ประโยชน์และโทษของแตงกวา (Cucumber)

แตงกวา ชื่อนี้คงเป็นที่คุ้นหูสำหรับสาวๆ ใช่ไหมล่ะ! อย่างที่รู้กันว่าเจ้าแตงกวามีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวพรรณให้กระจ่างใสและชุ่มชื้น จึงไม่แปลกที่เหล่าสาวสวยมักนำมาฝานบาง มาวางตามใบหน้า เพื่อบำรุงผิวพรรณ แต่คุณรู้หรือไม่… ประโยชน์และโทษของแตงกวา ถ้าอยากรู้แล้ว…มาดูกันเลยจ้า

ประโยชน์จาก แตงกวา

นิยมนำมาประกอบอาหารในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพื่อเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารและเพิ่มมูลค่าของอาหารในจานให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น อาทิ แตงกวายัดไส้ แตงกวาแกะสลักเป็นรูปทรงต่างๆ แตงกวาผัดไข่ พล่าแตงกวาเนื้อย่าง เป็นต้น

มีการนำน้ำแตงกวานำไปผสมในเครื่องสำอาง อย่างเช่น ครีม เจล สบู่ โลชั่น เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น บำรุงผิวพรรณ ป้องกันผิวแห้งกร้าน ฟื้นฟูผิวทีี่เสีย ทำให้ผิวดูมีน้ำมีนวล เป็นต้น

ในแตงกวามีน้ำเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 96 จึงมีคุณสมบัติแก้กระหาย เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยการกำจัดของเสียตกค้างในร่างกาย ป้องกันการสะสมน้ำเกินจำเป็นในร่างกาย อาการบวมน้ำ ลดกรดกระเพาะอาหาร แก้กระหายน้ำ

ดีต่อผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะให้พลังงานต่ำและช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล

ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายได้ดี มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เพราะน้ำมากและกากใยสูง

ช่วยควบคุมความดันเลือดและความสมดุลของสารอาหารในร่างกาย ต่อต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่น

สารอาหารที่มีในแตงกวาพร้อมเปลือก

วิตามินซี, วิตามินบี, วินตามินบี 1
เบต้าแคโรทีน
แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, เหล็ก
คาร์โบไฮเดรต
แร่ธาตุจำเป็น เช่น ซิลิก้า โพแทสเซียม โมลิบดีนั่ม แมงกานีส และแมกนีเซียม
เปลือกแตงกวามีกากใยอาหารสูง ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายได้ดี
สารฟีนอล ซึ่งมีหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระต่างๆ

รับประทาน แตงกวา มากเกินไปก็ให้โทษ!

แตงกวา ประกอบไปด้วยสารอาหารต่างๆมากมาย แต่หนึ่งในนั้นก็มี “กรดยูริค” ที่อยู่ในเมือกใสๆ ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานทุกวันหรือติดต่อกันเป็นเวลายาวนาน หากร่างกายขับกรดยูริคออกไม่หมด ก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเกาต์ได้ ผู้ป่วยที่เป็นโรคเกาต์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานแตงกวาค่ะ

“น้ำแตงกวา” มีประโยชน์อย่างไร?

โดยปกติแล้วการดื่มน้ำเปล่า หรือจิบน้ำบ่อย ๆ ก็มีประโยชน์ต่อผิวพรรณของเรามาก หลายๆคนอาจพอทราบกันบ้างแล้ว วันนี้จึงขอนำเมนู “น้ำแตงกวา” ที่นอกจากจะเพิ่มความสดชื่นแล้ว ยังมีประโยชน์ที่แฝงมาอีกเพียบเลยล่ะ มาดูกันดีกว่าว่าจะมีประโยชน์อะไรบ้าง!

น้ำแตงกวามีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แก้ไข้ แก้กระหายน้ำ เพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย

แก้อาการท้องผูก น้ำแตงกว่ามีสรรพคุณเป็นยาระบายอย่างอ่อน ลดกรดในกระเพาะอาหาร และช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายได้ดี

อุดมไปด้วย วิตามินซี แคลเซียม ซิลิก้า และโปแทสเซียม มีสรรพคุณทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส เส้นผมเป็นมันเงา เล็บแข็งแรง และช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เพื่อสุขภาพผิวที่ดี

แก้อาการเจ็บคอ โดยกลั้วคอด้วยน้ำแตงกวา วันละ 3 ครั้ง อย่างน้อย

วิธีการทำน้ำแตงกวา

วิธีทำนั้นแสนจะง่าย เพียงแค่ฝานแตงกวาให้เป็นแผ่นบาง ๆ จากนั้นใส่ลงในเหยือกน้ำ นำไปแช่ตู้เย็นในช่องธรรมดา ทิ้งไว้คืนเดียว เท่านี้ก็เสร็จแล้ว ใช้ดื่มแก้กระหาย หรือดื่มแทนน้ำเปล่าได้ก็ยิ่งดี

แตงกวานั้นหาซื้อได้ง่ายตามตลาดทั่วไป ควรเลือกแตงกวาที่สดใหม่ และปลูกโดยกรรมวิธีที่ปลอดภัยจากสารพิษ ก่อนใช้ควรล้างให้สะอาดเสียก่อน เพื่อสุขภาพที่ดีนะค่ะ^^

ยำทูน่าในแตงกวา

ยำทูน่าในแตงกวาจานนี้ แม้ขึ้นป้ายว่าเป็นมังสวิรัติแต่ก็ไม่ได้เป็นแค่ยำผัก เพราะเพิ่มความอร่อยและเนื้อสัมผัสเวลาเคี้ยวด้วยการใช้เนื้อไก่เจมายีพอหยาบๆ ก่อนนำไปคลุกเคล้ากับน้ำยำรสแซบถึงใจพร้อมเครื่องยำที่ล้วนเป็นสมุนไพรไทยให้ประโยชน์ ก่อนจะนำไปใส่ในแตงกวาคว้านไส้ที่ทำเป็นภาชนะอย่างง่าย ได้ทั้งการตกแต่งและยังกินควบคู่กันไปได้อีกด้วย

นับเป็นเมนูมังสวิรัติที่กินแล้วสดชื่น เลือกกินแทนข้าวได้แบบไม่เบื่อ ไม่อ้วนและดีต่อสุขภาพอีกด้วย

ยำทูน่าในแตงกวา

ส่วนผสม (สำหรับ 20 – 30 ชิ้น) เตรียม 10 นาที ปรุง 10 นาที

เนื้อไก่เจสับละเอียด 1 ถ้วย
ตะไคร้ซอยบาง 1 – 2 ช้อนโต๊ะ
หอมเล็กซอยบาง 1 – 2 ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูซอย 1 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดซอยเส้นบาง 1 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าซอยเป็นเส้น 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ½ ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
แตงกวาผลใหญ่หั่นเป็นแว่นขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร คว้านไส้ออก
ใบสะระแหน่เด็ดเอาแต่ยอด

วิธีทำ

1. ทำน้ำยำก่อนโดยผสมน้ำมะนาว เกลือน้ำตาลทรายคนจนน้ำตาลและเกลือละลายหมด ชิมรส

2. ผสมน้ำยำกับเนื้อไก่เจ คลุกเคล้าให้เข้ากันดี เติมตะไคร้ หอมเล็กพริกขี้หนู ใบมะกรูด คลุกผสมต่อจนเข้ากัน ชิมรสให้ออกเปรี้ยวนำหวานและเค็มเล็กน้อย

3. ตักยำทูน่าใส่ในแตงกวาที่คว้านไส้เอาไว้ ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่พริกชี้ฟ้าซอย และใบมะกรูดซอย

Tips:

หากซื้อเนื้อไก่เจไม่ได้ใช้เต้าหู้เนื้อแข็งแทนได้ โดยใช้มือบี้ให้พอหยาบๆ ก่อนนำไปปรุง
ถ้าชอบรสจัดปรุงรสเพิ่มได้ เพราะเมื่อกินกับแตงกวารสชาติจะอ่อนลงอีก
แตงกวามีน้ำเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 96 ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้น ทั้งยังมีธาตุแมงกานีสช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ และระบบขับถ่าย มีพลังงานต่ำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 289.42 กิโลแคลอรี
โปรตีน 26.64 กรัม ไขมัน 1.43 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 41.83 กรัม ไฟเบอร์ 2.53 กรัม