หน้ากากอนามัย พารอดโควิด
รู้ไหมว่า หน้ากากอนามัย พารอดโควิดได้ นั่นเพราะ หน้ากากอนามัย เป็น หนึ่งใน 3-4 มาตรการป้องกันโควิด-19 ที่เราทุกคน ปฏิบัติกันอยู่แล้ว แต่บางคนอาจจะละเลย บางทีก็ไม่สวมใส่ …อยากให้ทุกคนได้อ่านเรื่องราวที่เราเอามานำเสนอในวันนี้ แล้วคุณจะเข้าใจว่า ทำไมหน้ากากอนามัย ถึงช่วยป้องกันโควิดได้
การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เรารับรู้กันมาตลอดว่าหนึ่งในวิธีนั้นก็คือการสวมใส่หน้ากากอนามัย ถึงแม้ว่าจะมีข้อมูลบางส่วนออกมาว่าการสวมใส่หน้ากากอนามัยยิ่งใส่ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสการติดเชื้อ นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะทางกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขเค้าออกมายืนยันเลยว่าการสวมหน้ากากอนามัยจะช่วยป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้ถึง 54-59% โดยจะเห็นว่าช่วงหลังๆ มานี้เห็นคนสวมใส่หน้ากากอนามัยกันมากขึ้น ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องที่ดี
เมื่ออาทิตย์ก่อนได้มีโอกาสดูคลิปอยู่คลิปหนึ่ง ที่มีคนออกมาพูดเรื่องความสำคัญของหน้ากากอนามัยเอาไว้ได้น่าสนใจมาก โดยเจ้าของคลิปอาศัยอยู่ที่รัฐแมสซาชูเซตส์ในสหรัฐอเมริกา เมืองที่เขาอยู่นั้นมีคนติดโควิดแล้ว 6 แสน 5 หมื่นกว่าคน และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่เขาก็รอดมาได้ สิ่งสำคัญที่ทำให้เขารอดได้ และเป็นกำแพงกั้นเชื้อโรคโควิดไม่ให้เข้าสู่ร่างกายของเขาไม่ใช่เพราะวัคซีนราคาแพงๆ ยี่ห้อใดๆ ทั้งสิ้น แต่มันคือหน้ากากอนามัยที่เขาใช้และสวมใส่ทุกวันนั่นเอง
เขาพิสูจน์ให้เห็นเลยว่าการใส่กับไม่ใส่หน้ากากอนามัยมันจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของโรคได้อย่างไร โดยในคลิปเขาลองไม่ใส่หน้ากากอนามัยแล้วพ่นลม และไอใส่เทียนไขที่จุดไว้ แรงลม หรือละอองน้ำลายทำให้เทียนดับทันที แต่เมื่อสวมหน้ากากอนามัยแล้วไอพร้อมเป่าลมใส่เทียนปรากฏว่าเทียนไม่ดับ นั่นแสดงให้เห็นว่า ละอองฝอยหรือความแรงของลมที่ถูกพ่นออกมาจากปากของเขามันถูกกั้นด้วยหน้ากากอนามัย แล้วยิ่งถ้าเป็นหน้ากากอนามัยดีๆ ผลิตด้วยวัตถุดิบที่มีประสิทธิภาพด้วยแล้วก็จะยิ่งช่วยกรองเชื้อโรคที่จะแพร่ออกไปได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อออกไปแต่ยังป้องกันการรับเชื้อโรคเข้ามาได้อีกด้วย
ฉะนั้น สวมใส่หน้ากากอนามัยกันเถอะค่ะ เพื่อป้องกันโรคโควิด นอกจากการสวมใส่หน้ากากอนามัยแล้วการล้างมือบ่อยๆ การเว้นระยะห่างทางสังคม Social Distancing ก็ยังคงต้องทำ ที่สำคัญหลีกเลี่ยงการไปรวมกลุ่ม รวมตัวกับคนในสังคมเยอะๆ อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ
มีข้อแนะนำสำหรับการใช้หน้ากากอนามัยที่อยากฝากไว้สักนิด คือ คนที่ใช้หน้ากากแบบผ้า ช่วงนี้ก่อนออกจากบ้านควรพกเผื่อเอาไว้อีกสัก 1 อัน กันเปียกฝน เพราะหน้ากากผ้าป้องกันเชื้อโควิดได้ถ้าแห้ง แต่ถ้าเปียกน้ำจนชื้นหน้ากากผ้าจะไม่ช่วยป้องกันโควิดได้เลย ดังนั้นเตรียมเผื่อไว้อีก 1 อันดีที่สุด ส่วนคนที่ใช้หน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง ก็ทิ้งเลยนะคะอย่าเอามาใช้ซ้ำ เพราะระวังเชื้อโรคจะย้อนกลับมาที่ร่างกาย อันตรายหนักไปอีก
ทีนี้ลองมาสำรวจประเภทและประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัยเพื่อการป้องกันสุขภาพแบบต่างๆ ที่สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (สสปท.) เค้ารวบรวมเอาไว้ดังนี้
1.หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ : สามารถป้องกันเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ สารคัดหลั่งจากผู้อื่น
ผลิตจากพลาสติกพอลิโพรพิลีนที่มีความปลอดภัย ป้องกันเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสจากคนสู่คนได้ถึง 99% ป้องกันฝุ่นละออง และเกสรดอกไม้ ขนาดเล็ก 3 ไมครอน ได้ถึง 66.37% (ป้องกัน PM 2.5 ไม่ได้)
2.หน้ากากคาร์บอน : สามารถป้องกันเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ สารคัดหลั่งจากผู้อื่น กรองกลิ่น
มีคุณสมบัติไม่ต่างจากหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แต่จะมีความพิเศษขึ้นมาคือมีชั้น Carbon ที่สามารถกรองกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ได้ดีกว่า มีเส้นใยสังเคราะห์หนา 4 ชั้น ช่วยกรองแบคทีเรียได้ถึง 95% กรองฝุ่นละอองขนาด 3 ไมครอน ได้ถึง 66.37% (ป้องกัน PM 2.5 ไม่ได้)
3.หน้ากาก N95 : สามารถป้องกันเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ สารคัดหลั่ง กรองกลิ่น กันฝุ่น PM 2.5 ได้ผลิตจากพอลิโพรพิลีน ป้องกันการเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้ มีประสิทธิภาพสูงกว่าหน้ากากอนามัยทั่วไป ลักษณะของ N95 จะครอบลงไปที่ปากและจมูกอย่างมิดชิด จึงทําให้เชื้อไวรัสไม่สามารถลอดผ่านได้ อีกทั้งมีประสิทธิภาพในการดักจับอนุภาคขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 และ PM 10 ได้ไม่น้อยกว่า 95% (ป้องกัน PM 2.5 ในระดับดีมาก)
4.หน้ากาก FFP1-FFP2 : สามารถป้องกันเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ สารคัดหลั่ง กรองกลิ่น กันฝุ่น PM2.5 ได้ มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับหน้ากากอนามัย N95 สามารถป้องกันได้ทั้งฝุ่น PM2.5 และเชื้อไวรัสได้อย่างดี สามารถดักจับอนุภาคขนาดเล็ก PM2.5 และ PM10 ได้ไม่น้อยกว่า 94% นอกจากนั้นยังสามารถป้องกัน สารเคมีฟูมโลหะ ได้อีกด้วย (ป้องกัน PM 2.5 ได้ดี)
5.หน้ากากผ้า : สามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ละอองน้ำมูก/น้ำลายขนาดใหญ่ หน้ากากผ้า มี 2 แบบ แบบแรกผลิตจากผ้าฝ้าย แบบที่สองผลิตจากใยสังเคราะห์ซ้อนกัน ทั้งสองแบบใช้สําหรับป้องกันฝุ่นละออง และป้องกันน้ำมูกหรือน้ําลายจากการ ไอ/จามได้ กรองฝุ่นละอองอนุภาคใหญ่ได้ แต่ไม่สามารถกรองเชื้อโรคที่มีขนาดเล็กมากๆ ได้ (ป้องกัน PM 2.5 และไวรัสไม่ได้)
6.หน้ากากฟองน้ํา : สามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ผลิตจากโพลียูรีเทนคาร์บอน ใช้สําหรับกรองอากาศโดยเฉพาะ สามารถซักทําความสะอาดได้แห้งเร็ว มีประสิทธิภาพน้อยที่สุดคือ ป้องกันได้แค่ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็ก และเกสรดอกไม้ได้เท่านั้น (ป้องกัน PM 2.5 และไวรัสไม่ได้)
สรุปได้ว่า “หน้ากากอนามัย” ที่สามารถป้องกันได้ทั้งเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 และฝุ่นพิษ PM2.5 ไปพร้อมกัน ก็คือ หน้ากาก N95 และ หน้ากาก FFP1-FFP2 แต่ก็มีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่ว่าหน้ากากทั้งสองชนิดนี้ มีราคาสูง ถ้าต้องซื้อมาใช้ครั้งแดียวแล้วทิ้งทุกวัน บางคนอาจรู้สึกว่าแพงเกินกว่าที่จะใช้ในชีวิตประจำวัน
เรื่องนี้มีวิธีแก้ไขได้ง่ายๆ จากคำแนะนำของ 2 นักวิชาการ นั่นคือ ดัดแปลงโดยใช้หน้ากากปกติแต่สวมใส่เพิ่มเป็น 2 ชั้น และ/หรือ ใช้สเปรย์ที่มีคุณสมบัติสะท้อนน้ำฉีดพรมบน “หน้ากากผ้า” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้หน้ากากผ้าธรรมดากลายเป็นหน้ากากที่ป้องกันได้ทั้งฝุ่นและไวรัสควบคู่กันแบบ 2in1
บทควมอื่นๆ ที่น่าสนใจ