เคล็ดลับปราบไรฝุ่นกวนใจ ช่วยตายายสยบภูมิแพ้

ภูมิแพ้ นับเป็นโรคยอดฮิตของคนไทย หากไม่มีการดูแลเอาใจใส่สุขภาพมากพอ โรคนี้จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น รู้สึกคันหรือมีน้ำมูกไหลอยู่บ่อย ๆ ขอบตาคล้ำเสียบุคลิกภาพ ต้องใช้ยาบรรเทาอาการตลอดเวลา เป็นต้น

โรคภูมิแพ้ในแต่ละคนอาจแสดงอาการออกมาไม่เหมือนกัน โดยศาสตราจารย์ แพทย์หญิงอรพรรณ โพชนุกูล นายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย และผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศด้านโรคหืด โรคภูมิแพ้ และโรคระบบหายใจ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เคยเปิดเผยข้อมูลในปี พ.ศ. 2562 ไว้ว่า คนไทยเป็นภูมิแพ้เพิ่มขึ้น 4 เท่า ในรอบ 40 ปี โดยเฉพาะโรคโพรงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ทางเดินหายใจ เกิดขึ้นประมาณร้อยละ 40 – 50 โรคหอบหืดร้อยละ 10 – 15 และมีภูมิแพ้อากาศร่วมด้วยมากถึงร้อยละ 80 ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีสารก่อภูมิแพ้มาจากไรฝุ่น

ภูมิแพ้ในผู้สูงวัย

อายุที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายเสื่อมถอย เช่นเดียวกับ อาการภูมิแพ้ ที่เกิดขึ้นได้เมื่อภูมิคุ้มกันเริ่มลดน้อยลง ซึ่งคุณตาคุณยายหลายท่านก็อาจมองข้ามไป เพราะเห็นว่าโรคภูมิแพ้ไม่ค่อยเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเท่าไรนัก จึงขอนำข้อมูลจากสถาบันโรคผิวหนังในประเทศไทยมาให้คุณตาคุณยายตระหนัก โดยมีใจความว่า ผู้สูงอายุจะเป็นโรคผิวหนังภูมิแพ้ได้ง่าย และหนึ่งในนั้นคือ ภูมิแพ้สัมผัส ที่เกิดจากการสัมผัสทั้งไรฝุ่นและสารเคมีต่าง ๆ เมื่อเกิดการสะสมจำนวนมากก็จะแสดงออกการออกมาทางผิวหนังของผู้สูงอายุ

ฉะนั้น สภาพแวดล้อของที่อยู่อาศัย รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ต่าง ๆ ล้วนส่งผลต่อสุขภาพของผู้สูงอายุในบ้าน วันนี้ ชีวจิต จึงอยากชวนคุณตาคุณยายมาใส่ใจกับการเลือกใช้และทำความสะอาดเครื่องนอน เพื่อให้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้ และสามารถนอนหลับได้อย่างไร้กังวล

ผ้าปูที่นอนปลอดภูมิแพ้

ชุดผ้าปูที่นอนที่ไม่มีคุณภาพนอกจากจะเป็นตัวการก่อภูมิแพ้แล้ว ยังทำให้การนอนของคุณตาคุณยายไม่มีประสิทธิภาพ ทางด้านออฟฟิศเมทจึงได้แนะนำเทคนิคเทคนิคเลือกที่นอนแบบที่สัมผัสแล้วให้ความรู้สึกสบายตัว และเอื้ออำนวยต่อสุขภาพของคุณตาคุณยาย โดยมีผ้าปูที่นอน 3 ชนิดด้วยกัน

-ผ้าปูที่นอนป้องกันไรฝุ่น เป็นที่ทราบกันดีว่าไรฝุ่นจะเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่อุ่นและชื้นอย่างเตียงนอน ในขณะที่เรานอนหลับอยู่นั้น ไรฝุ่นก็จะกัดกินเศษหนังกำพร้าของเราเป็นอาหาร จากนั้นก็จะถ่ายมูลเอาไว้ ทำให้เราเป็นภูมิแพ้ ผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่นจึงมีการทอเส้นใยให้แน่นกว่าปกติ เพื่อป้องกันตัวไรฝุ่นที่แฝงตัวอยู่ในผ้าปูเล็ดลอดออกมา อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้มีไรฝุ่นจากภายนอกเข้าไปอาศัยอยู่ วิธีเลือกผ้าป้องกันไรฝุ่นควรเลือกที่ผ่านการทดสอบและรับรองโดยสถาบันที่ได้มาตรฐาน ว่าสามารถป้องกันสารก่อภูมิแพ้ได้จริง

-ผ้าปูที่นอนที่ช่วยลดอุณภูมิร่างกาย ขณะที่เรานอนหลับ ร่างกายจะระบายความร้อนออกมาหลายครั้งโดยที่เราไม่รู้ตัว จนทำให้ตื่นขึ้นมาจะเห็นว่าเหงื่อออกชุ่ม นอนหลับไม่สบายตัว และความชื้นยังทำให้เกิดเชื้อราบนที่นอน ส่งผลต่อการเกิดโรคผิวหนังภูมิแพ้ ฉะนั้นควรใช้ผ้าปูที่นอนที่มีการระบายอากาศได้ดีอย่างเช่นผ้าฝ้าย ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในการถ่ายเทอากาศ หรือช่วยลดอุณหภูมิของร่างกาย อีกทั้งยังให้ความรู้สึกนุ่ม ยืดหยุ่น และทนทาน ใช้งานได้นานขึ้น

-ผ้าปูที่นอนที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิว หากเนื้อสัมผัสของชุดเครื่องนอนมีความแข็งกระด้างหรือเนื้อหยาบ ในขณะนอนผิวหนังของเราก็จะเกิดการเสียดสีกับผ้า ให้ความรู้สึกไม่สบายตัว และยังทำให้ฝุ่นผงและสารก่อภูมิแพ้กระจายตัวได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม จึงควรเลือกผ้าปูที่นอนที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มลื่น เพื่อรักษาความชุ่มชื่นให้ผิวหนัง ลดการเกิดโรคภูมิแพ้

5 วิธีกำจัดไร้ฝุ่นในห้องนอน

แม้ว่าผ้าปูที่นอนของคุณตาคุณยายจะการันตีว่า สามารถป้องกันไรฝุ่นได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าไม่มีการดูแลรักษา หรือหมั่นทำความสะอาด ก็ไม่สามารถทำให้สุขภาพของผู้นอนปลอดภัยจากไรฝุ่นอย่างแน่นอน ดังนั้น มาดู 5 วิธีดูแลชุดเครื่องนอน ตลอดจนห้องนอนกันดีกว่าค่ะ

1.หมั่นทำความสะอาด และเปลี่ยนชุดผ้าปูที่นอน โดยการซักด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิประมาณ 60 องศาเซลเซียส เพราะความร้อนจะช่วยกำจัดไรฝุ่น ควรซักอย่างน้อยทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ และเปลี่ยนชุดผ้าปูที่นอนทุก 3 เดือน

2.เปิดรับแสดงแดดให้เข้าถึงห้องนอน ควรเปิดม่านหรือเปิดหน้าต่างไว้ให้แดดส่องเข้ามาถึงทุกวัน รวมถึงเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทอย่างน้อยวันละ 1 ชั่วโมง และหมั่นนำที่นอน หมอน ผ้าห่มออกไปตากแดดเป็นประจำ โดยใช้เวลาตาก 3 ชั่วโมงขึ้นไป

3.ลดพื้นที่สะสมของไรฝุ่น หรือลดการใช้สิ่งของที่เป็นแหล่งสะสมของตัวไรฝุ่น เช่น โซฟาแบบผ้า ตุ๊กตา พรหมขนสัตว์ เป็นต้น รวมไปถึงการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างน้อยเดือนละครั้ง

4.ดูดฝุ่นห้องนอนเป็นประจำ โดยใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มี HEPA Filter ซึ่งสามารถดูดกรองไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อนเข้านอนควรปัดฝุ่นที่นอนทุกครั้ง

5.ระวังการนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในห้องนอน โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัวภูมิแพ้ เพราะอาหารที่ไรฝุ่นชอบคือรังแคของบรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย เมื่อสัมผัสสัตว์เลี้ยงอาจทำให้อาการของผู้ป่วยกำเริบได้เช่นกัน

เห็นหรือยังคะ โรคภูมิแพ้เป็นโรคที่ใกล้ตัวกับคนทุกวัย คุณตาคุณยายเองก็ต้องหมั่นสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ดูแลที่อยู่อาศัยให้สะอาด และเลือกใช้สิ่งของที่เอื้ออำนวยต่อการมีสุขภาพที่ดี เพียงเท่านี้ก็จะไม่ต้องกังวลกับโรคภูมิแพ้อีกต่อไป

ที่มา: นิตยสารชีวจิต ฉบับ 528

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ