โรคผิวหนัง ที่ควรระวัง เมื่ออากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
โรคผิวหนัง มักมาพร้อมกับการเปลี่ยนของฤดูกาล อากาศหนาวสลับกับร้อน เดี๋ยวฝนเดี๋ยวแดด เช่นนี้คือตัวการที่นําไปสู่อาการเจ็บป่วยได้ สมาคมโรคผิวหนังแห่ง ประเทศไทยจึงให้คําแนะนําเพื่อเป็นความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับโรคผิวหนัง 7 โรคสําคัญที่ควรระวัง ดังนี้
1. โรคอีสุกอีใส
หรือบางคนเรียกว่า สุกใส เกิดจากเชื้อไวรัส (Varicella Virus) ติดต่อโดยการหายใจ หรือการสัมผัสถูกตุ่มแผลอีสุกอีใสหรืองูสวัดโดยตรง และการสัมผัสถูกของใช้ที่เปื้อนตุ่มแผลของผู้ป่วย ผู้ป่วยจะมีอาการปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร ต่อมาจะเริ่มมีตุ่มน้ําใสๆ ขึ้นตามตัว ห้ามแกะเกาเด็ดขาดเพราะจะเป็นหลุมแผลเป็นได้ง่าย
2. โรคงูสวัด
เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับที่ทําให้เกิดอีสุกอีใส ผู้ป่วยจะมีอาการไข้และปวดรุนแรงตามแนวยาวของปมประสาท โดยจะพบกลุ่มของตุ่มน้ําใสเป็นแนวด้านใดด้านหนึ่งของร่างกาย มักจะมีอาการปวดแปล๊บบริเวณเส้นประสาทร่วมด้วย
3. โรคเริม
เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม HERPES (HSV-1/HSV-2) มีลักษณะเป็นกลุ่มของตุ่มน้ําขนาดเล็กมีขอบแดง แต่ไม่เรียงตามแนวเส้นประสาท พบบ่อยบริเวณริมฝีปาก อวัยวะเพศ และก้น การติดเชื้อครั้งแรกมักจะมีอาการไข้ ปวดเมื่อย ต่อมน้ําเหลืองบริเวณใกล้เคียงมักมีการอักเสบ สามารถติดต่อได้จากการสัมผัสตุ่มน้ําหรือแผล และการมีเพศสัมพันธ์
4. โรคหัด
มักเป็นในเด็กอายุ 1 ปี จนถึงระดับประถมศึกษา โดยมักมีอาการไข้สูง ไอมาก ตาแดง มีผื่นแดงเล็กๆ ขึ้นทั่วตัว แขน และขา สามารถติดต่อกันทางระบบทางเดินหายใจ
5. โรคหัดเยอรมัน
ผู้ป่วยมักมีไข้ต่ําๆ ปวดเมื่อยตามตัว หลังจากนั้นจะมีผื่นขึ้นที่หน้า คอ ลําตัว แขน และขา ผื่นมักขึ้นเต็มตัวภายใน 1 วัน และ มีต่อมน้ําเหลืองโตเป็นโรคที่ติดต่อกันผ่านระบบทางเดินหายใจ
6. โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis)
ผู้ป่วยที่เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนังมักจะมีลักษณะเป็นผื่นแดง แห้งลอก มีอาการคันมาก มักเป็นที่บริเวณข้อพับแขน ข้อพับขา ใบหน้า แขน ขา และซอกคอ
7. โรคผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณผิวมัน (Seborrtheic Dermatitis)
มีลักษณะเป็นผื่นแดง มีสะเก็ดเป็นมัน มีขอบชัดเจน มักอยู่บริเวณร่องจมูก หว่างคิ้ว ใบหู และหนังศีรษะ
ใครอยากหลีกไกล 7 โรคข้างต้น อย่าลืมดื่มน้ํามากๆ กินอาหารที่มีประโยชน์ และหมั่นออกกําลังกายอย่างสม่ําเสมอนะคะ
บทความอื่นที่น่าสนใจ