การออกกำลังกาย, ออกกำลังกาย, เผาผลาญพลังงาน

ปรับ การออกกำลังกาย กระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น

ปรับ การออกกำลังกาย กระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น

การออกกำลังกาย ดีต่อกายและใจ จากหนังสือเรื่อง Effortless Healing โดย ดอกเตอร์โจเซฟ เมอร์โคลา แพทย์แผนปัจจุบัน ที่หันมาศึกษาด้านธรรมชาติบำบัดจนเป็นผู้เชี่ยวชาญในสหรัฐอเมริกา กับวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ทุกๆ ระบบของร่างกายทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ มาเริ่มต้นลงมือสร้างวิถีชีวิตใหม่ เพื่อสุขภาพแข็งแรง สมองแจ่มใส อ่อนกว่าวัยไปด้วยกัน

ดอกเตอร์โจเซฟชี้ว่า เมื่อพูดถึง การออกกำลังกาย ทุกคนทราบดีว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งกาย – ใจ และควรทำเป็นประจำ แต่มักจะมีข้ออ้างว่าไม่มีเวลา ดังนั้นเขาจึงออกแบบโปรแกรมง่ายๆ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว

แนวคิดหลักของโปรแกรมนี้คือ แทรกการออกกำลังกายลงในวิถีชีวิตประจำวันและสลับวิธีออกกำลังกายอย่างน้อย 2 – 3 อย่างในสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

ขยับทุก 15 นาที

ผลวิจัยหลายฉบับสนับสนุนว่า การนั่งทำงานต่อเนื่องทำลายสุขภาพมากกว่าการสูบบุหรี่เสียอีก ดังนั้นให้ลุกขึ้นเดินเปลี่ยนอิริยาบถอย่างน้อย 5 นาที ในทุกๆ การนั่งทำงาน 15 นาที ล่าสุดบริษัทชั้นนำในสหรัฐอเมริกามีวัฒนธรรมใหม่เกิดขึ้น นั่นคือการเดินประชุม (Walk Meeting) แทนการนั่งประชุมในห้องนานๆ แบบเดิมแล้ว

 

เดินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เช่น เดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เดินไปจ่ายตลาดเลือกสวมรองเท้าที่ใส่เดินสบาย เลือกใช้ระบบขนส่งสาธารณะแทนการขับรถ นอกจากนี้การสวมอุปกรณ์นับก้าวก็มีส่วนกระตุ้นให้ออกเดินมากกว่าเดิม เป้าหมายคือ วันละ 10,000 ก้าว

 

โปรแกรมหลัก

แนะนำให้ฝึกอย่างน้อยวันเว้นวัน หรือสัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยเริ่มจากอบอุ่นร่างกาย 3 – 5 นาที ต่อด้วยเลือกวิธีออกกำลังกายที่คุณชอบ เช่น ปั่นจักรยาน แล้วเร่งความเร็วสูงสุดและรักษาระดับความเร็วนั้นให้ต่อเนื่องอย่างน้อย 30 วินาที – 1 นาที จากนั้นลดความเร็วลงเป็นระดับปานกลาง 1 นาทีครึ่ง นับเป็น 1 เซต ในทุกๆ ครั้งต้องทำต่อเนื่องอย่างน้อย 8 – 10 เซต จนทำให้รู้สึกเหนื่อย หอบ และเหงื่อออก ใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง

การออกกำลังกาย, ออกกำลังกาย, เผาผลาญพลังงาน, ปั่นจักรยาน

โปรแกรมเสริม

ใช้ปิดท้ายโปรแกรมหลักในทุก ๆ ครั้ง โดยมุ่งยืดเหยียดร่างกายหลังออกกำลังกายด้วยไทชิ ชี่กง โยคะ ฝึกต่อเนื่องอย่างน้อย 20 – 30 นาที นอกจากช่วยลดอาการปวดเมื่อยหลังออกกำลังกายแล้วยังมีงานวิจัยสนับสนุนว่า ช่วยรักษาสมดุลการทรงตัว ลดโอกาสล้มในผู้สูงอายุ ทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ลดอาการเจ็บปวดตามข้อ และลดเครียด ส่งผลดีต่อผู้ป่วยซึมเศร้า วิตกกังวล ช่วยให้นอนหลับได้ดี ระบบขับถ่ายและระบบภูมิคุ้มกันก็ทำงานได้ดีขึ้น และลดระยะเวลาที่ใช้ในการพักฟื้นได้ดี

 

ขั้นต่ำคือวันละ 20 นาทีต่อเนื่อง

แม้เป้าหมายสูงสุดของการออกกำลังกาย คือต้องทำตามโปรแกรมให้ได้ทุก ๆ วัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กระดูก หัวใจ และสมอง อีกทั้งช่วยรักษาระดับอัตราการเผาผลาญพลังงานที่ต้องการเอาไว้ได้ แต่ถ้าคุณยังไม่สามารถออกกำลังกายตามโปรแกรมให้ได้ครบถ้วน

ขอเพียงเลือกการออกกำลังกายง่ายๆ เช่น เดินหรือว่ายน้ำอย่างต่อเนื่อง 20 นาทีให้ได้ทุกวันก็ถือว่าใช้ได้แล้วอย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์แรกถ้าเป็นไปได้ควรจัดเวลาออกกำลังตามโปรแกรมที่แนะนำให้ได้อย่างต่ำ 2 วัน แล้วค่อยๆ เพิ่มเป็นวันเว้นวันต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ และพยายามปรับไปเป็นออกกำลังกายทุกวันตาม

โปรแกรมทั้งหมดภายในเดือนที่ 2 ให้ได้

 

 

 

<< TIPS ดีๆ ออกกำลังกายให้ได้ผลสูงสุด อ่านหน้า 2 เลยค่ะ >>

© COPYRIGHT 2024 AME IMAGINATIVE COMPANY LIMITED.