10 ข้อดีของการอ่านหนังสือ ที่ทำให้องค์กรอยากจ้างงานคุณ

การอ่านหนังสือกลายเป็นงานอดิเรกของใครหลายๆคน ในที่ทำงานมักจะมีมากกว่า 1 คนในแผนกที่ชอบการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ แล้วคุณรู้ไหมว่า ข้อดีของการอ่านหนังสือ นั้นมีมากมาย จากข้อมูลในเว็บไซต์ Business Insider ประเทศอังกฤษ ระบุว่า การอ่านช่วยให้คุณดูเป็นลูกจ้างที่มีศักยภาพในการทำงาน มาดูข้อดู 10 ข้อกันกันเลย

1 คุณจะเข้าอกเข้าใจผู้อื่น

จากการศึกษาของสถาบันต่างๆ รวมไปถึงการศึกษาของมหาวิทยาลัยคิงส์ตัน สหราชอาณาจักร ระบุว่า “การอ่านนวนิยายหรือวรรณกรรม จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจความซับซ้อนของอารมณ์ต่างๆของผู้อื่น รับรู้ความรู้สึกของผู้อื่นได้ดีมากขึ้น ซึ่งทำให้คุณดูเป็นคนเข้าอกเข้าใจใครๆ และเห็นอกเห็นใจ ซึ่งก็คือลักษณะความคิดตามสำนวน “เอาใจเขามาใส่ใจเรา” ของไทยเรานั่นเอง ซึ่งคุณลักษณะนี้จัดเป็นหนึ่งในลักษณะนิสัยที่ทำให้องค์กรต่างๆ สนใจในตัวของคุณนั่นเอง

2 คุณจะมีคลังศัพท์ที่เอ่อล้น

หากคุณอ่านหนังสืออย่างสม่ำเสมอ และหลากหลายแนว จะช่วยให้คุณเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ และมีความมั่นใจในการใช้คำเหล่านั้นด้วยนี่จึงช่วยพัฒนาการสื่อสารของคุณให้มีศักยภาพ และถ้าคุณมีทักษะในการสื่อสารเช่นนี้ในองค์กร คุณจะกลายเป็นพนักงานที่มีศักยภาพสูงและง่ายต่อการได้รับความไว้วางใจในการออกไปพบปะพูดคุณหรือติดต่อประสานงานกับฝ่ายต่างๆ

3 คุณจะมองเห็นคุณค่าของการอดทน

การอ่านอาจช่วยฝึกความอดทนได้ สังเกตจากการที่คุณไปเลือกหนังสือมาด้วยตนเอง แล้วนั่งลงเปิดอ่านทีละหน้าๆ จนจบเล่ม นิสัยนี้จึงสามารถสะท้อนถึงความขยันและอุตสาหะในตัวของคุณด้วย ใครจะไปรู้ บางครั้งหัวหน้าก็ชื่นชอบลูกน้องที่ทำงานขยันขันแข็งและตั้งอกตั้งใจ มากกว่าลูกน้องที่ทำงานว่องไว ฉาบฉวย

4 คุณจะมีจิตใจที่สงบนิ่งมากขึ้น

การจดจ่อที่การอ่าน อ่านผ่านบรรทัดต่อบรรทัด พลิกหน้าไปแต่ละหน้า ช่วยดึงความคิดคุณออกจากวงจรของความเครียดที่ก่อกวนใจของคุณได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการอ่านจึงช่วยให้คุณรู้สึกสงบมากขึ้น ความวิตกกังวลและความรู้สึกไม่สบายใจลดลงได้เพียงแค่อ่านหนังสือเล่มโปรด

ประโยชน์ของการอ่านหนังสือ,อ่านหนังสือ,ข้อดีของการอ่านหนังสือ — การอ่านหนังสือ ช่วยพัฒนาทักษะทางด้านต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

5 คุณจะนอนหลับสนิทมากขึ้น

มีงานวิจัยมากมายระบุว่า การอ่านหนังสือเพียงไม่กี่บท ก็ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย และพร้อมในการนอนหลับกว่าการนอนดูทีวีหรือเล่นมือถือ ดร.เดวิส ลูอิส นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยซัสเซก สหราชอาณาจักร ค้นพบว่า การอ่านช่วยลดระดับความเครียดได้มากถึง 68 เปอร์เซ็นต์ และลูกจ้างที่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ย่อมทำงานให้องค์กรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จริงไหม

6 คุณจะมีทักษะการคิดวิเคราะห์เพิ่มขึ้น

หนังสือหลายเล่ม ไม่ได้แค่ทำให้คุณแค่นั่งนิ่งๆ อ่านเรื่องราวแล้วผ่านไป บางเล่มจะตั้งคำถามกับคุณ เปิดโอกาสให้คุณได้คิดวิเคราะห์และตอบคำถามนั้นให้ได้ โดยพิจารณาจากข้อมูลแวดล้อมและความรู้ความเข้าใจของตัวผู้อ่านเอง เช่นกันกับในที่ทำงาน เจ้านายทุกคนต่างต้องการให้คนในทีมสามารถคิดวิเคราะห์และประเมินข้อมูลบางอย่าง สถานการณ์บางอย่างอย่างมีเหตุมีผล และผู้ที่ทำเช่นนั้นได้ย่อมได้รับความไว้วางใจจากทั้งเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน

7 คุณจะมีทักษะการเขียนที่เพิ่มพูน

และนอกเหนือจากคุณจะสามารถพูดคุยสื่อสารอย่างมั่นใจ การอ่านยังช่วยพัฒนาทักษะการเขียนของคุณเองด้วย คุณจะเข้าใจและเลือกใช้โครงสร้างประโยคต่างๆได้ดีมากขึ้น รวมไปถึงการเลือกจังหวะการใช้คำ ความเหมาะสม และบางทีอาจจะช่วยให้คุณรู้ว่าจะเขียนจูงใจผู้อ่านได้อย่างไร บริษัทส่วนใหญ่มักมองหาลูกจ้างที่มีความสามารถด้านการติดต่อสื่อสารทั้งการพูดและเขียน เพราะนั่นหมายถึงคุณจะเป็นตัวแทนแบรนด์ที่ดีได้นั่นเอง

8 คุณจะมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น

เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าการอ่านจะช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ให้กับสมอง เนื่องจากการได้จินตนาการถึงสิ่งที่เหนือจินตนาการ ไม่เชื่อก็ลองแลกเปลี่ยนความคิดต่อตัวละครในนิยายกับเพื่อนที่อ่านเรื่องเดียวกันดู รับรองว่าจะต้องแปลกใจ ว่าจินตนาการของคุณและเพื่อนต่อตัวละครตัวเดียวกันนี่ แตกต่างกันลิบลับ และนั่นล่ะ เจ้านายส่วนใหญ่ชอบลูกน้องที่มีความคิดสร้างสรรค์และคนที่คิดนอกกรอบความเป็นไปได้ต่างๆ เพื่อเป้าหมายที่น่าสนใจยิ่งกว่า

9 คุณจะมีความจำดีขึ้น

ใครๆก็รู้ว่าการอ่านจะช่วยฝึกฝนความจำ ซึ่งความจำดี การทำงานก็ราบรื่น โดยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเยล ประเทศสหรัฐอเมริกา บอกใน Oprah.com ว่า ในที่ทำงานคุณจะต้องจดจำวันที่ เวลา ชื่อต่างๆ หัวข้อการประชุมและรายละเอียดเล็กน้อยมากมาย คนที่สามารถจดจำและสามารถดำเนินงานอย่างต่อเนื่องได้นั้นค่อนข้างน่าจับตามองสำหรับเจ้านาย

10 คุณจะรอบรู้มากขึ้น

การอ่านเป็นประจำ จะช่วยให้คุณเรียนรู้ผู้คนและสถานที่ และบางครั้งความรอบรู้นี้ก็พาคุณออกจากโซนปลอดภัยในชีวิตสู่โลกที่ท้าทายยิ่งขึ้นได้ง่ายๆ คนที่รอบรู้มักช่วยเหลือผู้ร่วมงานได้ในหลายๆสถานการณ์ ทั้งยังมีมุมมองที่แตกต่างออกไป ทำให้กลายเป็นคนน่าสนใจที่จะพูดคุยด้วย