ร่างกายฟิตเฟิร์มได้อีกด้วย

ออกกำลังกาย ตามอารมณ์

อารมณ์วิตกกังวล

ต้องได้รับการเทรนด์ออกกำลังกายที่เข้มข้น และหนัก เช่นการออกกำลังเข้มข้นสูงเป็นช่วง เพื่อให้ได้คาร์ดิโอที่แข็งเเรง จะทำให้อารมณ์ฟุ้งซ่านของเราหายไปแถมการสูบฉีดเลือดดียิ่งขึ้นด้วย

อารมณ์โกรธ

เหมือนสูญเสียของรัก จำเป็นต้องออกกำลังกายด้วยการยกเวทเทรนด์นิ่ง เพราะการยกเวทด้วยน้ำหนักที่เยอะๆ เปรียบเสมือนกับการเอาพลังงานด้านลบของอารมณ์โกรธทั้งหมดมาใช้เป็นแรงขับเพื่อยก ทำให้มีประสิทธิภาพในการยกดัมเบลมากขึ้น

อารมณ์เครียด อยู่ในจิตใจ

ต้องเลือกออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ ในระดับความเข้มข้นปานกลาง เพราะคนประเภทนี้ต้องการความเป็นส่วนตัว อยูกับตัวเองดีที่สุด ฉะนั้นการออกกกำลังกายด้วยการวิ่งในสวน หรือสถานที่เงียบสงบสักประมาณ 30 นาที จะช่วยให้ใจสงบมากยิ่งขึ้น

อารมณ์ชิลล์ รู้สึกสบาย ๆ

การเล่นโยคะที่บ้านหรือในสตูดิโอประมาณ 15 นาที เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมมากที่สุด เพราะการที่ร่างกายได้ขับเหงื่อออกมาเป็นการขับสารพิษออกจากร่างกายด้วย

อารมณ์แน่วแน่ มั่นใจ อยากออกไปป้องป้องโลก

เหมาะกับการออกกำลังกายประเภทครอสฟิต คือ การการออกกำลังกายที่เน้นการเคลื่อนไหว ทำให้อึด เผาผลาญได้ดี และมีความเเข็งเเรงทนทาน ขึ้นอยู่กับความหนักเบาของตารางการออกำลังในแต่ละวัน

ออกกำลังกาย

อารมณ์แบบว่าขี้เกียจ ไม่อยากจะตื่น ลุกออกจากเตียง

ถ้าเป็นเช่นนี้แนะนำให้ลองหากิจกรรมการออกกำลังกายที่สามารถทำได้เองที่บ้าน โดยอาจจะประยุกต์จากกิจกรรมทำงานบ้าน  หรือระหว่างดูทีวีก็เปลี่ยนบรรยากาศเปิดคลิปหรือวิดีโอการเต้น หรือออกำลังกายทำเองที่บ้าน 10-15 นาที

อารมณ์กระตือรือร้น

มีพลังเหลือใช้ คนประเภทนี้ต้องออกจากบ้านเพื่อเข้าคลาสออกำลังกายร่วมกับคนอื่นๆ  เช่น การเต้นซุมบ้า โพเเดนท์ หรืออะไรก็ตามที่มีการเปิดเพลงประกอบจังหวะการออกกำลังกาย เพราะคลาสประเภทนี้เป็นกิจกรรมที่ดีที่จะทำให้เอาพลังงานทั้งหมดคุ้มกับการเสี่ยเหงื่อ

แล้วตอนนี้คุณมีอารมณ์ไหนกัน รีบลุกมาออกำลังกายนะ

รู้หรือไม่? ออกกำลังกาย นาน 10 นาทีขึ้นไป ช่วยลดโรคต่าง ๆ ได้

หลายคนไม่ชอบ ออกกำลังกาย เพราะรู้สึกเหนื่อย และบ้างก็อ้างไม่มีเวลา แต่รู้มั้ยว่า การออกกำลังกายคือสิ่งจำเป็น โดยผลการวิจัยในต่างประเทศพบว่า การมี พฤติกรรมเนือยนิ่ง (Sedentary Behavior) ที่มีต่อเนื่องเกิน 2 ชั่วโมงต่อครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นการนั่งดูทีวี เล่นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือแม้กระทั่งการนั่งทำงาน และนั่งเรียนหนังสือ จะทำให้ระบบการทำงานของลำไส้ ระบบการดูดซึม และย่อยอาหารมีประสิทธิภาพน้อยลง ซึ่งนำไปสู่การเกิดโรคได้ในที่สุด

ซึ่งการมีกิจกรรมทางกายที่ไม่เพียงพอนี้ เป็นสาเหตุที่นำไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของประชากรโลกถึงร้อยละ 5.5 หรือประมาณ 3.2 ล้านคนต่อปีจากโรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง มะเร็งชนิดต่างๆ เบาหวาน รวมถึงโรคปอดและทางเดินหายใจ

ไขมันเริ่มสลาย เมื่อเรา ออกกำลังกาย ต่อเนื่อง 10 นาที ขึ้นไป

ATP-CP “พลังด่วนทันใจ” เป็นพลังงานจากเซลล์ที่มีอยู่แล้วสามารถนำมาใช้ได้เลย ใช้ออกซิเจนน้อยมาก และไม่ต้องแปลงมาจากสารอาหารใดๆ วิธีนี้ จะถูกใช้เมื่อร่างกายต้องการพลังงานในเวลาอันสั้น เช่น กระพริบตา ยกน้ำหนัก หรือวิ่งแข่ง 100 เมตร แต่ด้วยสาเหตุที่กล้ามเนื้อเก็บ ATP ไว้เพียงนิดเดียว จึงหมดในเวลาสั้น คือประมาณ 20 วินาทีแรก ซึ่งการจะสร้างใหม่จนเต็มจะต้องใช้เวลา 2 – 3 นาที ดังนั้นถ้าหากต้องการพลังงานยาวนานกว่านั้น ร่างกายจะใช้วิธีสร้างพลังงานแบบอื่นเข้ามาช่วย

ไกลโคเจน “พลังฮึดได้แต่ไม่นาน” ไกลโคเจนนั้น ร่างกายสร้างมาจากกลูโคสแล้วมาเก็บไว้ที่กล้ามเนื้อ เมื่อร่างกายต้องใช้แรงอย่างหนักเป็นเวลา 20 วินาที – 3 นาที ก็จะได้พลังงานนี้มาจากการสลายไกลโคเจนที่อยู่ในกล้ามเนื้อ วิธีนี้ใช้ออกซิเจนน้อย จึงใช้เวลาในการสร้างพลังงานเร็วมาก หากใช้พลังงานถึงนาที ที่ 4-5 ก็จะเริ่มผ่อนลง เพื่อเก็บกลูโคสไว้ให้สมองใช้ ซึ่งการได้มาของพลังงานในส่วนนี้ อาจส่งผลให้ร่างกายเกิดกรดแลคติกขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อเมื่อยล้าขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นเป็นตะคริวได้

ไขมัน “พลังไม่หนักแต่นาน” ถ้าใช้กำลังนานถึง 8 -10 นาทีขึ้นไป ในขณะที่พลังงานจากแหล่งอื่นๆ ลดลง ร่างกายก็จะเปลี่ยนไปใช้ไขมันในร่างกายเป็นหลัก ซึ่งพลังงานในส่วนนี้ได้มาจากการเผาผลาญไขมัน ซึ่งมีมากเพียงพอ จึงใช้พลังงานได้เต็มที่ เป็นเหตุผลที่เราส่งเสริมให้คนออกกำลังกายต่อเนื่อง 10 นาทีขึ้นไป ไม่ควรวิ่งๆ หยุดๆ เพราะ
ร่างกายจะกลับไปใช้พลังงานจากเซลล์และไกลโคเจนเสมอ ไม่ได้ใช้ไขมันเสียที

ชีวจิต Tips เลือกรองเท้ากีฬา ต้องดูอะไรบ้าง

อุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับการเดินคือ รองเท้า ต้องเลือกรองเท้าที่มีขนา เหมาะสมและสวมใส่สบาย เพื่อให้ก้าวเดินได้อย่างถูกต้องและไม่สร้างภาระให้ร่างกาย โดยทั่วไปเวลาเลือกรองเท้าหลายคนมักสนใจแต่ประสิทธิภาพของรองเท้า โดยไม่ได้พิจารณาว่ารองเท้านั้นเหมาะกับขนาดและรูปเท้าของตัวเองหรือไม่ การเดินออกกำลังกายจะต้องใช้เท้าอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ จะต้องเลือกรองเท้าให้เหมาะกับเท้า

ขนาดพอดีเท้า

ถ้ารองเท้าเล็กจนแน่นเท้าก็จะทำให้รูปเท้าเปลี่ยนไป แต่ถ้ารองเท้ามีขนาดใหญ่เกินไป ก็จะไม่สามารถรองรับเท้าได้อย่างมั่นคง และเป็นสาเหตุของการบาดเจ็บระหว่างออกกำลังกายได้ รองเท้าที่พอดีกับเท้า เมื่อสวมแล้วจะรู้สึกสบาย ควรลองใสเดินดูก่อน เพื่อตรวจสอบความยาวด้านหน้าและด้านหลังของรองเท้า และต้องไม่รู้สึกอึดอัดบริเวณแก้มเท้า

สอดนิ้วมือเข้าไปได้

เมื่อลองเดิน เท้าจะถูกดันเข้าไปในรองเท้า จึงต้องมีพื้นที่สักหนึ่งนิ้วมือระหว่างนิ้วเท้าที่ยาวที่สุดกับปลายรองเท้า เพื่อให้มีที่ให้เท้าขยับได้ และความกว้างของรองเท้าต้องพอเหมาะกับความกว้างของหน้าเท้า สวมแล้วไม่รู้สึกบีบรัด

เมื่อผูกเชือกรองเท้าแล้ว ต้องรู้สึกสบายเท้า

เมื่อลองสวมรองเท้าให้ผูกเชือกรองเท้าให้เรียบร้อยเหมือนตอนใช้จริงด้วย เพราะเวลาลองสวมที่ร้านโดยไม่ได้ผูกเชือกอาจรู้สึกพอดี แต่พอลองผูกเชือกรองเท้าจริง ๆ แล้วอาจรู้สึกอึดอัดได้ ลองผูกหลาย ๆ แบบ ทั้งแบบแน่นมาก และแบบหลวม ๆ แล้วตรวจดูว่าในสภาพต่าง ๆ ยังสามารถเคลื่อนไหวนิ้วเท้าได้สะดวกหรือไม่

สวมถุงเท้าขณะลองใส่

ความรู้สึกเมื่อลองสวมด้วยเท้าเปล่ากับลองสวมพร้อมถุงเท้าจะแตกต่างกันมาก ควรเตรียมถุงเท้าที่ใช้จริงเวลาเดินไปลองสวมกับรองเท้าด้วย หรือขอถุงเท้าที่ทางร้านเตรียมไว้ให้

สวมรองเท้าทั้งสองข้างแล้วทดลองเดิน

ส่วนใหญ่เท้าสองข้างจะมีขนาดไม่เท่ากัน แม้ข้างหนึ่งจะพอดี แต่อีกข้างอาจอึดอัดได้ ดังนั้น จึงควรลองใส่ทั้งสองข้างพร้อมกับลองเดินดูด้วย

ซื้อรองเท้าตอนเย็น

โดยปกติแล้วเท้าคนเราจะบวมขึ้นเมื่อตกบ่าย รองเท้าที่สวมได้พอดีในตอนเช้าจะอึดอัดในตอนเย็น ดังนั้นจึงควรซื้อตอนเย็นในช่วงที่เท้าขยายขนาด จึงจะได้รองเท้าที่สวมใส่สบายตลอดวัน

ต้องลองใส่ทุกครั้งที่เลือกรองเท้า

รูปเท้าจะเปลี่ยนแปลงไปทุกปี รุ่นและขนาด รองเท้าก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน แม้เราจะรู้ขนาดเท้าตัวเอง แต่ทุกครั้งที่ซื้อควรลองใส่ดูก่อนเสมอ

เลือกรองเท้าน้ำหนักเบา

อย่าเลือกรองเท้าหนักเพราะคิดว่าจะช่วยเสริมประสิทธิผลในการออกกำลังกาย เพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาได้

ข้อมูลจาก หนังสือยิ่งเดินยิ่งผอมยิ่งสุขภาพดี

บทความอื่นที่น่าสนใจ

2 สเต็ป ลดพุง

วิ่งอย่างไร ไม่ให้เจ็บ

ขาดการออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายขาดวิตามิน

เทคนิคใกล้ตัวช่วย โกร๊ธฮอร์โมน หลั่ง ควรทำควบคู่ออกกำลังกาย

โปรแกรมวิ่งให้ ขาเรียว ภายใน 7 สัปดาห์

ติดตามชีวจิตได้ที่

Instagram Cheewajitmedia
Facebook นิตยสารชีวจิต

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.