แก้ กรดไหลย้อน ด้วยตัวเองกันเถอะ
โรค กรดไหลย้อน (GERD) และลำไส้แปรปรวน (IBS) เป็นโรคยอดฮิตแห่งยุค เพราะคนสมัยนี้เป็นกันมาก คนไทยรู้จักทั้งสองโรคเมื่อราว 20 กว่าปีที่ผ่านมานี้เอง และยังไม่มีใครทราบสาเหตุการเกิดโรคที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่า ตัวการร้ายก่อโรคคือความเครียด
สารพัดตัวการกรดไหลย้อน
นอกจากนี้โรคกรดไหลย้อนยังสัมพันธ์กับพฤติกรรมอื่นๆด้วย ดังนี้
• มีความเครียด เวลาเครียดหรือโกรธจัด อารมณ์ที่พลุ่งพล่านจะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารออกมามากเกินไป
• กินอาหารจนแน่นท้อง ซึ่งส่งผลให้กรดในกระเพาะอาหารเอ่อล้นออกมา
• กินอาหารกระตุ้นอาการ เช่น อาหารรสจัดของทอด ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
• น้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุง เนื่องจากไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้องจะไปเบียดกระเพาะอาหาร ทำให้กรดเกิดการไหลย้อนได้
• สวมเสื้อผ้ารัดรูป เช่น ใส่กางเกงยีนฟิตเปรี๊ยะใส่สเตย์รัดหน้าท้อง
• นั่งเอนหลังหรือนอนหลังจากกินอาหารเสร็จใหม่ๆ
• กินยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาขยายหลอดลม หรือการรับฮอร์โมน และการสูบบุหรี่จัด
• ตั้งครรภ์ เนื่องจากสตรีตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนซึ่งส่งผลต่อการเกิดโรคกรดไหลย้อนได้ เพราะระดับฮอร์โมนของคุณแม่ตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อมีอาการกรดไหลย้อน เรามักซื้อยาลดกรดมากินเพื่อแก้อาการ แต่เป็นวิธีแก้แบบชั่วคราว อาการหายไปแล้วก็จะกลับมาเป็นอีก เพราะไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ
Easy Tricks แก้กรดไหลย้อนด้วยตัวเอง
เมื่อเป็นกรดไหลย้อนหรือโรคอะไรก็ตาม เรามักไปหาหมอฝากหน้าที่ความรับผิดชอบไว้ให้คุณหมอ เพื่อให้ท่านสั่งยามาให้กินแล้วเราจะสบายใจว่าหายจากโรคแน่ แต่สำหรับวิธีแก้โรคกรดไหลย้อนต้องอาศัยการดูแลตัวเองมิใช่น้อย มูลนิธิInternational Foundation for Functional Gastrointestinal Disorders (IFFGD) แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาแนะนำให้หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นการเกิดโรคทุกอย่าง ปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และการกินอาหารให้ถูกต้อง ดังนี้
1. งดนั่งเอนหลังหรือนอนหลังจากกินอาหารมื้อใหญ่อย่างน้อย
3 ชั่วโมง และไม่ควรกินอาหารว่างใกล้เวลาเข้านอน
2. ไม่ควรออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องก้มตัวลง เช่น กวาดหรือถูบ้านหลังกินอาหาร
3. ไม่ควรกินอาหารมากเกินไป แม้อาหารจะอร่อยมากแค่ไหนก็ควรกินในปริมาณพอเหมาะ
(ที่มา : คอลัมน์เรื่องพิเศษ นิตยสารชีวจิต ฉบับที่ 383)
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ดูแลตัวเองให้ดี ด้วย 5 วิธีลดอาการกรดไหลย้อน