ยำผลไม้ กับปลากรอบ อร่อยแซ่บซี้ด กับผลไม้ไทย

ยำผลไม้ กับปลากรอบ อร่อยแซ่บซี้ด กับผลไม้ไทย อยากกินอะไรก็ใส่ลงไปแหล่ะที่จริง แต่เลือกให้เป็นผลไม้ รสชาติอมเปรี้ยวอมหวานหน่อย อร่อยเลิศ

ยำผลไม้ กับปลากรอบ
พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 53.50 กิโลแคลอรี
โปรตีน 3.87 กรัม ไขมัน 1.15 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 6.92 กรัม ไฟเบอร์ 0.48 กรัม

ส่วนผสม (สำหรับ 3 – 4 ที่)
เตรียม 10 นาที ปรุง 10 นาที
เนื้อเสาวรส 1/4 ถ้วย
มะเฟืองหั่นแท่งบาง 1/4 ถ้วย
ลิ้นจี่ฉีกเป็นชิ้น 1/4 ถ้วย
มะม่วงเปรี้ยวซอยเป็นเส้น 1/4 ถ้วย
ปลาเนื้ออ่อนแห้งย่างพอหอม 1/2 ถ้วย
หอมหัวใหญ่หั่นบางตามขวาง 1/4 ถ้วย
มะเขือเทศลูกใหญ่หั่นบาง 1/4 ถ้วย

ส่วนผสมน้ำยำ
พริกชี้ฟ้าแห้งเม็ดเล็ก บุบพอแตก 5 เม็ด
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือเล็กน้อย

วิธีทำ

ผสมส่วนผสมทุกอย่างของน้ำยำเข้าด้วยกัน เตรียมไว้
นำมะเฟือง ลิ้นจี่ และมะม่วงเปรี้ยว คลุกรวมกับเสาวรส ใส่หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ และน้ำยำ คลุกรวมอย่างเบามือ สุดท้ายโรยด้วยปลาเนื้ออ่อนย่าง

มะม่วง

มะม่วงดิบ พันธุ์อร่อยต้องพันธุ์ฟ้าลั่น แรด หรือเขียวเสวย กินกับน้ำปลาหวาน อร่อยไม่มีใครเกิน แต่ถ้าจะทำยำต้องพันธุ์น้ำดอกไม้ เพราะทั้งเปรี้ยวเข็ดฟันและหอมชื่นใจ ส่วนถ้าจะกินผลสุกกับข้าวเหนียวมูนต้องยกให้อกร่องและน้ำดอกไม้เท่านั้น
วิธีเลือกซื้อ : มะม่วงสุกเลือกที่ผิวอวบอิ่ม ไม่มีรอยช้ำ ผลใหญ่ มีรอยกระที่ผิวเล็กน้อย มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แสดงว่าสุกแบบธรรมชาติ ส่วนมะม่วงดิบให้เลือกที่ผลหนัก ขั้วสด และไม่มีรอยแตก
ฤดูกาล : เมษายน – พฤษภาคม
สุดยอดมะม่วง : มะม่วงน้ำดอกไม้สุก เขียวเสวยดิบ ฟ้าลั่นดิบ แรดดิบ จากชมรมทองแปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา และมะม่วงอกร่องสุก จากอำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี
ประโยชน์ต่อสุขภาพ : มีไฟเบอร์สูง คั้นน้ำรับประทานเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ร้อนใน แก้คลื่นไส้ แก้ถ่ายบิดเป็นเลือดได้ และยังใช้เป็นยาบำรุงกระเพาะอาหาร
เมนูอาหาร : มะม่วงดิบรสเปรี้ยวปรุงเป็นยำ มะม่วงสุกคนโบราณจะนิยมกินกับข้าวสวยร้อน ๆ และยังนำไปทำเค้ก ไอศกรีม และเครื่องดื่มได้อีกด้วย

ลิ้นจี่

ลิ้นจี่ แบ่งตามแหล่งปลูกได้ 2 กลุ่ม คือ ลิ้นจี่ภาคเหนือ เช่น พันธุ์จักรพรรดิพันธุ์ฮงฮวย พันธุ์กิมเจง รสหวานอร่อย เนื้อเยอะ (กิมเจงและฮงฮวยมีผลเล็กและเนื้อแห้งกว่าจักรพรรดิ) และลิ้นจี่ภาคกลางที่ปลูกกันเยอะในแถบจังหวัดสมุทรสงคราม เช่น พันธุ์ค่อม พันธุ์กะโหลกใบยาวหรือพันธุ์ทิพย์ ลูกกลมเปลือกบาง สีแดงสด เนื้อหนา เม็ดเล็ก รสหวานติดฝาด มีกลิ่นหอมพิเศษ
วิธีเลือกซื้อ : เลือกซื้อลิ้นจี่แก่จัด โดยดูจากผลจะมีหนามน้อยหรือผิวเปลือกเรียบ สีแดง ผลโต จึงจะมีรสหวานหอมและกรอบ ที่สำคัญ ก้านต้องสดไม่เหี่ยวแห้ง หากหนามบนผลลิ้นจี่มีเยอะและถี่แสดงว่ายังไม่สุกดี จะมีรสเปรี้ยว
ฤดูกาล : ลิ้นจี่ภาคกลาง ช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม ลิ้นจี่ภาคเหนือ ช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน
สุดยอดลิ้นจี่ : ลิ้นจี่พันธุ์ค่อมลำเจียกจากอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ลิ้นจี่พันธุ์จักรพรรดิ พันธุ์ฮงฮวย พันธุ์กิมเจง จากจังหวัดพะเยาและเชียงใหม่
ประโยชน์ : ช่วยย่อยอาหาร บำรุงระบบประสาท บำรุงอวัยวะภายใน เช่น ม้าม ช่วยบรรเทาอาการกระหายน้ำ เนื้อลิ้นจี่ตากแห้งนำมาต้ม ช่วยบรรเทาอาการปวด เนื่องจากโรคไส้เลื่อนหรือลูกอัณฑะบวม และโรคโลหิตจาง
เมนูอาหาร : กินผสมกับผลไม้ชนิดอื่นเป็นฟรุตสลัด กินคู่ กับไวน์ ปรุงเป็นซอสสเต๊ก ใส่ในแกงเผ็ดเป็ดย่าง

เรื่อง : ครัว H & C ภาพ : จิรวัฒน์ มหาทรัพย์ถาวร สไตล์ : อชิรญา เกตุหนู เขียนลงเว็บ เนื้อทอง ทรงสละบุญ
นิตยสาร HEALTH & CUISINE ปีที่ 10 ฉบับที่ 111 (เม.ย. 53) หน้า 80-95 (ปี 2553)

#ACuisine #เอควิซีน #cherrykitcook

อยากกิน อยากฟิน อยากทำ อย่าลืมติดตาม A Cuisine (เอควิซีน)

Website : https://cheewajit.com/category/healthy-food