เคยมั้ยที่ฟ้าหม่นๆ แล้วแอบรู้สึกเหงา เศร้า นั่นเพราะสภาพอากาศมีผลต่อความรู้สึกของเรา
เมื่ออากาศร้อน หลายคนรู้สึกเครียด ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย ในขณะที่ในช่วงฤดูฝนอากาศมีความชื้นสูง ท้องฟ้าเป็นสีเทา หรือในฤดูหนาว หมอกเยอะในตอนเช้า ช่วงเวลากลางคืนยาวนานกว่ากลางวันส่งผลให้รู้สึกเหงา เศร้า หรือหดหู่อย่างไม่มีสาเหตุ
แต่…!!! ถ้าอารมณ์เปลี่ยนไปในทางแย่ลงจนส่งผลเสียต่อการใช้ชีวิตประจำวัน นั่นอาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่าเรากำลังป่วยเป็น โรคซึมเศร้า หรือมีภาวะเครียดจากสภาพอากาศก็เป็นได้
ทำความรู้จักโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล
โรคซึมเศร้าตามฤดูกาล ( Seasonal Affective Disorder ; S.A.D) เป็นโรคทางอารมณ์ชนิดหนึ่งที่มักเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันของแต่ละปีโดยส่วนใหญ่มักเกิดอาการขึ้นในฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กลางคืนยาวนานกว่ากลางวัน อาจมีอาการต่างๆ ได้แก่ซึมเศร้า เหนื่อยล้าและแยกตัวจากสังคม แม้ว่าอาการต่างๆ มักจะหายไปภายในไม่กี่เดือน แต่ก็อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความรู้สึกและการทำหน้าที่ต่างๆ ของบุคคล อย่างไรก็ตาม มีวิธีการที่จะสามารถช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้
ดูแลใจช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
1.กินอาหารสุขภาพ
เช่นผัก ผลไม้และโปรตีนที่ช่วยเพิ่มระดับของสารสื่อประสาทเซโรโทนินซึ่งเป็นสารเคมีในสมอง ที่มีหน้าที่สำคัญในการควบคุมอารมณ์ซึ่งถ้าปริมาณลดลงอาจก่อให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ เช่น ผักปวยเล้ง สับปะรด ไก่ ปลาแซลมอล ไข่ ชีส นม เต้าหู้ ถั่วและ เมล็ดธัญพืช ฯลฯ
2. อย่าอยู่ว่างๆ
นั่งๆ นอนๆ จะทำให้หมกมุ่นอยู่กับความคิดและอารมณ์เศร้า หากิจกรรมที่ชื่นชอบหรือมีการเคลื่อนไหวของร่างกายเพิ่มขึ้นทำ เช่น ทำสวนครัว ทำงานบ้าน เล่นดนตรี อ่านหนังสือ ดูทีวี วาดรูป ฯลฯ
3. หาโอกาสออกไปเดินเล่น
ในวันที่มีอากาศแจ่มใส ท้องฟ้าปลอดโปร่ง เพื่อให้ได้ร่างกายสัมผัสกับแสงแดดอ่อน ๆ บ้างเพราะมีผลงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการได้สัมผัสกับแสงสว่างมีความสัมพันธ์และระดับเซโรโทนินในร่างกาย
4. ออกกำลังกาย
ข้อมูลจากงานวิจัยที่เชื่อถือได้จากประเทศอังกฤษแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายเป็นประจำอาจอย่างต่อเนื่องช่วยเรื่องอาการซึมเศร้าได้ ควรมีการออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน สัปดาห์ละ 3-5 วัน ถ้าไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน อาจเริ่มจากกิจกรรมที่ทำเป็นประจำอยู่แล้วให้มีการออกแรงเพิ่มมากขึ้น เช่น การเดินทางไปทำงานด้วยการเดินหรือขี่จักรยาน
5. พบปะสังสรรค์ หรือเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ทางสังคม
เพื่อให้ได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนฝูงหรือทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่
6. ฝึกใจให้ยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพดินฟ้าอากาศ
ว่าเป็นแค่เพียงปรากฏการณ์อย่างหนึ่งที่ผ่านมาแล้วผ่านไปไม่แน่นอน ประคองใจให้มีสติอยู่กับกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
7. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
เนื่องจากการนอนไม่หลับอย่างต่อเนื่องจะมีผลต่อคุณภาพชีวิตและการเกิดภาวะซึมเศร้า พยายามฝึกนิสัยการนอนที่ดี โดยก่อนนอนควรปิดอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารต่าง ๆ ฝึกผ่อนคลายตัวเองด้วยเทคนิคต่าง ๆ เช่น การฝึกสมาธิ การฝึกหายใจคลายเครียด การผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ฯลฯ
8 .หมั่นสังเกตอาการ
การเปลี่ยนแปลงของตนเองถ้ารู้สึกว่าอารมณ์แปรปรวนและเป็นทุกข์มากจนควบคุมตัวเองไม่ได้ควรแสวงหาความช่วยเหลือจากคนใกล้ชิดหรือไปพบแพทย์ เพื่อจะได้รับการดูแลและรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป
ข้อมูลจาก โรงพยาบาลจิตเวชนครสวรรค์ราชนครินทร์
บทความอื่นที่น่าสนใจ
วิธี ฝึกกล้ามเนื้อ “ป้องกันล้ม” ในผู้สูงวัย