ฮอร์โมนจากธรรมชาติ
ฮอร์โมนจากธรรมชาติ สร้างมนุษย์ขึ้นมาให้มีข้อดีข้อด้อยอย่างสมเหตุสมผลไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ทันทีที่รู้ความต้องการของตัวเองว่ามันหักเหจากสิ่งที่ได้มา จึงต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การฝ่าฝืนกฎกายภาพเป็นไปอย่างปลอดภัยและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
ผู้เขียนมีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับ คุณก็อต-ธนกฤต ชโยธนโชติ ในวัย 52 ปี ผู้ซึ่งใช้เวลาตลอดหลายปีเก็บเกี่ยวข้อมูลความรู้เรื่องสุขภาพและร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการแพทย์ผสมผสาน การแพทย์ตะวันออก หรือ การแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อคืนความสมดุลให้แก่ร่างกาย
หลังตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ ข้อมูลที่ประเดประดังเข้ามาเพื่อการรับรู้ ทําความเข้าใจ และเพื่อให้ได้รับชีวิตใหม่ที่สมบูรณ์แบบ คงหนีไม่พ้น “ฮอร์โมนเพศ”
จากการค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม ทําให้เขารู้ว่า ฮอร์โมนเพศหญิงนั้นมีด้วยกัน 2 ชนิดหลักๆ ได้แก่ เอสโทรเจน และโปรเจสเทอโรน ซึ่งจะทํางานสอดประสานกัน แต่หนักเบาไม่เท่ากันแล้วแต่ช่วงเวลา ขึ้นอยู่กับการตกไข่ในผู้หญิง และฮอร์โมนที่รับรู้กันกว้างขวางว่าส่งเสริมให้สรีระมีความเป็นผู้หญิงก็คือเอสโทรเจนนั่นเอง
จุดเปลี่ยนแปลงครั้งสําคัญ
คุณก็อตเล่าว่า ที่หันมาให้ความสนใจกับการกินอยู่เพื่อสุขภาพนั้น เริ่มมาจากการตัดสินใจครั้งใหญ่ ในการผ่าตัดแปลงเพศเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว
“เมื่อเรารู้ความต้องการของตนเองแน่ชัด จึงตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศ ขณะนั้นอายุประมาณสามสิบกว่าๆ โดยก่อนผ่าตัดประมาณสองปี ต้องคอยเข้าพบแพทย์เพื่อรับคําแนะนําเรื่องการใช้ฮอร์โมน เพศหญิง
“แรกๆ ก็ใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์ หนึ่งเลยเพราะมันง่ายและเห็นผลชัดเจน จะเห็นได้ว่าสาวประเภทสองและเด็กๆวัยรุ่นใช้กันเยอะ เพราะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ส่วนตัวที่ต้องใช้เพราะเมื่ออายุเท่านั้นแล้ว หากกายภาพเรายังเป็นผู้ชาย ฮอร์โมนเพศชายก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผมบางลงได้ จึงตัดสินใจ ใช้ฮอร์โมนและผ่าตัดแปลงเพศ”
แต่ทุกสิ่งไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด การฝืนธรรมชาติด้วยฮอร์โมนสังเคราะห์ก่อให้เกิดผลข้างเคียงตามมา เช่น ผิวที่ไวต่อแสงแดดมากขึ้น เกิดฝ้าได้ง่าย ประกอบกับอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย และขับถ่ายไม่เป็นเวลา ส่งผลให้มีสารพิษตกค้างอยู่ในร่างกายนานเกินไป นอนไม่หลับ และสุดท้ายคือ ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้อีกด้วย

หาตัวช่วยจากธรรมชาติ
เมื่อพิจารณาแล้วว่าฮอร์โมนสังเคราะห์ค่อนข้างส่งผลต่อสุขภาพและชีวิตประจําวัน แต่ในเมื่อตัดสินใจเลือกทางเดินนี้แล้ว จึงขอลองสู้ดูสักตั้ง คุณก็อตเริ่มศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฮอร์โมนธรรมชาติในอาหาร เริ่มจากเรียนรู้โภชนาการพื้นฐาน และสารอาหารจําเป็นในการรักษาสมดุลของระบบต่างๆ ภายใน ร่างกาย
“ฮอร์โมนเอสโทรเจนพบมากในผักผลไม้ธาตุเย็น หากอิงตามหลักแพทย์แผนจีน เช่น แตงโม น้ำมะพร้าว ตําลึง ใบย่านาง เป็นต้น แต่เราพยายามเลือกที่สามารถกินเป็นประจําโดยก่อให้เกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด ที่สําคัญ ต้องกินง่ายด้วย”
ยกตัวอย่างเช่น ตําลึง ที่มีฮอร์โมนเอสโทรเจนสูง แต่เป็นพืชที่กินสดไม่อร่อย ส่วนใหญ่ต้องทําให้สุก ซึ่งจะทําให้ฮอร์โมนเอสโทรเจนที่ต้องการลดลง คุณก็อตจึงเลือกเป็นใบย่านางที่สามารถกินสดได้ หรือจะคั้นเป็นน้ำ เติมใบเตย เพื่อให้กลิ่นหอม ดื่มง่ายกว่าเดิม
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด คุณก็อตปลูกย่านางไว้ในสวน ซึ่งสะดวกแก่การเก็บ โดยจะเก็บเวลาเช้าคือตอนตีห้าจนเกือบ 6 โมงเช้า เนื่องจากย่านางเป็นพืชธาตุเย็น ศาสตร์จีน เชื่อว่าพืชจะเก็บพลังเย็นในตอนกลางคืน การเก็บในตอนเช้ามืดจะช่วยให้ได้สรรพคุณเต็มที่ และหากปลูกเองก็จะมั่นใจในความปลอดภัย สามารถกินสดได้เลยทีเดียว
อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ ในหน้าถัดไป
เติมเต็มความสวย รวยสุขภาพ
นอกจากเรื่องของการรับฮอร์โมนธรรมชาติจากอาหารแล้ว คุณก็อตยังให้ความสําคัญกับการกินเพื่อสุขภาพ เมื่อตัดสินใจเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของร่างกาย นอกจากต้องเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปแล้ว ยังต้องหมั่นซ่อมแซม และบํารุงให้ระบบต่างๆ ทํางานอย่างมีประสิทธิภาพแม้อายุจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
“ก็อตสนใจเรื่องเอนไซม์จากผักผลไม้ จากข้อมูลของนักโภชนาการทั่วไป อธิบายว่า เอนไซม์นี้เป็นสิ่งวิเศษที่ร่างกายมีไว้สําหรับรองรับปรับเปลี่ยนทุกสิ่งที่เรากินเข้าไป โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการย่อย การนําคุณค่าและพลังงานต่างๆ ไปใช้ หลังจากศึกษาข้อมูลสุขภาพจึงทําให้รู้ว่า เราสามารถกินอาหารให้ได้รับ เอมไซม์อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องพึ่งยาหรืออาหารเสริมใดๆ”
นักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาด้วยธรรมชาติ มิเชล ชคอฟโฟรคุก แนะนําว่า ก่อนกินอาหารมื้อหลักประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ควรกินผลไม้สดเข้าไปก่อน เพราะว่าในผลไม้มีเอนไซม์ที่จะช่วยในเรื่องของการย่อยและดูดซึมสารอาหาร เวลาเรากินอาหารมื้อหลักจะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทํางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดูดซึมสารอาหารเร็ว ส่งผลให้การขับถ่ายของเสียและสารพิษออกจากร่างกายเร็วขึ้น ไม่สะสมอยู่ในร่างกายนานจนทําให้ไม่สบายตัว หรือเจ็บป่วยได้ง่ายนั่นเอง

อ้าแขนรับชีวิตที่สมดุล
เมื่อควบคุมการกินและการปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด ผลที่ได้คงไม่ต้องบอกว่าคุณก็อตนั้นมีสุขภาพที่แข็งแรงและดูอ่อนกว่าวัยอย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะผ่านการผ่าตัดแปลงเพศที่ทําให้สมดุลของฮอร์โมนในร่างกายผิดเพี้ยนไป แต่การใช้ธรรมชาติเข้ามาทดแทน นับว่าได้ผลที่สุดแสนอัศจรรย์ คุณก็อตสามารถพูดได้เต็มปากว่า แม้จะอายุมาก แต่โรคภัยไม่เคยมากวนใจ จนจําไม่ได้แล้วว่าความเจ็บป่วยเป็นเช่นไร
“ทุกวันนี้รู้สึกดีมากๆการที่เราได้เกิดเป็นมนุษย์ได้รับร่างกายมา เราควรจะสํานึกในความโชคดีของเราให้มาก ต้องดูแลรักษา และอยากฝากถึงผู้อ่านทุกท่านว่า ตอนที่เรายังอายุน้อย เอนไซม์ และเซลล์ต่างๆในร่างกายของเรายังแข็งแรง ตับยังสะสมสารพิษได้เยอะ จึงยังไม่เห็นถึงผลเสียของการกินอยู่อย่างไม่ระวัง
“แต่เมื่ออายุมากเข้า การที่เราไปใช้งานอวัยวะต่างๆ ในร่างกายหนัก แน่นอนว่าสักวันร่างกายจะเอาคืนเรา จึงควรดูแลและรักตัวเองเอาไว้เสียตั้งแต่เนิ่นๆ และอยากฝากอาหารสูตรชีวจิตเอาไว้ด้วย เพราะเป็นการกินที่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย แม้ในกรณีเฉพาะอย่างของก็อตที่ต้องปรับสมดุลฮอร์โมนก็ยังสามารถกินแบบชีวจิตได้สบายๆ”
หลังจากนั่งคุยกับคุณก็อต ผู้เขียนจึงได้ตระหนักว่า มนุษย์เกิดจากธรรมชาติ เพียงแค่ฉลาดคิดฉลาดเลือกสักหน่อย เราก็สามารถปรับเปลี่ยนและแก้ไขสิ่งที่บกพร่องด้วยการใช้ธรรมชาติได้แล้ว มหัศจรรย์ใช่ไหมล่ะ
ข้อมูลจาก : นิตยสารชีวจิตฉบับที่ 403