แจ่วมะเขือเทศ เมนูแพลนต์เบสด์ง่าย ๆ กินต้านมะเร็ง
ใครที่อยากเป็นสายกินพืชผัก ชีวจิตขอแนะนำ แจ่วมะเขือเทศ เมนูแพลนต์เบสด์ที่ทำง่าย ได้ประโยชน์เยอะ เพราะปรุงแต่งไม่มาก แต่อร่อยได้ด้วยเนื้อมะเขือเทศที่อุดมด้วยสารอาหารคับคั่ง
แจ่วมะเขือเทศ (สำหรับ 3 คน)
ส่วนผสม
มะเขือเทศสุก (ยิ่งมะเขือเทศสุกมากยิ่งมีความหวานธรรมชาติ) 300 กรัม
หอมเล็ก 50 กรัม
กระเทียม 30 กรัม
ผักชีไทย 5 กรัม
ผักชีฝรั่ง (ผักชีใบเลื่อย) 5 กรัม
ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
พริกป่น 1 ช้อนชา
น้ำมะขามเปียก 2 ช้อนชา
ซอสปรุงรสฝาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ (หรือดอกเกลือ) 1/4 ช้อนชา
วิธีทำ
- นำกระทะตั้งไฟกลาง เมื่อร้อนใส่มะเขือเทศ หอมเล็ก และกระเทียมลงคั่วพอเหลือง
- นำฝามาครอบกระทะ อบไว้เล็กน้อย เพื่อให้มะเขือเทศสก ทั้งผลและส่วนผสมอื่น ๆ สุก มีสีน้ำตาลเข้ม ตักขึ้นพักไว้
- ลอกเปลือกมะเขือเทศออก เอาแต่เนื้อพักไว้ จากนั้นโขลก หอมเล็กและกระเทียมที่คั่วไว้พอหยาบ ใส่มะเชื่อเทศที่ลอกเปลือกออก โขลกรวมกันเบา ๆ
- ปรุงรสด้วยดอกเกลือ น้ำมะชามเปียก และซอสปรุงรส ฝาเขียว คนให้เข้ากัน
- ใส่ข้าวคั่วและพริกปน คนให้เข้ากัน โรยผักชีไทยและผักชี ฝรั่ง ตักใส่ถ้วย เสิร์ฟพร้อมผักชนิดต่าง ๆ
Did You Know?
ไลโคปืนดูดซึมง่าย เมื่อผ่านความร้อน ไลโคปินดูดซึมได้ดีที่สุดเมื่ออยู่ในรูปมะเชื่อเทศเข้มข้น เช่น น้ำมะเชื่อเทศ ซอสมะเขือเทศ ซุปมะเชื่อเทศ ยิ่งซอส มะเขือเทศเข้มข้นเท่าไรก็ยิ่งมีไลโคปืนมากเท่านั้น ความร้อน และน้ำมันจะช่วยในการดูดซึมไลโคปืนและเบต้าแคโรทีน แต่ จะสูญเสียวิตามินซี
Healthy Tip มะเขือเทศ
มะเขือเทศและผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศ มีสารพฤกษเคมีชนิดต่าง ๆ สารอาหารเหล่านี้ ดีต่อสุขภาพ
เบต้าแคโรทีนช่วยป้องกันการเกิดสิว การก่อตัวของมะเร็งบางชนิด และการสูญเสียการมองเห็น ไลโคปืนมีมากในมะเขือเทศสีแดง เม็ดสีชนิดนี้ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าเบต้าแคโรทีน และช่วยป้องกันเซลล์ถูกทำลาย ซึ่งนำไปสู่ภาวะหัวใจวาย รวมถึงป้องกันมะเร็ง
งานวิจัยระบุว่า ผู้ชายที่กินอาหารที่อุดมไปด้วยไลโคปืนจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายได้ครึ่งหนึ่ง และงานวิจัย อีกหลายชิ้นพบว่า ไลโคปืนป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้ โดยน้ำมะเขือเทศจะมีไลโคปืนเข้มข้นมากเป็นพิเศษ
วิตามินชีพบมากที่สารวุ้นหุ้มเมล็ดมะเขือเทศ ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ มะเร็งผิวหนัง และปัญหาสายตา
ข้อมูลจาก นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 595
ประโยชน์จากมะเขือเทศ 1 ผล
รสชาติอันหวานฉ่ำ เป็นเอกลักษณ์ ทั้งยังมีคุณประโยชน์มากมาย รู้ไหมว่ามะเขือเทศ 1 ผล มีปริมาณวิตามินเอราว 1 ใน 3 ที่ร่างกายต้องการต่อวัน ทั้งยังมีแคโรทีนอยด์ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และวิตามินซี ฯลฯ ซึ่งเป็นวิตามินและแร่ธาตสำคัญที่ช่วยบำรุงผิว ลดริ้วรอย ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื่นสดใส
กินมะเขือเทศอย่างไรได้ ไลโคปีนสูง
เทรนด์การดื่มน้ำผัก ผลไม้ ที่กำลังมาแรงเป็นกระแสในตอนนี้น่าจะเป็นการดื่มน้ำมะเขือเทศที่มีสรรพคุณยอดเยี่ยม แต่จะบริโภคอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้น ลองไปดูวิธีการกันและเลือกบริโภคตามความชอบได้เลย
- ควรรับประทานมะเขือเทศสด หรือมะเขือเทศที่ผ่านการปรุงอาหารแล้ว
- มะเขือเทศสด และผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ ชนิดใดให้ไลโคปีนสูงกว่ากัน โดยทั่วไป ปริมาณไลโคปีนในผลไม้ และมะเขือเทศสดจะไม่แตกต่างกันมาก แต่เมื่อนำมะเขือเทศสดไปผ่านกระบวนการผลิตให้อยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์มะเขือเทศชนิดต่างๆ พบว่าปริมาณไลโคปีนสูงขึ้นมาก
ผู้ป่วยโรคไตไม่ควรทานหรือดื่มน้ำมะเขือเทศ จริงหรือไม่?
จริง ๆ แล้วสามารถรับประทานได้แต่ควรรับประทานแต่พอเหมาะ ถึงแม้มะเขือเทศจะมีโพแทสเซียมสูงมากก็จริง แต่ว่าก็ยังมีโซเดียมที่เกิดจากธรรมชาติ ถ้ารับประทานมากไปจะทำให้ติดรสเค็มของโซเดียมที่มาจากมะเขือเทศ จึงอาจจะให้โทษมากกว่าคุณประโยชน์ เพราะฉะนั้นรับประทานแต่พอเหมาะจึงจะดีกว่า
มะเขือเทศ เก็บอย่างไร ให้ถูกวิธี
บ่อยครั้งที่ซื้อมะเขือเทศกลับมา มักมีปัญหาเน่าเสียได้ง่าย สาเหตุเกิดจาก “ความชื้น” ในผลมะเขือเทศนั้นมีอยู่มาก เป็นต้นเหตุให้เกิดเชื้อราได้ง่าย ควรเก็บมะเขือเทศไว้ในที่แห้งและเย็น
เมื่อจะปรุงอาหารจึงนำออกมาล้างในปริมาณที่เพียงพอกับการใช้งาน และควรใช้ให้หมดทันที หากใช้ไม่หมดไม่ควรนำไปเก็บรวมกับมะเขือเทศที่ยังไม่ได้ล้าง เพราะจะทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย ส่งผลให้มะเขือเทศที่มีอยู่พากันเน่าเสีย
บทความอื่นที่น่าสนใจ
การแช่เท้าด้วยยาจีนช่วย แก้ปวดประจำเดือน
เปิดตำราหมอ ฮิปโปเครตีส ผู้บัญญัติศัพท์ “Cancer” หรือมะเร็ง คนแรกของโลก
สังเกตลิ้น เช็ค แพ้อากาศ + ไรฝุ่น
เกลือและโซเดียม ภัยเงียบบั่นทอนสุขภาพ
ติดตามชีวจิตได้ที่