“วิธีลดกลิ่นตัว” …บ้านเราเป็นเมืองร้อนและชื้น ซึ่งก็เป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้หลายคนมีกลิ่นตัว ขึ้นมาได้ เนื่องจาก กลิ่นตัว เกิดจากการสะสมของแบคที่เรียจากเหงื่อ จากเชื้อโรค เชื้อราตามผิวหนัง และเสื้อผ้า ยิ่งมาบวกกับอากาศร้อน ๆ และความอับชื้นในอากาศ เชื้อแบคที่เรียที่รวมกับเหงื่อไคลของเราก็ยิ่งสะสม จนส่งกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ออกมากันใหญ่
แต่ว่าปัญหา กลิ่นตัว จะไม่ใช่เรื่องที่ต้องหนักใจอีกต่อไปค่ะ ถ้าคุณได้ลองใช้สมุนไพรดับกลิ่นตัว ต่อไปนี้
H E R B A L T R E A T 5 ส มุ น ไ พ ร ดั บ ก ลิ่ น ตั ว
สะระแหน่
สารสกัดจากสะระแหน่ มีคุณสมบัติเป็นยาดับกลิ่นตามธรรมชาติอยู่แล้ว เพียงนำสารสกัดจากสะระแหน่ ประมาณ 2 -3 หยด ใส่ลงในอ่างอาบน้ำ แล้วลงไปแช่ตัวสัก 5 นาที หรือจะใช้ใบสะระแหน่สด ประมาณ 2 กำมือ มาต้มกับน้ำ 1 ถ้วยตวง แล้วนำมาผสมเป็นน้ำอาบเพื่อดับกลิ่นตัวก็ได้เช่นกันค่ะ
ใบพลู
มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคที่เรียได้หลายชนิด โดยวิธีใช้ก็ให้นำใบพลูมาขยี้แล้วทารักแร้หลังอาบน้ำ ทิ้งไว้สักพัก แล้วจึงล้างออก
ฝรั่ง
นอกจากจะช่วยระงับกลิ่นปากได้แล้วใบฝรั่งยังช่วยระงับกลิ่นตัวได้เช่นกัน โดยนำใบฝรั่งประมาณ 10 ใบ มาโขลกให้ละเอียด แล้วทารักแร้ ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วอาบน้ำให้สะอาด
ตำลึง
ผักริมรั้วอย่างตำลึง เมื่อมาผสมกับปูนแดงในปริมาณเล็กน้อย จะมีสรรพคุณในการต้านเชื้อแบคทีเรีย และระงับกลิ่นกายได้ โดยให้นำต้นตำลึงสด ๆ ประมาณ 1 -2 กำมือ มาโขลกจนละเอียด แล้วผสมกับปูนแดงเล็กน้อยพอให้เข้ากัน จากนั้นนำส่วนผสมมาทาใต้วงแขน ทิ้งไว้สักครู่จึงล้างออก แนะนำให้ทำติดต่อกันสัก 1 สัปดาห์ เพื่อช่วยระงับกลิ่นตัวได้ดีขึ้น
ขิง
มีสรรพคุณช่วยต้านแบคทีเรีย จึงช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ที่อาจเกิดบนผิวกายได้ โดยวิธีใช้ชิงดับกลิ่นตัว ก็เพียงบดชิงแห้งให้เป็นผง แล้วนำมาผสมกับเบกกิ้งโซดา ในปริมาณเท่าๆ กัน จากนั้นนำมาทาเป็นแป้ง ที่ใต้วงแขน ข้อพับ เพื่อให้ขิงและเบกกิ้งโซดาช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ต้นกำเนิดของกลิ่นกาย แถมขิงยังมีสรรพคุณช่วยลดความอับชื้นอีกด้วย ดังนั้นหมดห่วงเรื่องเหงื่อ และกลิ่นตัวที่มักจะมาพร้อมกันได้เลย
สมุนไพรดับกลิ่นตัว ทั้ง 5 ชนิดนี้ หาไม่ยากเลย ใครที่มีปัญหากลิ่นตัวแรง ใช้อะไรก็แทบเอาไม่อยู่ ลองหันมาใช้สมุนไพรระงับกลิ่นกาย เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดูสิคะ (ที่มา นิตยสารชีวจิต ฉ.536)
สำหรับใครที่มีกลิ่นกายแรง นอกจากสมุนไพรทั้ง 5 ชนิดที่บอกไปแล้ว ยังมีเคล็ดลับในการป้องกันไม่ให้เกิดกลิ่นตัวเหม็น มาฝาก ดังนี้
-ควรอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเพื่อชำระล้างคราบเหงื่อไคลรวมถึงเพื่อลดปริมาณแบคทีเรียที่สะสมอยู่ตามผิวหนัง
-อาบน้ำด้วยสบู่ฆ่าเชื้อโรคจะช่วยลดปริมาณเชื้อแบคทีเรียทำให้กลิ่นกายลดลง
-หลังจากที่อาบน้ำเสร็จคุณควรใช้ผ้าเช็ดตัวให้แห้งสนิทเพื่อชะลอการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย
-ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายหรือผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อบริเวณใต้วงแขน ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจะป้องกันไม่ให้เหงื่อออกและดับกลิ่นที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียบนผิวหนัง ส่วนผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อจะมีอะลูมิเนียมคลอไรด์ซึ่งจะช่วยลดปริมาณเหงื่อที่ไหลออกมา
-หมั่นดูแลความสะอาดของตู้เสื้อผ้า คุณควรเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อย ๆ ในกรณีที่เหงื่อออกอย่างรุนแรง เสื้อผ้าใหม่ ๆ จะทำให้กลิ่นตัวเบาบางลง อย่าลืมเปลี่ยนถุงเท้าด้วยโดยเฉพาะถ้าคุณเป็นคนที่มีกลิ่นเท้า โรยแป้งดับกลิ่นลงไปในรองเท้า
-ลดหรืองดอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้มีกลิ่นตัว ได้แก่อาหารรสเผ็ดและเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นตัว นอกจากนี้อาหารที่มีกลิ่น เช่น กระเทียมหรือหัวหอม เมื่อปนกับกลิ่นเหงื่อก็จะยิ่งทำให้กลิ่นตัวรุนแรงขึ้นไปอีก ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์หรือกาแฟก็ทำให้เหงื่อออกมากกว่าเดิมด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ศีรษะจรดฝ่าเท้าล้วนเป็นจุดปล่อยกลิ่นได้ทั้งนั้น โดยเฉพาะเมื่อสาเหตุสำคัญของกลิ่นตัวมาจากต่อมเหงื่อ นอกจากนี้อาหารที่รับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง กลิ่นของมันจะระเหยออกมาทางลมหายใจ แถมถูกขับถ่ายออกมาทางต่อมเหงื่อ ต่อมไขมัน ต่อมกลิ่น อีกทั้งเสื้อผ้าผืนใหญ่ต้องซักให้สะอาดทั่วถึง ผึ่งแดด หรือตากแดด ให้แห้งสนิทรวมถึงสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศรอบกาย เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีกลิ่นต่าง ๆ ติดตัวมา
/ / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / / /
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สูตรยาช่วยแก้ กลิ่นตัว แร้งแรง! โดย กูรูต้นตำรับชีวจิต