โจ๊กบำรุงไต อาหารเช้าเพื่อสุขภาพแบบแพทย์แผนจีน
โดย แพทย์จีน นพ.ภาสกิจ วัณนาวิบูล (www.samluangclinic.com)อุปนายกและเลขาธิการสมาคมแพทย์แผนจีน ประเทศไทย
มีคำกล่าวของนักโภชนาบำบัดเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของแพทย์จีนว่า
อาหารมื้อเช้าให้รับประทานเหมือนพระราชา(早餐吃得要像皇帝 )
อาหารมื้อกลางวันให้รับประทานเหมือนสามัญชน(午餐吃得要像平民)
อาหารมื้อค่ำให้รับประทานเหมือนยาจก(晚餐吃得要像乞丐 )
รับประทานเหมือนพระราชา บ่งบอกว่า
1.อาหารต้องมีคุณค่าสูง
2.ต้องรับประทานให้อิ่ม
3.มื้อเช้าต้องมีความสำคัญมาก
4.ยังมีการกล่าวเสริมอีกว่า อาหารต้องมีลักษณะฤทธิ์ร้อนด้วย
แพทย์แผนจีนให้ความสำคัญกับกระเพาะอาหาร ซึ่งมีหน้าที่ในการเก็บรับอาหารมาเพื่อทำการย่อยให้ละเอียดในระดับหนึ่งเป็นเบื้องต้น ก่อนจะส่งไปย่อยให้ละเอียดและดูดซึมต่อไป การย่อยอาหารของกระเพาะอาหารต้องการ ความร้อนในการบีบตัวหรือกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย กระเพาะอาหารชอบความอุ่นเกลียดกลัวความเย็น (胃喜温恶寒 )
อันตรายจากการไม่รับประทานอาหารเช้า
- เพิ่มอัตราภาวะท้องผูก เพราะกระเพาะอาหารลำไส้ไม่ถูกกระตุ้นให้บีบตัว
- โอกาสเกิดโลหิตจาง เพราะขาดอาหารมื้อสำคัญที่จะไปสร้างเลือด
- โอกาสอ้วนง่าย (มื้อเช้าอาหารเผาผลาญดี ร่างกายนำไปใช้งาน มื้อดึกการเผาผลาญน้อย กินมากจะตกค้างสะสม ทำให้อ้วนง่าย)
- ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จะใช้งานตลอดวัน ต้องใช้พลังงานสำรอง ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ แก่เร็ว ระบบย่อยอาหารอ่อนแอในระยะยาว
- โอกาสเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี ถุงน้ำดีเก็บสะสมน้ำดีไว้ช่วงกลางคืน ถ้าช่วงเช้าไม่ได้รับการกระตุ้น จะทำให้มีการตกตะกอนสะสมตัวเป็นนิ่วได้
- เกิดแผลของกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะนอนมาตลอดคืน ท้องว่าง มีกรดออกมาแต่ไม่มีอาหาร
- กระทบการเรียนและการทำงาน เนื่องจากขาดอาหารไปเลี้ยงสมอง
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ขาดพลัง ทำให้เกิดโรคง่าย ถ้าเป็นคนที่พื้นฐานไม่แข็งแรงมีโรคเรื้อรัง อาการจะรุนแรงขึ้น
ทำไมคนจีนจึงแนะนำข้าวต้มสำหรับมื้อเช้า
ปรมาจารย์ หลี่สือเจิน (李时珍 ) ได้กล่าวถึง ข้าวต้มละเอียด(โจ๊ก) ว่าเป็นอาหารสุดยอดของการบำรุง ถ้าได้รับประทานสัก 1 ถ้วย ขณะท้องว่าง ธัญพืช(ข้าว) ที่ต้มละเอียด เป็นอาหารบำรุงที่มีขนาดเล็ก นุ่มและไม่เหนียวหนืด เหมาะกับการทำงานของกระเพาะอาหาร
ข้าวต้มถือเป็นอาหารหลักพื้นฐาน เพราะเป็นตัวให้พลังงาน ย่อยง่าย ดูดซึมง่าย ใช้พลังในการย่อยน้อย (ถนอมพลังของร่างกายแพทย์จีนให้ความสำคัญว่ากระเพาะอาหารและม้ามเป็นที่มาของพลังชีวิตหลังการเกิด)เป็นอาหารที่ถูกนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว อุ่นกระเพาะอาหารเหมาะสำหรับทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรัง , คนที่มีโรคกระเพาะอาหารอักเสบเป็นแผล , เด็กเล็ก
นอกจากนี้ ในภาวะที่ร่างกายพักผ่อนมาตลอดทั้งคืน ระบบย่อยอาหารในช่วงเช้าถือเป็นการเริ่มต้นการทำงานของร่างกาย ถ้าได้รับอาหารที่ย่อยง่ายและดูดซึมเร็วเหมือนกับเครื่องยนต์ที่เริ่มอุ่นเครื่องใหม่ๆ จะดีกว่าการรับประทานอาหารหนักที่ย่อยยาก ที่ทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักขึ้น หรือการรับประทานอาหารที่ผักผลไม้มีฤทธิ์เย็น เช่นน้ำผักผลไม้ปั่น ผักดิบ ในมื้อเช้า ทำให้เลือดไหลเวียนมาที่กระเพาะอาหารน้อยลง กระเพาะอาหารทำงานมีประสิทธิภาพลดน้อยลงเช่นกัน
การจัดอาหารเมนูข้าวต้มโจ๊กนั้นสามารถปรับใส่อาหารสมุนไพรลงไปตามสภาพร่างกาย ยกตัวอย่างที่ใช้บ่อยคือ โจ๊กบำรุงไต ที่ขอมอบสูตรไว้ในฉบับนี้

โจ๊กบำรุงไต
ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 40 นาที (ไม่รวมเวลาแช่ข้าวเหนียวและงา) ปรุง 30 นาที – 3 ชั่วโมง (ขึ้นกับวิธีต้ม)
ข้าวเหนียวดำ 100 กรัม
เม็ดบัว (เอาดีบัวออก) 100 กรัม
พุทราจีน 10 ลูก
งาดำ 100 กรัม
วิธีทำ
1.ข้าวเหนียวดำ แช่ค้างคืน 1 คืน งาดำนำมาคั่วด้วยไฟอ่อน ๆ จนมีกลิ่นหอม แช่น้ำค้างคืน 1 คืน
ลูกบัว พุทราจีน ล้างให้สะอาด
2.นำส่วนผสมทั้งหมดผสมกัน ใส่น้ำต้มเป็นข้าวต้ม ด้วยหม้อความดันสูง นาน 20 นาที จะได้ข้าวเหนียวดำและงาดำที่แตกละเอียดง่ายแก่การย่อย (ถ้าต้มด้วยหม้อธรรมดา ข้าวเหนียวดำ ต้องแช่น้ำอุ่นค้างคืน แล้วจึงนำมาต้มด้วยไฟอ่อนๆ ต้องใช้เวลาต้มนาน ประมาณ 3 ชั่วโมง) ใช้รับประทานแทนข้าวต้ม
ข้อควรระวัง ถ้าข้าวเหนียวดำต้ม ไม่ละเอียดพอ จะทำให้ย่อยยาก เพิ่มภาระการทำงานของกระเพาะอาหาร
ล้อมกรอบ
ข้าวเหนียวดำ , งาดำ ฤทธิ์อุ่น บำรุงเลือดและบำรุงพลังแก้อาการอ่อนเพลียใจสั่น รักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพ หลั่งเร็ว น้ำกามเคลื่อน (ข้าวเหนียวดำและงาดำมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก มีไฟเบอร์ โปรตีนอย่างสมบูรณ์ สีดำบำรุงไต)
พุทราจีนฤทธิ์กลาง บำรุงม้าม กระเพาะอาหาร ช่วยทำให้นอนหลับ
เม็ดบัว ฤทธิ์กลาง บำรุงม้ามและไต ช่วยทำให้นอนหลับ แก้ท้องเสีย รักษาอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน , หลั่งเร็ว