แผนจีนรักษา หูอื้อ คนทำงาน
หลายท่านมีอาการปวดไมเกรน ซึ่งก็สร้างความทุกข์ทรมานไม่น้อย แต่บางรายยิ่งหนัก เพราะมีอาการ หูอื้อ ร่วมด้วย หะแรกอาจคิดว่าเป็นอาการชั่วครั้งคราวเหมือนนั่งรถขึ้นที่สูงซึ่งกลืนน้ำลายก็จะหาย แต่จนแล้วจนรอดอาการนี้ก็ไม่ไปไหนและมีทีท่าว่าจะอยู่ถาวรด้วยซ้ำ จึงร้อนถึงคุณหมอส้มให้ช่วยหาวิธีรักษา
คุณหมอส้ม (พญ.ศรันยา กตัญญูวงศ์) ขอเล่าเรื่องคุณแอน (นามสมมติ) ซึ่งเป็นคนไข้ประจำ
เมื่อก่อนคุณแอนเคยมี อาการปวดไมเกรนแบบเป็นๆ หายๆ แต่รักษาจนอาการดีขึ้นมากแล้วตอนนี้ วันหนึ่งเธอมาหาส้ม บอกว่ารู้สึก หูอื้อ ข้างซ้ายมาสองสามวัน ส้มลองขยับใบหูด้านนอกของเธอก็ไม่มีอาการเจ็บอะไร ใบหูไม่บวมแดง
จากการซักถามอาการ ปรากฏว่าไม่ใช่ หูอื้อ ธรรมดา เพราะนอกจากมีเสียงดังก้องอยู่ข้างในแล้ว ยังเริ่มได้ยินเสียงน้อยลงด้วย ฟังเสียงจากโทรศัพท์ด้วยหูข้างซ้ายไม่ค่อยได้ ต้องเปลี่ยนมาใช้หูข้างขวาถึงจะได้ยินชัดเจน
อาการได้ยินน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้ถือว่าซีเรียสแล้วค่ะ ส้มส่งตัวคุณแอนไปตรวจกับคุณหมอด้านหูคอจมูกอย่างละเอียดต่อทันที
หลังตรวจการได้ยินซึ่งแสดงผลเป็นเส้นกราฟ ปรากฏว่าคุณแอนได้ยินน้อยลงจริงๆ คุณหมอบอกว่าเธอเป็นโรคหูดับเฉียบพลัน จึงรักษาโดยฉีดยาสเตียรอยด์เข้าหลอดเลือดดำ สองชั่วโมงต่อมาอาการหูอื้อดีขึ้นเล็กน้อย จากนั้นให้รอดูผลพร้อมกับตรวจการได้ยินทุกวัน
โชคดีที่คุณแอนมาตรวจเร็ว เพราะการรักษาโรคหูดับให้ได้ผลดีจะต้องรักษาภายในหนึ่งสัปดาห์หลังจากเริ่มมีอาการ
คุณหมอยังให้คุณแอนเข้าอุโมงค์ตรวจเอ็มอาร์ไอ (การตรวจร่างกายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) เพื่อดูว่ามีก้อนผิดปกติเบียดทับเส้นประสาทรับเสียงหรือไม่เพราะคนไข้ที่มีอาการหูดับร้อยละ 1 จะมีสาเหตุมาจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งหากพบว่ามี ส่วนใหญ่มักผ่าตัดออก
แต่ผลตรวจของเธอไม่พบก้อนใดๆ คุณหมอจึงคิดว่าอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือเพราะมีความเครียดมากก็ได้ให้รักษาไปตามอาการ
ทางการแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของอาการหูดับที่แน่ชัด สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากระบบหรืออวัยวะรับเสียงหลายแห่ง เช่น ปัญหาหลอดเลือดในหูชั้นใน หูชั้นในรับและส่งสัญญาณเสียงสู่เส้นประสาทไม่ดี หูชั้นกลางนำเสียงผิดปกติเส้นประสาทรับเสียงผิดปกติ หรือได้รับผลกระทบจากโรคต่างๆ เช่น ติดเชื้อไวรัส หลอดเลือดในหูอักเสบ มีก้อนผิดปกติที่เยื่อหุ้มเส้นประสาทแล้วไปรบกวนการได้ยิน