แอ๊ค The Golden Song : เสียงที่ไม่ได้เป็นพรจากสวรรค์
แอ๊ค The Golden Song หรือ แอ๊ค-โชคชัย หมู่มาก แชมป์คนแรกของรายการ The Golden Song เจ้าของเสียงร้องที่ใคร ๆ บอกว่าเป็นพรสวรรค์ที่มีมาแต่เกิด แต่เขาไม่คิดเช่นนั้น
เด็กชายผู้รักต้นไม้และเสียงดนตรี
“ ชีวิตตอนเด็กลำบากครับคุณพ่อคุณแม่แยกทางกัน คุณย่าเป็นคนเลี้ยงผมจนจบชั้นอนุบาล ถึงย้ายมาอยู่กับคุณแม่ซึ่งตอนนั้นอยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี ส่วนคุณพ่อทำงานเป็นคนขับรถที่กรุงเทพฯ อยู่กับคุณแม่ได้สองปีรู้สึกเบื่อเลยขอไปอยู่กับคุณลุง ซึ่งเป็นครูอยู่อีกอำเภอหนึ่ง ท่านมักพาลูกหลานเข้าวัดทำบุญ สวดมนต์และนั่งสมาธิที่ห้องพระทุกวันพระ
“ หลังเรียนจบชั้นประถมฯ ก็ย้ายกลับมาอยู่กับคุณแม่อีกครั้งท่านสนับสนุนผมทุกอย่าง ผมชอบปลูกต้นไม้ โดยเฉพาะกล้วยไม้ แต่ไม่มีเงินซื้อก็ชวนท่านไปเก็บกล้วยไม้ป่าที่น้ำตกมาเลี้ยง ผมเรียนรู้วิธีปลูกต้นไม้ต่างๆ จากผู้ใหญ่ที่รักต้นไม้ท่านหนึ่งแถวบ้าน
“ ผมชอบเล่นดนตรีมาตั้งแต่ป.2 คุณแม่ก็สนับสนุน ผมเลือกเข้าวงโยธวาทิตของโรงเรียน ซึ่งทำให้ชีวิตของผมดีขึ้น เพราะนักดนตรีวงโยธวาทิตต้องมีระเบียบวินัย และเวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการซ้อมดนตรีเวลาจังหวัดมีงาน หรืองานวัดต่าง ๆ จะจ้างวงดนตรีของโรงเรียนไปเล่น ทำให้ไม่ได้ออกนอกลู่นอกทางไปไหน
“ ต่อมาผมเห็นว่าเป็นนักดนตรีเล่นเหนื่อยแทบตายแต่กลับได้เงินน้อย ผิดกับนักร้องที่ได้เงินมากกว่าทำให้ผมอยากเป็นนักร้องกับเขาบ้าง
“ อาจารย์จึงให้ผมลองร้องเพลงของคุณก๊อท-จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติซึ่งผมก็ร้องได้ เพราะโตมากับเพลงลูกกรุงและเพลงไทยสากล เนื่องจากคุณแม่ชอบฟังเพลงแนวนี้ แต่ถึงจะเป็นนักร้องแล้ว พอร้องเพลงเสร็จก็กลับไปเล่นดนตรีอยู่ด้านหลังด้วย”
แม่ของเพื่อนที่รักผมเหมือนลูก
“ ตอนเด็กผมยากจนมาก บางวันไม่มีเงินไปโรงเรียน คุณแม่ของเพื่อนซึ่งคือคุณแม่บุญธรรมคอยช่วยเหลืออยู่เรื่อย ๆ ท่านให้ผมไปช่วยงานที่บ้านบ้าง ขายของตามตลาดนัดบ้าง ท่านรู้จักคนเยอะมักโฆษณาให้คนอื่นรู้ว่าผมร้องเพลงเพราะวันที่ผมไปประกวดร้องเพลงคุณแม่บุญธรรมเป็นคนขับรถไปส่งและดูแลผมตอนประกวดอีกด้วย ต่อมาคุณแม่ผมป่วยเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร คุณแม่บุญธรรมก็เข้ามาช่วยเหลือให้เงินผมไปโรงเรียน หลังจากจบม.3 ผมไปสอบเข้าโรงเรียนดุริยางค์ทหารบก เพราะคุณแม่อยากให้เรียนที่นี่ แต่ปีแรกผมสอบไม่ติด ผมก็กลับมามุ่งมั่นซ้อมดนตรีและร้องเพลงอย่างหนักเพื่อสอบใหม่อีกครั้ง คราวนี้สอบติดได้เรียนที่นี่”
เมื่อแม่จากไปอย่างไม่มีวันกลับ
“ คุณแม่เสียชีวิตที่โรงพยาบาลสิ่งที่ผมเสียใจมากที่สุดคือไม่ได้อยู่กับท่านในตอนนั้น เพราะผมติดงานร้องเพลง ตอนแรกคิดว่าเสร็จงานแล้วจะรีบไปหาท่าน แต่ก็ไม่ทัน หลังจากเสร็จงานศพของท่านแล้วผมย้ายมาอยู่กับคุณแม่บุญธรรม เพราะท่านได้รับปากคุณแม่ผมไว้ว่าจะดูแลผมให้ดี
“ ช่วงที่คุณแม่เสียผมรู้สึกลอย ๆ เพราะในชีวิตผมมีท่านแค่คนเดียว สิ่งที่ทำให้ผมหลุดจากความรู้สึกเศร้าโศกคือการอยู่กับดนตรี ตอนนั้นผมซ้อมดนตรีหนักมาก เพื่อจะไม่คิดถึงแม่”
วิชาร้องเพลงจากครูจิระชัย
“ ตอนผมเรียนอยู่ปีสาม มีโอกาสไปร้องเพลงในคอนเสิร์ตของแม่เม้า-สุดา ชื่นบานกับ แม่แดง-ฉันทนา กิติยพันธ์ ที่ศาลาเฉลิมกรุงกับเพื่อนนักดนตรีอีก 20 คนจึงได้รู้จักกับครูเอก-จิระชัย กุลลวณิชย์ และได้เรียนเทคนิคการร้องเพลงลูกกรุงจากท่านท่านเป็นครูนักร้องที่มีชื่อเสียงหลายคน”
แม่บุญธรรมบังคับให้แข่งร้องเพลงในรายการ The Golden Song
“ หลังจากเรียนจบ ผมรับราชการที่กรมดุริยางค์ทหารบก ต้องร้องเพลงทุกวัน วันหนึ่ง 4-5 งาน จนวันหนึ่งรู้สึกว่าร้องเพลงมาพอแล้ว จึงทำเรื่องย้ายไปอยู่กรมทหารที่ปราจีนบุรี คิดว่าจะกลับไปเปิดร้านขายต้นไม้ ร้านกาแฟ ทำสวน ทำรีสอร์ท ร้านอาหาร และเลี้ยงสัตว์อยู่กับคุณแม่บุญธรรม แต่มาอยู่ได้พักเดียวท่านก็บังคับให้ผมมาแข่งร้องเพลงที่รายการ The Golden Song ”
ไม่อยากแข่งร้องเพลงแล้ว
“ ตอนผมมาแข่งขันร้องเพลงรายการนี้ ตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบลึก ๆ ผมทะเลาะกับคุณแม่บุญธรรมตลอด (หัวเราะ) เพราะผมไม่อยากแข่ง แข่งทีต้องลางานราชการ เหนื่อยมากเพราะนั่งรถไปกลับกรุงเทพฯ-ปราจีนบุรี จริง ๆ ผมเคยออกรายการร้องเพลงมาแล้ว 2 รายการคือ รายการชุมทางเสียงทอง และรายการเสียงสวรรค์ขวัญใจมหาชนซึ่งได้เป็นแชมป์ด้วย ผมไม่ได้อยากมีชื่อเสียงอะไร สิ่งที่ผมต้องการก็มีครบหมดแล้ว ผมมีโรงเรือนปลูกแคคตัส และร้านกาแฟ เงินเดือนทหารผมก็พอใช้
“ เมื่อผ่านเข้ารอบที่สามผมต้องร้องเพลงทั้งรักทั้งเกลียดกับพี่ชมพู-ฟรุตตี้ มันยากมาก ผมไม่ค่อยได้ใช้เสียงสูงแบบนี้ ผมอยากสละสิทธิ์แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะมันจะทำให้ทุกคนวุ่นวาย ก็เลยแข่งต่อ เพราะคิดว่าคงไปไม่ได้ไกลกว่านี้ แล้วก็ไม่คิดว่าจะเป็นแชมป์ด้วย”
กว่าจะมาถึงวันนี้
“ คนมักบอกว่าผมเป็นคนเสียงดี มีพรสวรรค์ แต่เบื้องหลังคือ ผมซ้อมร้องเพลงวันละหลายชั่วโมงโดนด่าจนร้องไห้มาไม่รู้กี่ครั้ง ไม่ใช่ว่าลืมตาขึ้นมาดูโลกแล้วร้องเพลงเพราะเลย ผมเชื่อว่าเราทำได้ทุกอย่างถ้าตั้งใจฝึกฝนอย่างจริงจัง ผมจะร้องและอัดเสียงไว้แล้วมาฟัง ช่วงไหนไม่เพราะผมก็ปรับแก้การร้องตรงนั้นจนกว่าจะดี เวลาขึ้นไปบนเวทีทุกครั้งจะคิดเสมอว่าต้องทำให้ทุกคนร้องว้าวให้ผม ”
พรสวรรค์นั้นสร้างได้ด้วยการฝึกฝนและตั้งใจจริง
เรื่อง : โชคชัย หมู่มาก
ภาพ : พีรพันธุ์ วิจิตรไกรวิน
สามารถส่งเรื่องราวดี ๆ หรือปัญหาธรรมมาได้ที่ >>> Secret Magazine (Thailand)
บทความน่าสนใจ
บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี สุดภูมิใจ บุตรบุญธรรมคนแรกได้เป็นคุณครูสอนเด็ก ๆ บนดอย
นักร้องสาว ปาล์มมี่ ทำข้าวคลุกกะปิ มอบเป็นกำลังใจให้กับพี่ ๆ พยาบาล โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา
นักร้องสาวน้ำชาบริจาคเงินบางส่วนจากงานแต่งงานช่วยเหลือมูลนิธิรามาธิบดีสู้โควิด-19
สุเทพ วงศ์กำแหง “นักร้องเสียงขยี้แพรในฟองเบียร์” จากไปอย่างสงบด้วยวัย 86 ปี
ฝันเป็นจริง! คนขับอูเบอร์กลายเป็นนักร้องโอเปร่าระดับโลกเพราะคลิปของผู้โดยสาร