การรับมือกับความทุกข์ของคน โดนไล่ออกจากงาน
โดนไล่ออกจากงาน เป็นอีกหนึ่งความกลัวของชาวออฟฟิศ เมื่อได้ยินคำนี้แล้วต่างหวาดผวา ขนลุกขนพองไม่แพ้เรื่องผีหรือเรื่องเล่าสยองขวัญเลย
การโดนไล่ออกจากงานนอกจากจะเป็นสิ่งที่ชาวออฟฟิศกลัวแล้ว ยังเป็นความทุกข์อีกอย่างหนึ่งของชาวออฟฟิศด้วย คนที่ตกอยู่ในสภาพนี้ ไม่ต่างจากต้นไม้ที่ถูกตัดท่อน้ำเลี้ยง กลายเป็นคนขาดเงินเลี้ยงชีพ ความเครียด ความกังวลเกาะกุมหัวใจ ทำให้กลายเป็นความทุกข์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้มาจากงานเขียนของ นัมอินซุก นักเขียนนิยายและบทความสำหรับผู้หญิงชาวเกาหลีคือหนังสือเรียก “ตั้งศูนย์ที่เลขสาม 30s” คุณนัมอินซุก ยกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และใช้นามสมมติแทนตลอดทั้งเรื่องว่า
คุณ D ทำเรื่องผิดพลาดให้กับออฟฟิศ เธอรู้สึกเป็นทุกข์มากจนทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะเธออัพเดตข้อมูลของบริษัทผิดพลาด ทำให้ลูกค้าเข้าใจข้อมูลนั้นผิด มีผลต่อบริษัทคือ ทำให้บริษัทต้องชดเชยค่าเสียหาย เธอกังวลเรื่องนี้จนแทบจะเสียสติ
ช่วงสอง-สามวันที่ผ่านมา เธอแทบจะลมจับจนเข้าโรงพยาบาลด้วยความเครียด แต่ก็ยังแบกสังขารมาทำงาน หัวหน้าเห็นอาการของเธอไม่ค่อยดีจึงขอนัดเธอกินข้าวหลังเลิกงาน
เวลานั้นช่วงไม่ต่างจากสวรรค์ย่อม ๆ เธอได้โอกาสปรับทุกข์และระบายเรื่องนี้กับหัวหน้า
“หัวหน้าคะ หนูควรทำอย่างไรดีคะ…..”
หัวหน้าผู้ผ่านโลกมามาก แต่คุณ D มองเป็นพี่สาวคนหนึ่ง เธอนิ่งแล้วตอบว่า
“กลุ้มใจขนาดนี้แล้ว อะไรจะดีขึ้น ตั้งสติแล้วคิดดูสิว่า ต่อจากนี้ไปจะทำอย่างไรต่อ”
“สถานการณ์เป็นแบบนี้จะไม่ให้หนูกลุ้มใจเหรอคะ”
“แล้วสิ่งที่เรากังวลใจคืออะไร”
“กลัวโดนไล่ออกจากบริษัทค่ะ หนูใส่ข้อมูลของบริษัทผิด ทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด บริษัทเลยต้องชดเชยให้”
“เป็นอย่างนั้น ลองคิดว่า สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการโดนไล่ออกจากบริษัท ถ้าเธอถูกไล่ออกจากบริษัทแล้ว ชีวิตของเธอจะจบลงงั้นหรือ”
คำพูดของหัวหน้าทำให้เธอหยุดชะงัด แล้วมุ่งไปคิดถึงเรื่องอื่นคือหลังจากเธอออกจากออฟฟิศไป เธอจะไปทำอะไรต่อ
“หนูจะท่องเที่ยวไปที่ ๆ หนูอยากไป จนรู้สึกว่าตนเองผ่อนคลายดีแล้ว จึงจะเริ่มหางานใหม่ ถึงหนูจะทำเรื่องผิดพลาดไว้กับออฟฟิศเก่า แต่เชื่อค่ะว่าด้วยประสบการณ์และข้อดีของหนูบางอย่างจะช่วยให้หางานใหม่ได้ไม่ยาก แต่ถ้าความผิดพลาดนี้ทำให้ออฟฟิศใหม่ไม่รับยอมหนู คุณพ่อก็บ่นอยู่ว่าอยากให้หนูกลับไปช่วยงานที่บ้านที่ต่างจังหวัด หนูก็จะกลับไปช่วยท่าน นำความรู้และประสบการณ์จากการทำงานที่พอมีติดตัวมาอยู่บ้าง นำมาใช้พัฒนาธุรกิจของที่บ้าน และรับงานพิเศษมาทำที่บ้านในเวลาที่ว่างค่ะ”
หลังจากคุณ D ระบายทุกสิ่งออกมา ทำให้เธอสบายใจขึ้นมาก หัวหน้าก็ยิ้มแล้วบอกเธอว่า
“การทำผิดเพียงครั้งเดียว บริษัทไม่ไล่ออกหรอก ถ้าไม่ได้ทุจริต แค่สารภาพว่าสิ่งที่ทำเกิดจากความผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้นจริง ๆ แต่สภาพของเธอที่กังวลและมีสภาพไม่ต่างจากร่างไร้วิญญาณ จะส่งผลกระทบต่อบริษัทมาก เพราะทำให้เธอไร้ศักยภาพในการทำงาน หลังจากนี้ไปเธอจงลุกขึ้นสู้ แล้วใช้บทเรียนนี้เป็นแรงผลักดัน”
ที่มา ตั้งศูนย์ที่เลขสาม 30s โดย นัมอินซุก
ภาพ
บทความน่าสนใจ
ชีวิตหลากสีสันของ โต๊ะโตะจัง คุโรยานางิ เท็ตสึโกะ
ความทุกข์ของคนเก่ง บำบัดได้ด้วยธรรมะ
True story: กว่าจะเข้าใจ …ก็ (เกือบ) สายเสียแล้ว?!
True Story : ครอบครัว แทบพังเพราะผู้ชายที่ได้ชื่อว่า พ่อของลูก
ชีวิต “จริง” ของนางเอกสาวขาลุย ต่าย สายธาร นิยมการณ์