กิ๊ก – มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ สู่เส้นทางปฏิบัติธรรมที่พม่า ความฝันที่ได้กลายเป็นจริง (เสียที)
ถ้าใครตามข่าวของคุณ กิ๊ก-มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ มาตลอดจะทราบได้ทันทีว่า คุณกิ๊กเป็นนักปฏิบัติธรรมที่หาตัวจับได้ยาก สามารถผสานโลกสองใบคือโลกแห่งวัตถุและโลกแห่งธรรมไว้ด้วยกันได้ ด้วยการปฏิบัติธรรมที่กลายเป็นหนึ่งเดียวกับการดำเนินชีวิต
ทุกครั้งที่คุณกิ๊กเอ่ยธรรมะ ทุกคำพูดเปล่งออกมา ล้วนทำให้เห็นว่าคุณกิ๊กมีความเข้าใจธรรมะนั้น ๆ ได้อย่างลึกซึ้ง คุณกิ๊กเปรยถึงความอยากที่จะบวชมาหลายครั้งผ่านสื่อต่างๆ จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2561 นี้ คุณกิ๊กประกาศเคลียร์คิวงานการแสดงเป็นที่เรียบร้อย พร้อมแล้วที่จะบวชในฐานะแม่ชี ผู้สละเส้นผมอันเป็นภาระทางโลก เพื่อปฏิบัติธรรมให้มีการพัฒนาในทางธรรมยิ่งขึ้น โดยเลือกไปปฏิบัติธรรมที่พม่าเป็นระยะเวลา 7 เดือน
ความปรารถนาที่กลายเป็นจริงของลูกผู้หญิงผู้ใฝ่ธรรม
ครั้งหนึ่งได้มีโอกาสพบพระอาจารย์รูปหนึ่งที่รู้จักกัน ท่านกล่าวว่า “โยมกิ๊กควรบวช เพราะการบวช แล้วปฏิบัติมันจะไม่เหมือนกับตอนที่เป็นเพศฆราวาส มันจะมีความรู้สึกที่แตกต่างกัน” คำพูดนี้ของท่านกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กิ๊กอยากบวช ทำให้รู้สึกว่ามีแต่ผู้ชายเท่านั้นหรือที่จะบวชได้ฝ่ายเดียว ผู้หญิงก็สามารถบวชได้เหมือนกัน
จุดประสงค์ของการบวชในครั้งนี้เพื่อทดแทนบุญคุณคุณพ่อ-คุณแม่ และบวชเพื่อเป็นพุทธบุตรีของพระพุทธเจ้าในฐานะแม่ชี แล้วด้วยระยะหลังเข้าคอร์สปฏิบัติธรรมทั้งที่ไทยและพม่าบ่อยครั้งมาก สังเกตว่ากิเลสที่มีลดน้อยลง จากแต่ก่อนยังมีความยึดติดในเส้นผมเพื่อความสวยงาม มาเดี๋ยวกลับไม่รู้สึกอย่างนั้นแล้ว รวมทั้งความอยากช้อปปิ้งก็ลดน้อยลงไปด้วย รายการโทรทัศน์แทบไม่ได้ดู ไม่ติดหนัง ไม่ติดละคร จะดูก็ต่อเมื่อเป็นละครเรื่องที่เราแสดงเท่านั้น ดูเพื่อที่จะได้พัฒนาการแสดงของเราให้ดียิ่งขึ้นไป ทำให้มีจิตใจฝักใฝ่ทางธรรมมากขึ้น อยากลองสละเส้นผม ซึ่งเป็นของที่เรารักมาก เป็นของที่เรามองว่ามันสวยมาก ออกไป เพราะจากการที่ได้ปฏิบัติธรรมมาในระยะหลังนี้ เกิดความรำคาญและเห็นแล้วว่าเส้นผมเป็นภาระจริงๆ ถ้าสระแล้วไม่เป่าผมให้แห้ง เราก็จะไม่สบาย แต่ถ้าไว้ผมสั้นอย่างตอนนี้ สระผมแล้ว เช็ดผมไม่นานก็แห้งโดยไม่ต้องเปา
การบวชทั้งหมดจะกำหนดเวลาไว้ 7 เดือน เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ผู้ใดได้มีโอกาสปฏิบัติธรรม 7 ปี 7 เดือน 7วัน มีโอกาสได้เห็นธรรม กิ๊กเคยปฏิบัติธรรมในระยะเวลาเพียง 7 วัน มาหลายคอร์สแล้ว 7 เดือนยังไม่เคย สำหรับ 7 ปี ก็จะนานไป เพราะคุณพ่อคุณแม่มีอายุมากแล้ว เลยคิดว่าบวชเพียง 7 เดือนพอแล้ว ในชีวิตยังไม่เคยปฏิบัตินานขนาดนี้ นานที่สุดก็แค่ 55 วันถ้าเทียบกับ 7 เดือนนี้คือเป็นคนละเรื่องกันเลย
มุ่งสู่พม่าดินแดนแห่งการเจริญธรรม
เหตุที่กิ๊กเลือกบวชที่พม่าเพราะมีพระวิปัสสนาจารย์ที่ปฏิบัติด้วยทุกวันนี้ เป็นพระชาวพม่า กิ๊กเชื่อว่าการปฏิบัติธรรมเพื่อให้ได้ผลดีคือต้องมีอาจารย์ พอกิ๊กได้ปฏิบัติธรรมกับครูบาอาจารย์ที่พม่าแล้ว เห็นถึงการพัฒนาของตนเองคือ เห็นธรรมะของพระพุทธเจ้าชัดเจนขึ้น เกิดปัญญาเห็นรูป-นาม กายและจิตตามความเป็นจริง
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ครูบาอาจารย์มีความสำคัญต่อการบรรลุธรรมของศิษย์ จะสังเกตได้ว่าปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 บรรลุธรรมได้เพราะพระพุทธเจ้า ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสสั่งสอน ปัญจวัคคีย์จะบรรลุธรรมได้หรือไม่ ?
กิ๊กไม่อยากให้โอกาสที่จะพัฒนานี้ให้หลุดลอยไป อยากลองฝึกปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง แล้วให้พระอาจารย์ท่านช่วยแนะนำ กิ๊กเชื่อมั่นว่า กิ๊กเองไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้โดยปราศจากพระวิปัสสนาจารย์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเรายึดติดกับท่านนะ แต่ด้วยวิชาความรู้ที่ท่านมี ประกอบกับพระอาจารย์ท่านเก่งบาลีมาก การศึกษาและปฏิบัติของท่านมาจากในพระไตรปิฎก
กิ๊กมั่นใจว่าในเมื่อท่านเก่งบาลีเพียงนี้ แม้ทางรัฐบาลพม่ายังยกย่องท่านว่าเป็น “พระธรรมจริยา” สิ่งที่ท่านสอนจะไม่เพี้ยนไปจากพระไตรปิฎก หรือต่างไปจากที่พระพุทธเจ้าสอน จึงเลือกมาบวชกับท่านที่พม่า แล้วด้วยศูนย์ปฏิบัติธรรมที่พม่าเปิดให้ปฏิบัติได้ตลอดทั้งปีเลย
พระอาจารย์ท่านพยายามผลักดันให้ปฏิบัติธรรมกันนาน ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์กิ๊ก ทำให้สามารถอยู่ที่สำนักเพื่อปฏิบัติได้นาน และที่นั้นเขาจะเคร่งครัดมาก พระอาจารย์จะสอบอารมณ์และตรวจสอบการปฏิบัติของเราทุกวัน ถ้าเรายังบกพร่องหรือปฏิบัติยังไม่ถูกทาง ท่านให้อ่านหนังสือที่เกี่ยวกับการปฏิบัติ เช่น ตอนนั้นกิ๊กเองปฏิบัติแล้วมันยังไม่ถูกต้อง พระอาจารย์จะเปิดหนังสือให้กิ๊กอ่าน ซึ่งกิ๊กชอบวิธีการสอนของท่าน รู้สึกท่านสอนเหมือนกิ๊กเป็นนักเรียน ให้เราอ่านบ่อย ๆ พออ่านบ่อยๆ ซ้ำๆ มันเลยกลายเป็นการซึมซับเข้าไปในความทรงจำเอง เราจึงไม่มีทางที่จะออกไปนอกลู่นอกทางอย่างแน่นอน
สิ่งที่มุ่งหวังอยากจะทำหลังกลับมาเมืองไทย
คิดว่าหลังจากกลับมาเมืองไทยแล้ว คงทำงานในพระศาสนามากขึ้น เพราะเราได้เกิดปัญญาจากการปฏิบัติธรรมะของพระพุทธเจ้ามากขึ้น วางแผนไว้ 2 โครงการคือ การบรรยายธรรม มั่นใจว่าหลังจากไปปฏิบัติธรรมมาแล้ว 7 เดือนคงบรรยายธรรมได้ลึกซึ้งมากขึ้น ทำให้คนได้เข้าใจธรรมะหรือมีศรัทธาในการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
โครงการที่ 2 จะเผยแผ่งานวิปัสสนากรรมฐาน คงได้มีโอกาสมากขึ้น วางแผนไปช่วยสร้างสำนักปฏิบัติธรรมที่ประเทศลาว ซึ่งเป็นวัดที่พระอาจารย์เป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์มหาสีสะยาดอ ตอนนี้จะพยายามมุ่งเน้นพัฒนาผู้ที่สามารถสอนวิปัสสนาได้
โอวาทธรรมที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นจริง
“จิตที่ฝึกดีแล้วนำความสุขมาให้” เป็นตามพุทธพจน์นี้จริง ๆ คือหลังจากออกจากปฏิบัติธรรมก่อนที่จะไปพม่า จะรู้สึกปีติมากพอระลึกถึงประโยคนี้ มันคือความจริงค่ะ จิตที่เราฝึกให้อยู่กับปัจจุบันขณะอย่างต่อเนื่องบ่อย ๆ จิตจะอยู่กับเนื้อกับตัว เวลาที่จิตคิดขึ้นมาปรุงแต่งไปเป็นอกุศล แล้วเราจะกำหดได้ พอระลึกรู้ทันก็จะกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว
จิตที่อยู่กับปัจจุบันขณะคือจิตที่เป็นปกติ แต่จิตที่ไม่อยู่กับปัจจุบันขณะ คือจิตที่อยู่กับความคิด คิดถึงอดีตที่จบไปแล้ว คิดถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง คือจิตที่ผิดปกติ แต่ในปัจจุบันนี้เรา ไม่ได้ฝึกจิตของเราให้ปกติเลย เราฝึกจิตของเราให้อยู่กับความผิดปกติ จนกลายเป็นความเคยชิน พอวันที่เรามาฝึกจิตให้อยู่กับปัจจุบันขณะ อยู่กับความเป็นปกติ มันอาจเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ เพราะเราไม่เคยฝึก แต่ถ้าเราฝึกบ่อย ๆ จะเห็นว่า จิตที่อยู่กับปัจจุบันขณะอย่างต่อเนื่อง เป็นจิตที่นำความสุขมากให้ แล้วจิตก็เป็นปกติจริงๆ ตามอย่างที่พระพุทธเจ้าทรงสอน
ซีเคร็ตขออนุโมทนากับความเจริญในธรรมของคุณกิ๊ก – มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ ซึ่งในขณะนี้ได้บวชเป็นแม่ชี เพื่อปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 7 เดือนสมตามปรารถนาที่รอคอยมานาน
เรื่อง : กิ๊ก – มยุริญ ผ่องผุดพันธ์
เรียบเรียง : ชนินทร์ ผ่องสวัสดิ์
ภาพ : สรยุทธ พุ่มภักดี และครอบครัวคุณกิ๊ก-มยุริญ ผ่องผุดพันธ์
บทความน่าสนใจ
กิ๊ก มยุริญ พักงานวงการบันเทิงลาไปบวชชีศึกษาธรรมะที่พม่า
โอสถธรรม…ทำให้สุข กิ๊ก- มยุริญ ผ่องผุดพันธ์
นางร้ายหัวใจนางเอก กิ๊ก – มยุริญ ผ่องผุดพันธ์
คนเราเลือกเกิดได้ ทุกนาทีที่ยังมีลมหายใจ กิ๊ก - มยุริญ ผ่องผุดพันธ์