แตงกวา ของดีหน้าร้อน ประโยชน์เหลือเฟือ
แตงกวา เป็นผักที่มีรสชาติอ่อนๆ กินแล้วสดชื่น ประกอบไปด้วยน้ำจำนวนมาก ช่วยเติมน้ำให้ร่างกาย เหมาะมากในการกินช่วงหน้าร้อน ความจริงจะเรียกผักก็ไม่เชิง เพราะมีลักษณะเป็นผลเสียมากกว่า นอกจากนั้นแตงกวายังถูกนำมาทำเป็นผลัตภัณฑ์เพื่อความงามอีกหลากหลายด้วย ว่าแล้วเราก็มาดูประโยช์ของแตงกวากันเลยดีกว่าค่ะ
ช่วยทดแทนน้ำ
แตงกวาประกอบไปด้วยน้ำจำนวนมาก และยังมีอิเลคโทรไลต์รวมอยู่ด้วย ช่วยป้องกันการขาดน้ำช่วงหน้าร้อนหรือหลังการออกกำลังกาย
สำหรับคนที่ไม่ค่อยดื่มน้ำ กัดแตงกวากร้วมๆเสียหน่อย ช่วยได้ค่ะ
การรักษาน้ำในร่างกายนั้นจำเป็นต่อระบบลำไส้และป้องกันอาการท้องผูก ป้องกันนิ่วในไตและอื่นๆ และแตงกวาจัดเป็นหนึ่งในผักหรือผลที่ให้น้ำมากชนิดหนึ่งเลย
ช่วยบำรุงกระดูก
วิตามินเคในแตงกวาช่วยเรื่องการแข็งตัวของเลือดและอาจช่วยส่งเสริมบำรุงกระดูก ซึ่งในแตงกวาฝานทั้งเปลือกหนึ่งถ้วย ขนาด 142 กรัม ให้วิตามินเคประมาณ 10.2 ไมโครกรัม อ้างอิงจาก United States Department of Agriculture (USDA)
โดยความต้องการวิตามินเคในแต่ละคนมีดังนี้
– 90 ไมโครกรัมต่อวัน สำหรับผู้หญิงวัย 19 ปีขึ้นไป
– 120 ไมโครกรัมสำหรับผู้ชายในช่วงวัยเดียวกัน
แตงกวายังมีแคลเซียม 19.9 มิลลิกรัม (วัยผู้ใหญ่จะต้องการแคลเซียมประมาณ 1,000-1,200 มิลลิกรัมต่อวัน ขึ้นอยู่กับอายุ)
กระนั้น วิตามินเคก็ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ซึ่งหากได้รับทั้งวิตามินเคและแคลเซียมจะส่งผลให้กระดูกแข็งแรงขึ้นได้
ป้องกันมะเร็ง
เช่นเดียวกับพืชในวงศ์แตง แตงกวาประกอบด้วยสารอาหารรสขมอย่าง cucurbitacin อ้างอิงจากบทความของ International Journal of Health Services สาร cucurbitacin อาจช่วยป้ิงกันโรคมะเร็ง โดยการช่วยยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง
แตงกวาฝานทั้งเปลือก 1 ถ้วยขนาด 133 กรัม ให้ใยอาหารประมาณ 1 กรัม และใยอาหารเองก็เป็นตัวช่วยป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ด้วย
ดีต่อหัวใจ
ข้อมูลจาก The American Heart Association (AHA) ระบุว่า ใยอาหารช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดได้
แตงกวาฝานทั้งเปลือก 1 ถ้วยขนาด 142 กรัม ให้โพแทสเซียมประมาณ 193 มิลลิกรัม และแมกนีเซียม 17 มิลลิกรัม ตามคำแนะนำของ The Dietary Guidelines ระบุว่า วัยผู้ใหญ่ควรบริโภคโพแทสเซียม 4,700 มิลลิกรัมต่อวัน และแมกนีเซียม 310-410 มิลลิกรัมต่อวัน ขึ้นอยู่กับเพศและอายุ
ทั้งนี้ทั้งนั้น การลดการบริโภคโซเดียมและเพิ่มโพแทสเซียมขึ้นจะช่วยลดปัญหาความดันโลหิตสูงได้ สาร cucurbitacin ยังช่วยป้องกันโรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือดได้ด้วย
ป้องกันเบาหวาน
แตงกวาเป็นตัวช่วยควบคุมและป้องกันโรคเบาหวานได้ เพราะประกอบไปด้วยสารที่จะช่วยลดน้ำตาลในเลือดไม่ให้พุ่งสูงเกินไป
หนึ่งในทฤษฎีพบว่า cucurbitacin ในแตงกวาช่วยปรับระดับอินซูลินให้อยู่ในระดับปกติ รวมไปถึงควบคุมระดับฮอร์โมนที่มีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
จากการศึกษาพบว่าเปลือกแตงกวาช่วยลดอาการเบาหวานในหนูทดลอง ซึ่งอาจจะมาจากสารแอนติออกซิแดนท์ที่อยู่ในเปลือกแตงกวานั่นเอง
ใยอาหารก็ด้วย สารมารถช่วยป้ิงกันและจัดการกับโรคเบาหวานประเภท 2 (อ้างอิงจาก American Heart Association )
แตงกว่าเป็นอาหารที่มีค่า glycemic index (GI) ต่ำ นั่นหมายถึงว่าเป็นอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการโดยไม่มีคาร์โบไฮเดรตที่จะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดนั่นเอง
ต้านอักเสบได้ดี
แตงกวามีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการของระบบภูมิคุ้มกัน ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า การอักเสบ เป็นต้นตอที่จะนำมาสู่ปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น
โรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือด
โรคเบาหวาน
โรคระบบภูมิคุ้มกัน
โรคซึมเศร้า
โรคมะเร็ง
เพื่อผิวสวย
จากงานวิจัยพบว่าสารอาหารในแตงกวาให้ประโยชน์ด้านผิวพรรณ วางแตงกวาฝานลงบนผิวช่วยให้ผิวเย็นและปลอบประโลมผิวได้ ลดอาการบวมและระคายเคืองอีกด้วย แตงกวาจึงเหมาะแก่การใช้ดูแลผิวไหม้แดด และหากฝานโปะดวงตา ช่วยแก้อาการตาบวมตอนเช้าได้ด้วย
ข้อมูลจาก : Medical News Today
———————————————-
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
มะเขือยาว ช่วยหุ่นฟิต ฟื้นฟูหัวใจ