ใช้เทคโนโลยีมากเกินไป
การใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกเบอร์โทรศัพท์และนัดหมายทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ความจำเท่าที่ควร จะเป็น และเมื่อใช้ความจำน้อย สมองก็จะอ่อนแรงและขี้เกียจ
ความจริงแล้ว ศาสตราจารย์เอียน โรเบิร์ตสัน แห่งทรินิตี้คอลเลจ ดับบลิน ประเทศไอร์แลนด์ คาดการณ์ว่า คนวัย 20 ที่พึ่งพาเทคโนโลยีมาก มีแนวโน้มว่าจะมีปัญหาเรื่องความจำในอนาคต โดยอาจจะมีปัญหามากกว่าคนวัย 50 ในยุคปัจจุบันที่เกิดในช่วงที่เทคโนโลยียังไม่เจริญเหมือนสมัยนี้ และต้องจดจำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง
การศึกษาล่าสุดจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยว่า ถ้าเรามองกันตามความจริง การจำสิ่งต่าง ๆ เป็นหน้าที่ของสมองอยู่แล้ว แต่เมื่อสมองไม่ได้ทำหน้าที่จดจำเพราะเราใช้โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์จดจำข้อมูลนั้นแทน ฉะนั้นสมองจึงไม่สามารถจดจำข้อมูลที่ควรต้องจำและสูญเสียหน้าที่ไป
ยาคุมกำเนิดประเภทฉีด
ผู้หญิงหลายคนใช้ยาคุมบางยี่ห้อ ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงต่อความจำ
นักวิจัย แบลร์ บราเดน จากมหาวิทยาลัยแอริโซนาสเตต ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า สัตว์ที่ได้รับฮอร์โมนเมดรอกซีโพรเจสเทอโรน อะซีเตต (Medroxyprogesterone Acetate: MPA) ซึ่งเป็นส่วนผสมในยาคุมประเภทฉีด มีประสิทธิภาพในการจำต่ำลงเมื่ออายุมากขึ้น เมื่อเทียบกับสัตว์ตัวอื่น ๆ มีการตั้งข้อสังเกตว่า MPA อาจส่งผลต่อสารสื่อประสาทชื่อกาบา (GABA)
บราเดนอธิบายว่า
“ถ้ามีกาบามากเกินไป จะทำให้สร้างความจำได้ยากขึ้น แต่ถ้ามีน้อยเกินไป ก็จะทำให้เราไม่สามารถสร้างความจำที่ถูกต้องแม่นยำได้”
ขณะนี้นักวิจัยกำลังดูความสัมพันธ์นี้ในผู้หญิงต่อไป เพื่อสรุปว่ายาคุมประเภทฉีดมีผลต่อความจำจริงหรือไม่