ไรฝุ่น เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ ซึ่งรบกวนการนอนหลับของผู้ที่มีอาการดังกล่าว และแหล่งที่ไรฝุ่นอาศัยอยู่มากเป็นพิเศษก็คือที่นอน หมอน ผ้าห่มหรือวัสดุที่มีการยัดนุ่นและใยต่างๆ โดยรวมแล้วก็คือเครื่องใช้ที่อยู่ในห้องนอนทั้งหมด
การจัดและดูแลห้องนอนไม่ให้เป็นเป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่น จึงจำเป็นมากไม่ใช่แค่สำหรับผู้ป่วยภูมิแพ้เท่านั้น แม้แต่ผู้ที่ไม่ป่วย ก็ควรให้ความสำคัญกับการกำจัดไรฝุ่น เพื่อสุขภาวะที่ดีในการนอน
-
ไม่นำของมาไว้ในห้องนอนมากเกินไป
เริ่มแรกควรเลือกเครื่องใช้และของตกแต่งห้องนอนเฉพาะที่จำเป็น เพราะการนำทุกอย่างเข้าไปไว้ในห้องนอนจะทำให้ห้องรก ทำความสะอาดยาก และกลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นได้ง่าย โดยเฉพาะตุ๊กตาหรือหมอนแฟนซีรูปทรงต่างๆ ที่ใครหลายคนชอบนำมากองไว้บนเตียง โดยที่ไม่รู้เลยว่าภายในนั้นถือเป็นแหล่งสะสมชั้นเยี่ยมของไรฝุ่น เพราะด้านในตุ๊กตาหรือหมอนยัดด้วยนุ่นและใยรูปแบบต่างๆ แถมยังไม่ค่อยทำความสะอาดเท่ากับเครื่องนอนชิ้นอื่น ๆ ไรฝุ่นจึงสะสมมากเป็นพิเศษ
นอกจากนั้น หนังสือหรือของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อยควรเก็บไว้นอกห้องนอน อาจนำมาใช้หรือตั้งโชว์เพียงไม่กี่ชิ้นเท่าที่จำเป็น
-
จัดห้องให้โปร่งโล่ง ไร้มุมอับ
การจัดห้องให้ โปร่งโล่งสบาย ย่อมทำให้อากาศถ่ายเทได้ดี ส่งผลให้หายใจได้ดีขึ้น นอกจากนั้นการไม่มีมุมอับหรือมุมที่มีแต่ของกองเต็มไปหมด จะช่วยให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่าย ไม่มีฝุ่นสะสม บนพื้นควรจัดให้โล่งที่สุด ไม่ควรมีของวางแอบอยู่ใต้โต๊ะหรือซอกต่าง ๆ
นอกจากนี้ควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถทำความสะอาดพื้นด้านล่างได้ง่าย เพราะถ้าไม่ได้ทำความสะอาดมุมอับเป็นประจำ จะทำให้ฝุ่นสะสมหนาเตอะได้เลยทีเดียว
-
เก็บของให้เรียบร้อยในพื้นที่ปิดมิดชิด
เสื้อผ้าและของใช้ต่างๆ ที่อยู่ในห้องนอนนั้น ควรต้องมีที่เก็บเป็นสัดส่วนให้มิดชิด จะใส่ตู้ กล่อง ลิ้นชักก็ได้ แต่ไม่ควรนำมาวางกองกันไว้บนหลังตู้เด็ดขาด โดยเฉพาะเสื้อผ้า เครื่องนอนและผ้าขนหนูต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ แน่นอนว่านี่เป็นการเคลียร์พื้นที่ภายในห้องให้ทำความสะอาดง่าย และจำกัดพื้นที่ของวัสดุต่างๆ ที่สามารถสะสมไรฝุ่นให้อยู่ภายในพื้นที่ปิด เพื่อไม่ให้ไรฝุ่นฟุ้งกระจายและปะปนอยู่กับอากาศภายในห้อง
ถ้าเป็นของตกแต่งหรือหนังสือก็อาจวางไว้ในตู้กระจกแทนชั้นติดผนังแบบเปิดจะดีกว่า
-
ใช้ผ้าคลุมที่ช่วยกันไรฝุ่นโดยเฉพาะ
ส่วนที่สำคัญและใกล้ชิดกับเรามากที่สุดคงหนีไม่พ้นเครื่องนอนแต่ละชิ้น ทั้งที่นอน หมอน ผ้านวมและหมอนข้าง ซึ่งส่วนใหญ่ยัดด้วยนุ่น ใยสังเคราะห์ หรือฟองน้ำ ที่ล้วนที่เป็นวัสดุสะสมไรฝุ่นทั้งสิ้น วิธีป้องกันไม่ให้ไรฝุ่นรวมทั้งมูลของมันฟุ้งกระจายออกไป คือการใช้ผ้าคลุมที่ช่วยกันไรฝุ่นได้เฉพาะปูรองในชั้นแรก ก่อนปูทับด้วยผ้าปูที่นอนหรือปลอกหมอนตามปกติอีกชั้น
ผ้าปูกันไรฝุ่นนี้ควรผลิตมาจากผ้า พลาสติกหรือวัสดุต่างๆ ที่ผ่านการทดสอบแล้วว่ารูผ้าเล็กกว่าตัวและมูลของไรฝุ่น ไรฝุ่นไม่สามารถเล็ดลอดออกมาสัมผัสกับผิวหนังหรือหรือเข้าสู่ร่างกายด้วยการหายใจเข้าไปได้
-
ทำความสะอาดเครื่องใช้ไม่ให้มีไรฝุ่น
การกำจัดไรฝุ่นนั้นต้องใช้อุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นจัด โดยช่วงอุณหภูมิที่ทำให้ไรฝุ่นไม่สามารถมีชีวิตได้คือความเย็นที่ต่ำกว่า -10 องศาเซลเซียส และความร้อนตั้งแต่ 60 องศาเซลเซียสขึ้นไป การทำความสะอาดที่ง่ายที่สุดเพื่อจะกำจัดไรฝุ่น คือนำไปซักด้วยน้ำร้อนนั่นเอง เพราะการนำไปตากแดดหรือซักตามปกติเพียงอย่างเดียวนั้นจึงอาจไม่เพียงพอ
-
งดการใช้ผ้าจำพวกขนสัตว์หรือผ้าสักหลาดในห้องนอน
เมื่อมีผ้าคลุมกันไรฝุ่นเพื่อป้องกันเครื่องนอนในชั้นแรกแล้ว ก็ใช่ว่าจะใช้วัสดุชนิดไหนคลุมทับด้านนอกก็ได้ เพราะถ้าปลอกหมอนทำมาจากขนสัตว์ ผ้าสักหลาดหรือวัสดุที่เก็บฝุ่นได้ดี ก็แทบไม่ได้ประโยชน์อะไรจากผ้าคลุมกันไรฝุ่น
วัสดุเหล่านี้ไม่ควรนำมาใช้ในห้องนอนเลย ผ้าปูหรือปลอกหมอนต่างๆ ควรทำจากผ้าซาตินหรือผ้าคอตตอนทั่วไป จะช่วยลดการสะสมของไรฝุ่นและดูแลง่ายกว่า
-
หลีกเลี่ยงการปูพรมในห้องนอน
การปูพรมที่ทำให้ห้องนอนดูสวยมีสไตล์อาจต้องแลกกับการเพิ่มแหล่งสะสมของไรฝุ่น ถ้าอยากลดพื้นที่อยู่ของไรฝุ่นไม่ควรปูพรมทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นพรมขนสัตว์ พรมลูกฟูกหรือพรมที่ผลิตจากใยสังเคราะห์ประเภทต่าง ๆ ในห้องนอนเลยจะดีกว่า นอกจากจะลดพื้นที่สะสมไรฝุ่นลงไปแล้ว ยังช่วยให้ทำความสะอาดพื้นห้องทุกซอกทุกมุมได้ง่ายขึ้นด้วย
-
เลือกใช้ผ้าม่านที่ถอดซักง่ายหรือติดมู่ลี่
ผ้าม่านเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่สะสมไรฝุ่นได้มากที่สุด เครื่องนอนต่าง ๆ ยังทำความสะอาดและสับเปลี่ยนได้อยู่เสมอ แต่นาน ๆ ครั้งจึงจะทำความสะอาดผ้าม่านสักครั้ง แถมเนื้อผ้าที่ใช้ผลิตผ้าม่านส่วนใหญ่ล้วนแต่เก็บกักไรฝุ่นได้เป็นอย่างดี จึงควรเลือกผ้าม่านที่เนื้อผ้าลื่นเป็นเงา เช่น ผ้าแพร หรือผ้าซาติน สามารถถอดทซักทำความสะอาดได้ง่าย หรือไม่ก็เลือกใช้มู่ลี่ที่ทำจากไม้หรือพลาสติกไปเลย
-
ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำความสะอาดง่าย
การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ภายในห้องก็มีผลต่อปริมาณของไรฝุ่นเช่นกัน เพราะเฟอร์นิเจอร์แต่ละประเภทมีทั้งวัสดุที่ไรฝุ่นอยู่อาศัยได้และไม่ได้ ไรฝุ่นจะไม่สามารถอาศัยอยู่บนเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากวัสดุที่แข็งหรือลื่นเงาอย่างพลาสติก ไม้ กระจก และเหล็ก จึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าการใช้เบาะนวม หวาย ไหมพรม รวมไปถึงผ้าคลุมรูปแบบต่างๆ ที่นอกจากจะทำความสะอาดยากแล้ว ไรฝุ่นก็ยังชอบอยู่ตามวัสดุเหล่านี้ด้วย ถ้าหากนำมาไว้ในห้องนอนแล้วก็ต้องหมั่นดูแลและทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
-
ดูแลให้อากาศภายในห้องสะอาดบริสุทธิ์
นอกจากการดูแลและทำความสะอาดห้องนอนให้สะอาดแล้ว ถ้าได้เครื่องฟอกอากาศสักตัวมาตั้งไว้ในห้องนอนก็จะยิ่งช่วยให้อากาศภายในห้องสะอาดขึ้น และปัจจุบันเครื่องกรองอากาศหลายรุ่นที่สามารถกำจัดไรฝุ่นได้
นอกจากนี้ก็ยังต้องหมั่นทำความสะอาดพัดลมและแผ่นกรองฝุ่นในเครื่องปรับอากาศด้วย ถ้าหากดูแลเครื่องใช้และอุปกรณ์เหล่านี้ให้สะอาดและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ อากาศที่หมุนเวียนภายให้ห้องก็จะบริสุทธิ์และส่งผลดีต่อระบบทางเดินหายใจ ลดการเกิดภูมิแพ้ ซึ่งทำให้นอนไม่หลับไปด้วยนั่นเอง
ที่มา : นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 582
เนื้อหาอื่นๆ ที่น่าสนใจ