สาเหตุการเสียชีวิต ของชายไทย
‘การเสียชีวิต’ เป็นสิ่งที่ทุกคนกลัวและต้องการหลีกเลี่ยง เพราะฉะนั้นเรามารู้ถึง สาเหตุการเสียชีวิต ของคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะชายไทย เพื่อที่จะได้ป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ
-
อุบัติเหตุคร่าชีวิตชายไทย
ประชากรชายวัยทำงานคือวัยที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชาติ แต่น่าเสียดาย ที่ความหนุ่มแน่นต้องถูกพรากไปทั้งโดยตั้งใจและด้วยเหตุบังเอิญที่สุดวิสัยจะควบคุม เนื่องเพราะชายวัยนี้มักมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วยความโลดโผน และนิยมตัดสินปัญหาด้วยความรุนแรง จึงเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยสาเหตุต่างๆ ทั้งอุบัติเหตุ อาชญากรรม และฆาตกรรม
รองศาสตราจารย์ น.พ.ประเสริฐ อัสสันตชัยกล่าวว่า หากนับตามสถิติการเสียชีวิตของชายวัย 20 – 35 ปีแล้ว อุบัติเหตุทางรถยนต์บนท้องถนนถือว่านำลิ่วมาเป็นอันดับหนึ่ง สาเหตุส่วนใหญ่มาจากความประมาทเลินเล่อ เมาแล้วขับ ดังจะเห็นได้จากสถิติการเสียชีวิตบนท้องถนนในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา การป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุก็ทำได้ไม่ยาก ดังนี้ค่ะ
การป้องกัน
– คาดเข็มขัดนิรภัยเสมอเมื่อขับรถ
- จัดที่นั่งในรถเฉพาะสำหรับเด็ก
- ขับรถด้วยความระมัดระวัง
- อย่าขับรถกระชั้นชิด
- รักษากระจกรถและหน้าต่างรถให้สะอาดอยู่เสมอ
- ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างสม่ำเสมอ
- อย่าขับรถเมื่อร่างกายไม่พร้อม
- อย่าวอกแวกขณะขับรถ
- หมั่นเอารถไปตรวจสภาพสม่ำเสมอ
- เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินให้พร้อมเสมอ
นอกจากการป้องกันดังกล่าวแล้วคาถาสำคัญที่เป็นยันต์ป้องกันอุบัติเหตุได้ชะงัดนักก็คือ เมาไม่ขับ และ (คนขับ) เมาไม่นั่งค่ะ
2. ไวรัสร้ายคร่าชีวิตวัยกลางคน
ชายกลุ่มวัย 35 – 60 ปีที่มักออกไปหาความสำราญนอกบ้านกับหญิงอื่นซึ่งไม่ใช่ภรรยาตนมีอัตราเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีสูงกว่าชายวัยอื่นๆ เนื่องเพราะไม่ใส่ใจที่จะป้องกันตัวเองอย่างจริงจังด้วยการสวมถุงยาง อนามัย กับเหตุผลเพียงว่าไม่มีความสุข หรือไม่ถนัด จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประสบปัญหาการติดเชื้อเอชไอวี และทำให้ชายวัยนี้ถูกคร่าชีวิตด้วยโรคเอดส์มากที่สุด จึงขอย้ำเตือนถึงภัยเอดส์กันอีกครั้ง
โรคเอดส์ เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อเอชไอวี (HIV = Human Immunodeficiency Virus) เข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาวและทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่องจนไม่สามารถต่อสู้เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆ ที่เข้ามาในร่างกายได้
สาเหตุ เชื้อเอชไอวีสามารถแพร่เข้าสู่ร่างกายของคนได้ 3 ทาง คือ
- ทางเพศสัมพันธ์
- ทางเลือด เช่น การรับหรือให้เลือด การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
- การแพร่จากแม่มาสู่ลูกอาการ อาการของผู้ป่วยโรคเอดส์ที่สังเกตได้ง่ายก็คือ
– อ่อนเพลีย เบื่ออาหารน้ำหนักลด
– มีไข้นานเป็นเดือนๆ
– ต่อมน้ำเหลืองโต
– ท้องเดินเรื้อรังจากโรคพยาธิ
– มีแผลในปากและตามผิวหนัง
– มีอาการทางสมอง เช่น ชัก อัมพาต
– เป็นโรคติดเชื้อต่างๆ โดยเฉพาะปอดบวมจากพยาธิ เชื้อรา วัณโรค
– เป็นมะเร็งของต่อมน้ำเหลือง เม็ดเลือด และสมอง ฯลฯ
การรักษา
ปัจจุบันยังไม่มียาชนิดใดที่สามารถรักษาโรคเอดส์ให้หายขาดได้ การรักษาส่วนใหญ่จึงเป็นการรักษาโรคติดเชื้ออื่นๆที่แทรกซ้อน ซึ่งไม่ค่อยได้ผลนัก เพราะผู้ป่วยขาดภูมิต้านทาน และมักเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อ
การป้องกัน
- ไม่สำส่อนทางเพศ ควรสวมถุงยางอนามัยเวลาร่วมเพศกับคนแปลกหน้า พยายามอย่าเปลี่ยนคู่นอนในหมู่รักร่วมเพศ อย่าร่วมเพศกับผู้ป่วยหรือสงสัยว่าเป็นโรคเอดส์
- ก่อนรับการถ่ายเลือดควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้บริจาคเลือดไม่มีเชื้อโรคเอดส์
- อย่าใช้เข็มฉีดยาที่ไม่สะอาดหรือร่วมกับผู้ติดยาเสพติด
รักเดียวใจเดียว คือคาถาสุดขลังและเกราะป้องกันภัยชั้นดีจากเอดส์ โรคร้ายภายใต้ร่มผ้าค่ะ
-
บุหรี่ตัวร้ายทำลายวัยชรา
ในชายวัย 60 ปีขึ้นไป กลุ่มโรคที่มักพบได้บ่อยก็คือ โรคมะเร็ง รองลงมาคือโรคในระบบไหลเวียนเลือดและโรคเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ โดยเฉพาะโรคเบาหวาน นอก จากนั้นคนวัยนี้ก็ยังมีโรคเฉพาะ คือโรค
เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ เช่น ต่อมลูกหมากโต มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งอัณฑะ เป็นต้น
รองศาสตราจารย์ น.พ.ประเสริฐกล่าวว่า ในอดีตหากไม่นับรวมโรคเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์แล้ว โรคที่พบมากในชายวัยนี้คือ โรคมะเร็งตับ แต่เชื่อไหมว่า…ปัจจุบันมะเร็งปอด (lung cancer) คือโรคที่กำลัง
คุกคามสมรรถภาพและชีวิตของประชากรชายวัยชราทั่วโลกเป็นอันดับหนึ่ง รวมทั้งประเทศไทยเราด้วย
สาเหตุ
สาเหตุสำคัญที่ผู้ชายวัยนี้มักจะเป็นมะเร็งปอดคือสูบบุหรี่จัด ซึ่งจะเริ่มสูบมาตั้งแต่ช่วงเป็นวัยรุ่นและกลับใจเลิกตอนวัยกลางคน แต่ส่วนใหญ่เลิกไม่ได้ เพราะสูบหนักมากจนกระทั่งแก่ตัวก็ยังสูบอยู่และเมื่อเป็นมะเร็งปอดแล้วก็มีอัตราการหายที่ต่ำมาก จนเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของชายวัยนี้
นอกจากการสูบบุหรี่แล้วยังเกิดจากการทำงานที่ต้องสัมผัสกัมมันตภาพรังสีสารก่อมะเร็งต่างๆ อาการไอเรื้อรัง เป็นไข้หวัดแล้วไอไม่หาย เป็นต้น
อาการ
ในระยะเริ่มต้นอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย และค่อยๆ มีอาการเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ ไอ และหายใจถี่ เจ็บหน้าอก และมีโรคแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม หลอดลมอักเสบ เสียงแหบ ไอมีเสมหะ เสียงแหบ และอาจมีเลือดปน นอกจากนั้นก็มีน้ำหนักลด หอบและไอร่วมด้วย เหล่านี้คือสัญญาณเตือนว่าเริ่มเข้าสู่ห้วงอันตรายแล้ว ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
การป้องกัน
- ไม่สูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีการสูบบุหรี่
- ลดปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น ผู้ที่ทำงาน ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือเหมืองแร่ ควรมีผ้าปิดจมูก
- ใช้เคมีในการป้องกัน ทั้งสารที่มีในธรรมชาติและสังเคราะห์ เช่น แอลฟาโทโคฟิรอล เบต้าแคโรทีนธรรมชาติวิตามินเอ เป็นต้น
การสูบบุหรี่คือปัจจัยเสี่ยงอันดับต้นๆ ของสาเหตุการเป็นมะเร็งปอด เมื่อรู้ดังนี้แล้วคุณยังจะดันทุรังสูบบุหรี่ต่อ หรือจะพยายามลด ละ และเลิกให้เด็ดขาดเพื่อรักษาชีวิตให้อยู่ต่อไปให้นาน
สำหรับผู้ (ชาย) ที่รักสุขภาพทั้งหลาย นอกจากจะระมัดระวังในการดำเนินชีวิตมากขึ้น ด้วยการหยุดพฤติกรรมเสี่ยงที่กล่าวมาข้างต้น วิธีหนึ่งซึ่งสามารถทำได้ง่ายที่ชีวจิตอยากแนะนำ คือ การดูแลภูมิชีวิตของตัวคุณให้แข็งแรง โดยการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ รวมทั้งทำจิตใจให้แจ่มใส
เพราะถ้ามัวชะล่าใจว่า วงแขนกล้ามเป็นมัดๆ นั้นจะช่วยคุ้มกันโรคภัยให้คุณได้อย่างตลอดรอดฝั่งแล้วละก็ขอเตือนว่าคุณกำลังคิดผิดถนัดค่ะ