แชร์ประสบการณ์ ควันบุหรี่มือสอง ทำป่วย โรคมะเร็งกล่องเสียง
โรคมะเร็งกล่องเสียง เป็นหนึ่งในโรคเรื้อรังที่ใครๆ ก็เข็ดขยาด ถึงจะดูแลสุขภาพ ระมัดระวังตัวเองแค่ไหน บางครั้ง เราก็อาจเจ็บป่วยจากการรับสารพิษทางอ้อม เช่น ควันบุหรี่มือสอง จากคนข้างเคียง ทำให้สุขภาพทรุดโทรมได้เช่นกัน
คุณชัยณรงค์ ศรีปราโมช อายุ 56 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ทั้งชีวิตของเขาไม่เคยสูบบุหรี่แม้แต่มวนเดียว แต่กลับต้องป่วยเป็นโรคมะเร็งกล่องเสียงจนต้องผ่าตัดกล่องเสียงทิ้ง เพื่อรักษาชีวิตไว้
“ครอบครัวของผมนับถือศาสนาอิสลาม และเราค่อนข้างเคร่งครัดในคำสอน ทำให้ได้รับการปลูกฝังไม่ให้ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ ต่อมา เมื่อได้มีโอกาสเรียนต่อในแผนกช่างยนต์ของโรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่ง ช่วงนั้นผมติดเพื่อนมาก ชนิดถึงไหนถึงกัน ไม่ว่าเพื่อนจะไปไหนผมไปด้วย
“ทุกครั้งที่เพื่อนๆรวมตัวกัน ทุกคนจะสูบบุหรี่ยกเว้นผมคนเดียว โดยส่วนตัวไม่ชอบกลิ่นบุหรี่เลย แต่เราไม่สามารถตีตัวออกห่างได้ เพราะกลัวเพื่อนไม่คบ ผมจึงต้องทนนั่งดมควันบุหรี่ไปเรื่อยจนเรียนจบ”
เมื่อจบการศึกษา คุณชัยณรงค์และเพื่อนๆต่างแยกย้ายกันไป ทำงานยังที่ต่างๆ ซึ่งน่าจะลดโอกาสการได้รับควันบุหรี่ แต่สุดท้าย เมื่อเขาต้องเข้าทำงานก็ไม่พ้นได้รับควันบุหรี่เช่นเคย
“ช่วงปีพ.ศ.2539 ผมได้ทำงานครั้งแรกที่โรงงานผลิตสายไฟรถยนต์ แห่งหนึ่งย่านบางพลี พนักงานชายส่วนใหญ่จะสูบบุหรี่จัดมาก และ ทางโรงงานก็ไม่ได้จัดสถานที่เฉพาะสำหรับผู้สูบบุหรี่ ทำให้ทุกคนเข้ามา สูบบุหรี่ในห้องน้ำกัน และในห้องน้ำก็ไม่มีพัดลมระบายอากาศ ควัน บุหรี่จึงฟุ้งกระจายไปทั่วห้องน้ำ ผมเข้าไปใช้ห้องน้ำก็ต้องสูดควันบุหรี่ เข้าไปด้วย”
ยาเส้น ฝุ่นละออง พิษร้ายทำลายสุขภาพ
หลังจากนั้น 3 ปี คุณชัยณรงค์ก็ลาออกจากโรงงานผลิตสายไฟรถยนต์ มาทำงานในโรงงานผลิตสายไฟแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของชาวญี่ปุ่น ในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายขนส่ง มีหน้าที่ควบคุมการตรวจสอบสินค้า เข้าออก จึงต้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือ รปภ.ของบริษัทที่ชอบสูบยาเส้นตลอดเวลา
“รปภ.ท่านนี้จะสูบยาในห้องทำงานตลอดเวลา แถมห้องก็ปิดทึบ ไม่ระบายอากาศ ผมเองต้องเข้าไปพูดคุยวางแผนงานด้วยบ่อยๆ ก็ต้อง สูดควันยาเส้นเข้าไปด้วย
“ตอนนั้นคนทั่วไปยังไม่รู้ไม่เข้าใจว่าควันบุหรี่เป็นพิษและสามารถส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างได้ ผมเองก็ไม่เคยเฉลียวใจว่า การเข้าไปคลุกคลีกับคนสูบบุหรี่ตลอดเวลาจะทำให้เราได้รับควันพิษ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งกล่องเสียงได้”
นอกจากได้รับควันบุหรี่แล้ว คุณชัยณรงค์ยังต้องสูดฝุ่นละออง ที่ปนเปื้อนในอากาศอยู่เสมอ
“ผมต้องเดินทางจากบ้านที่กรุงเทพฯไปทำงานที่สมุทรปราการด้วยรถบัสรับ-ส่งพนักงานทุกวัน ผมจะนั่งริมหน้าต่างซึ่งเปิดกระจกไว้เพื่อรับลม และสมัยนั้น ถนนยังเป็นดินลูกรัง เวลารถวิ่งเร็วๆก็พัดฝุ่นให้กระจายเต็มถนน ทำให้เราต้องหายใจเอาฝุ่นละอองเหล่านี้เข้าไป ด้วยเป็นเวลานานหลายปี”
คุณชัยณรงค์อยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้นานนับสิบปี จนกระทั่งปีพ.ศ. 2549 เขารู้สึกเจ็บคอ เสียงแหบ และมีไข้ จึงตัดสินใจไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน
“ครั้งแรกคุณหมอบอกว่าเป็นหวัดธรรมดา ให้กินยา แต่ผ่านไป 3 สัปดาห์อาการก็ยังไม่ดีขึ้น จึงกลับไปตรวจ ที่โรงพยาบาลอีกรอบ โดยครั้งนี้ตรวจกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้านหู คอ จมูก โดยเฉพาะ ก็พบว่าตัวเองเป็นมะเร็ง กล่องเสียงระยะที่ 1 และกว่าจะได้เข้ารับการรักษา มะเร็งก็ลุกลามเป็นระยะที่ 3 แล้ว”
หลังจากนั้นคุณชัยณรงค์ก็เข้ารับการผ่าตัดกล่องเสียง ทำให้เขาพูดไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตอย่างมาก แต่เขาก็เข้ารับการฝึกออกเสียงด้วยหลอดอาหารตามคำแนะนำของแพทย์ จนในที่สุดก็กลับมาสื่อสารกับคนรอบข้างได้เหมือนเดิมอีกครั้ง
ดังนั้น การไม่สูบบุหรี่และหลีกหนีจากควันบุหรี่ อาจจะช่วยป้องกันคุณจากโรคมะเร็งกล่องเสียงได้อีก ทางหนึ่งครับ
บทความน่าสนใจอื่นๆ
4 เทคนิคกิน วิตามินต้านมะเร็ง จากอาหารทั่วๆ ไป