รักษาอาการ วัยทอง แบบวิธีธรรมชาติ
ดิฉันอายุ 43 ปี มีอาการ วัยทอง รู้สึกร้อนวูบวาบเหงื่อออกจนเสื้อเปียก วันหนึ่งจะมีอาการอย่างต่ำ 4 – 5 รอบได้ยินเพื่อนบอกว่า มีงานวิจัยใหม่พบว่า การฝึกสมาธิ มองภาพแล้วจินตนาการไปถึงเรื่องดีๆ พร้อมกับฟังเพลงบรรเลงจะช่วยให้อาการดีขึ้น ดิฉันฟังแล้วสนใจ อยากลองทำตามบ้าง จึงอยากได้คำแนะนำเพิ่มเติมจากคุณหมอด้วยค่ะ
คุณหมอชัญวลี มาตอบ
ใครไม่เคยรู้สึกร้อนวูบวาบจากอาการวัยทอง คงไม่รู้ว่าทรมานเพียงใด เป็นอาการที่รู้สึกถึงความร้อนแผ่ซ่านจากหน้าอก ใบหน้า กระจายไปตามแขนขา ไม่ได้แค่รู้สึกร้อนอย่างเดียว แต่จะเห็นเส้นเลือดขยาย จนผิวกลายเป็นสีแดง นานประมาณ 2 – 3 นาที บางคนทนไม่ไหว ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมเบอร์แรงสุด ต่อจากนั้นก็จะเหงื่อแตกจนตัวชุ่มโชก ตามมาด้วยอาการหนาวสั่น ต้องรีบปิดแอร์ ปิดพัดลม ห่มผ้าห่ม เป็นอาการร้อนๆ หนาวๆ เอาเถิดเจ้าล่ออยู่อย่างนี้ บางคนเป็นแค่คืนละครั้งยังทนไม่ไหว กลายเป็นความเครียด ไม่หลับไม่นอน เหมือนคนบ้าบางคนเกิดอาการร้อนวูบวาบคืนละหลายครั้ง กลายเป็นความทุกข์ ซึมเศร้า จนถึงกับเบื่อชีวิตก็มี
โชคดีที่อาการร้อนวูบวาบไม่ได้เกิดกับคนวัยทองทุกคน ตามสถิติพบคนไทยและคนเอเชียเป็นน้อยกว่าชาติตะวันตก ทั้งจำนวนครั้งและความรุนแรง โดยพบหญิงวัยทองมีอาการร้อนวูบวาบประมาณ 2 ใน 3 คน ครึ่งหนึ่งมีอาการปานกลางถึงรุนแรงจนต้องพบแพทย์ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นไม่มาก
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดอาการร้อนวูบวาบรุนแรง คือ อ้วน ไม่ออกกำลังกาย สูบบุหรี่ เครียด ซึมเศร้า ฐานะยากจน การศึกษาน้อย
สาเหตุของอาการร้อนวูบวาบ มาจากการทำงานของสมอง เมื่อฮอร์โมนเพศหญิงเอสโทรเจนลดลง สมองส่วนที่ควบคุมอุณหภูมิร่างกายจะไวกว่าปกติโดยทั่วไปเมื่อมีอุณหภูมิร่างกายเพิ่ม 0.4 องศาเซลเซียส สมองจึงจะสั่งระบายความร้อน เช่นเส้นเลือดขยาย เหงื่อไหลออกมา แต่เมื่อเข้าสู่วัยทองอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย เช่น 0.1 องศาเซลเซียส สมองก็สั่งให้ระบายความร้อน โดยเส้นเลือดขยาย เหงื่อแตก แต่เมื่ออุณหภูมิไม่ได้ร้อนจนต้องระบายความร้อน ร่างกายจะเกิดอาการหนาวสั่นแทน
แต่อาการร้อนวูบวาบไม่ใช่อาการวัยทองที่เกิดกับทุกคน หมอเคยเจอคนไข้มาหาด้วยอาการร้อนวูบวาบคิดว่าตนเองเป็นวัยทอง แต่ไม่ใช่ เนื่องจากอาการร้อนวูบวาบจากวัยทองมักจะเกิดช่วง 1 – 3 ปีก่อนหมดประจำเดือน คืออายุประมาณ 45 ปีขึ้นไปและเกิดต่อไปจนถึงช่วงหลังหมดประจำเดือนนานกว่า 10 ปี
งานวิจัยในต่างประเทศพบว่า หญิงอายุ 72 ปียังมีอาการร้อนวูบวาบได้ถึงร้อยละ 9 แม้กระทั่งหมดประจำเดือนไปแล้ว 20 ปี
สาเหตุของอาการร้อนวูบวาบที่ไม่ได้เกิดจากฮอร์โมนที่ลดลงหรือการหมดประจำเดือน มีดังนี้
1. เป็นไปตามสรีระของร่างกาย เช่นความเครียด การรับประทานของเผ็ดร้อน การอยู่ในสภาพอากาศร้อน การแพ้ (Anaphylaxis) เช่น แพ้อาหาร แพ้ผงชูรส
2. ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เส้นเลือดขยาย เกิดอาการร้อนวูบวาบ ตามด้วยหนาวสั่นได้
3. ฤทธิ์ของยา ยามากกว่า 10 กลุ่มที่ทำให้เกิดอาการร้อนวูบวาบ เช่น กลุ่มยาต้านเศร้า ยาแก้ไข้ ยาแก้ปวด ยาลดฮอร์โมนเพศ ยาลดน้ำตาลในเลือด ยาเกี่ยวกับระบบประสาทอัตโนมัติ ยาลดความดันโลหิต ยาที่ทำมาจากฝิ่นและอนุพันธ์ของฝิ่น ยาลดกรด ยาขยายหลอดลม
4. มะเร็ง มีมะเร็งหลายชนิดที่ปล่อยฮอร์โมนหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะเส้นเลือดขยาย ทำให้รู้สึกร้อนวูบวาบได้ เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งต่อมไทรอยด์ มะเร็งรังไข่ มะเร็งไต มะเร็งต่อมลูกหมากทฯลฯ
5. การติดเชื้อ เชื้อวัณโรค แบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อเอชไอวี เชื้อไวรัส ตับอักเสบ และเชื้อไวรัสอื่นๆ
6. โรคประสาทสมอง เช่น สมองเสื่อม ได้รับบาดเจ็บ อักเสบเส้นเลือดแตกหรือเส้นเลือดตีบ
7. ภาวะอื่นๆ เช่น เป็นโรคกรดไหลย้อน โรคแพนิค เป็นคนขี้ร้อนเหงื่อออกง่าย
ดังนั้นเมื่อมีอาการร้อนวูบวาบรบกวนชีวิตประจำวันในคนที่อายุไม่มากควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ อย่าเพิ่งปลงใจว่าเกิดจากวัยทองอย่างเดียว