2. โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเหตุจากแผล
การอักเสบและมีแผลเปื่อยที่เยื่อบุลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง
สาเหตุ
ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มีข้อสันนิษฐานคล้ายกับอาการของโรคโครห์น
อาการ
ถ่ายอุจจาระบ่อยและกลั้นไม่อยู่ โดยมีเลือดและมูกปนออกมาด้วย รายที่เป็นรุนแรงอาจถึงขั้นท้องร่วง ปวดท้อง และอาจเกิดโรคอื่นตามมา เช่น แผลผิวหนังตาอักเสบ ปวดข้อ และโรคตับ
ปัจจัยเสี่ยง
คล้ายโรคโครห์น นอกจากนั้นความเครียดวิตกกังวล โดยเฉพาะการกินอาหารไม่ดีและความอ่อนแอของร่างกาย ทำให้โรคกำเริบได้ง่ายขึ้น
3. โรคซิลิแอก
เยื่อบุลำไส้ส่วนต้นถูกทำลาย
สาเหตุ
เกิดจากภาวะแสลงกลูเทน (โปรตีนในธัญพืช) ทำให้กลุ่มเซลล์คล้ายขนบนเยื่อบุผนังลำไส้แบนราบลง การดูดซึมอาหารจึงลดลง พบบ่อยในเด็กเล็กที่เริ่มเปลี่ยนมากินอาหารแข็ง
อาการ
น้ำหนักตัวลดลงหรือไม่โต เบื่ออาหาร ถ่ายอุจจาระบ่อย อุจจาระเป็นก้อนใหญ่และสีซีด กระเพาะอาหารโป่งพอง ผิวหนังซีด อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย ผิวหนังเป็นผื่นคัน เป็นตุ่มพุพองตามหัวเข่า ข้อศอก ก้น และแผ่นหลัง
ปัจจัยเสี่ยง
มักขาดอาหารเพราะการดูดซึมสารอาหารไม่ดี คนจำนวนมากมีภาวะแสลงกลูเทนโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากมีอาการแสดงออกน้อยมาก ทางที่ดีจึงควรงดอาหารทุกชนิดที่มีส่วนผสมของข้าวสาลี ข้าวไรย์ หรือข้าวบาร์เลย์ (ซึ่งมีกลูเทนสูง)
4. โรคนิ่วในถุงน้ำดี
ก้อนแข็งมีเหลี่ยมซึ่งประกอบด้วยคอเลสเทอรอล เกิดขึ้นที่ถุงน้ำดี
สาเหตุ
มีการติดเชื้อของทางเดินน้ำดีการตั้งครรภ์ ความอ้วน โรคเบาหวาน และยาเม็ดคุมกำเนิด
อาการ
ปวดรุนแรงในช่องท้องด้านขวาส่วนบน และอาจปวดร้าวไปถึงข้างหลัง ท้องอืดและคลื่นไส้ ถ้าก้อนนิ่วไปอุดทางออกของน้ำดี จะทำให้ปวดและอักเสบ และอาจเกิดอาการดีซ่านได้
ปัจจัยเสี่ยง
อาจทำให้มีการติดเชื้อในตับ ในรายที่เป็นรุนแรงอาจทำให้ตับล้มได้ ก้อนนิ่วอาจหลุดเลื่อนลงมาในลำไส้ ทำให้เกิดมะเร็งในถุงน้ำดี
ทางที่ดีหันมาบริโภคผักผลไม้เป็นประจำ และอย่าลืมหาโอกาสดูแลสุขภาพตัวคุณด้วยการออกกำลังกาย ที่สำคัญ ทำจิตใจให้สดชื่นแจ่มใสอยู่เสมอด้วยนะคะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของคุณทำงานเป็นปกติค่ะ
ข้อมูลจาก คอลัมน์เกร็ดสุขภาพ นิตยสารชีวจิต ฉบับ 189
บทความน่าสนใจอื่นๆ
วิธีดูแลระบบย่อยอาหาร ด้วยวิถีสุขภาพจากต่างแดน
รวมวิธีกินกล้วยที่ดีที่สุด รักษา 6โรคยอดฮิต ระบบย่อยอาหาร
