ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน นิทานที่เขาแต่งขึ้นคือชีวิตจริงของเขา
ไม่มีเด็กคนไหนบนโลกใบนี้ที่จะไม่เคยฟังนิทานของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน หรืออาจไม่รู้เลยว่านิทานที่เคยอ่านหรือที่คุณแม่เล่าให้ฟังก่อนนอนทุกคืนนั้นฮันส์ คริสเตียนเป็นผู้แต่ง เขาคือราชาแห่งโลกเทพนิยายที่ไม่ได้มีชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบ และเขาคงไม่คิดฝันด้วยว่านิทานของเขาจะกลายเป็นสิ่งที่เด็กทั่วโลกชื่นชอบ
เขาเกิดในสลัม คุณพ่อเป็นช่างทำรองเท้า ซึ่งด่วนจากเขาไปตั้งแต่ฮันส์ยังเด็ก ส่วนคุณแม่มีอาชีพรับจ้างซักผ้า ชีวิตของเขาช่างไม่ต่างจากนิทานเรื่องหนึ่งที่เขาแต่งเลย นั่นคือ “ลูกเป็ดขี้เหร่” เพราะเขามีรูปลักษณ์ที่ประหลาด (อาจเรียกว่าขี้เหร่ก็น่าจะได้) จึงกลายเป็นที่ขบขันของเพื่อน ๆ ซ้ำร้าย เมื่อหนุ่มน้อยฮันส์เอาจริงเอาจังกับการเป็นนักเขียนบทละคร แล้วความสามารถไปเข้าตา โจนาส คอลลิน ผู้กำกับและรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง โจนาสจึงรับเลี้ยงและส่งเสียฮันส์เรียนจนจบ แต่ระหว่างที่ฮันส์เรียนหนังสือเขาต้องอดทนต่อการล้อเลียนจากเพื่อนร่วมชั้น เพราะเห็นว่าฮันส์มีอายุมากกว่าเพื่อนในระดับชั้นเดียวกัน สุดท้ายเขาก็เรียนจนจบระดับมหาวิทยาลัย
การที่โจนาส คอลลินส่งเสริมฮันส์จนเรียนจบไม่ต่างจากการติดปีกความฝันและจินตนาการให้กับเขา ช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ อาจเป็นโอกาสที่ฮันส์ได้บ่มเพาะและมีคลังความรู้กักเก็บไว้ และพร้อมที่จะระเบิดกลายเป็นความคิดสร้างสรรค์ในภายภาคหน้า กว่าฮันส์จะค้นพบว่าตนเองมีพรสวรรค์ในการแต่งนิทาน เขาต้องลองผิดลองถูกอยู่นานบนเส้นทางน้ำหมึก เขาได้ทำหนังสือรวมนวนิยายเล่มแรกของเขาขึ้นมา แต่ได้รับคำวิจารณ์ไปในเชิงลบ พลอยทำให้เส้นทางการเขียนบทละครของเขากลับไม่รุ่งไปด้วย แต่ท้ายที่สุดเขาก็ให้กำเนิดนิทานออกมาหลายเรื่อง เป็นนิทานมีทั้งแนวชีวิตและแนวแฟนตาซี หรือบางเรื่องก็ผสมสองแนวนี้ไว้ด้วยกัน นิทานของเขาทรงคุณค่าข้ามกาลเวลามาได้อย่างไรจะขอยกตัวอย่างนิทานเอกของเขามาดังนี้
หนูน้อยขายไม้ขีดไฟ เชื่อว่าเด็กหลายคนต้องเสียน้ำตาให้เด็กหญิงคนนี้ ขนาดเธอเป็นเพียงเด็กน้อย แต่ต้องทำงานหาเงินให้พ่อบังเกิดเกล้า และเงินจำนวนนั้นก็หมดไปกับเหล้าของผู้เป็นพ่อ เด็กไม่มีความสุขอีกเลยหลังจากคุณยายและคุณแม่จากเธอไป ท่ามกลางอากาศและหิมะที่หนาวเย็นของเทศกาลคริสตสมภพ เธอก็ได้จบชีวิตลงท่ามกลางกองหิมะ แต่ใบหน้าของเธอกลับยังปรากฏรอยยิ้มอยู่อย่างมีความสุข หลายคนตั้งข้อสงสัยต่อการตายของเธอที่เป็นปริศนาว่าทำไมถึงมีใบหน้าที่มีความสุขถึงเพียงนี้ ฮันส์จินตนาการให้เธอพบกับความสุขที่เธอต้องการ การอยู่พร้อมหน้ากันของคุณยายและคุณแม่ผู้ล่วงลับ อาหารแสนอร่อย และต้นคริสตมาสที่เธออยากได้ ที่เกิดขึ้นจากเปลวไฟของไม้ขีดที่เธอขาย เรื่องของหนูน้อยขายไม้ขีดไฟอาจเป็นโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในเทศกาลวันประสูติของพระคริสต์ แต่จุดประสงค์ของฮันส์คือ มนุษย์อย่าได้ทอดทิ้งเพื่อนมนุษย์ผู้ตกทุกข์ได้ยาก เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟนั้นไม่มีใครสนใจช่วยอุดหนุนเธอเลย จึงนำไปสู่การจบชีวิตลงอย่างน่าสงสาร ถ้าขายไม่หมดก็ไม่สามารถกลับบ้านได้ เพราะพ่อของเธอที่ผีสุราสิงอาจทำร้ายเธอก็ได้ เชื่อว่าคงมีเด็กอีกหลายชีวิตที่ต้องจบชีวิตลงเพราะขาดความสนใจจากสังคม
เงือกน้อย ธิดาเจ้าสมุทรผู้หลงรักเจ้าชายมนุษย์ ยอมสละเสียงอันไพเราะให้กับแม่มดแห่งท้องทะเล เพื่อให้เธอมีแขนเหมือนมนุษย์ เธอพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้สมหวังในความรัก แต่แล้วสิ่งที่เงือกน้อยได้กลับมาคือ ความผิดหวัง สุดท้ายเธอต้องกลายเป็นฟองอากาศในเกลียวคลื่น นิทานเรื่องนี้เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาเด็กทั่วโลก แต่ตอนจบได้สร้างความสะเทือนใจให้ไม่น้อย ทำให้นิทานเรื่องนี้ถูกดัดแปลงให้ตอนจบให้เงือกน้อยได้ครองรักกับเจ้าชาย นิทานเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่สำหรับความรักที่ดี ต้องเป็นความรักที่ไม่ต้องทำให้เราเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เรา และการทุ่มเทเป็นสิ่งที่ดีถ้าทุ่มเทให้ถูกทาง
ลูกเป็ดขี้เหร่ นิทานที่สร้างชื่อเสียงให้กับฮันส์เป็นอย่างมาก และอดไม่ได้ที่จะคิดว่าลูกเป็ดขี้เหร่ในนิทานเรื่องนี้ก็คือตัวเขาเอง นิทานเริ่มเรื่องที่ลูกเป็ดตัวหนึ่งถูกรังเกียจจากพี่น้องที่เกิดจากรังเดียวกัน มันถูกขับไล่เพราะหน้าตามันไม่เหมือนพี่น้อง ลูกเป็ดต้องออกผจญภัยสู่โลกกว้างเพราะโชคชะตา ซึ่งไม่ได้มาจากความเต็มใจของมันเสียเท่าไหร่นัก จนกระทั่งมันได้เห็นเงาในน้ำว่ามันคือ หงส์ ไม่ใช่ เป็ด และแล้วจากลูกเป็ดขี้เหร่ที่ใคร ๆ เกลียดก็กลับกลายเป็นหงส์ผู้สง่างาม นิทานเรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนที่จะต้องการพัฒนาตนเองให้กลายเป็นหงส์
นกไนติงเกล แสดงให้เห็นว่าไม่มีสิ่งใดจะดีไปกว่าสิ่งที่เป็นของจริง นิทานเรื่องนี้ฮันส์ สร้างให้เรื่องราวเกิดขึ้นที่ประเทศจีนสมัยโบราณ เมื่อพระจักรพรรดิจีนพระองค์หนึ่งทรงรักนกไนติงเกลทรงเลี้ยงมาก เพราะมันจะขับกล่อมพระองค์ด้วยเสียงที่ไพเราะทุกวัน แต่แล้วเมื่อมีคนนำนกไนติงเกลไขลานมาถวาย ทำให้พระองค์ทรงสนพระทัยนกไนติงเกลไขลานนี้มากกว่านกทรงเลี้ยง แต่เมื่อนกไขลานพังลง ก็ไม่สามารถมีสิ่งใดเข้ามาแทนที่เสียงอันไพเราะของนกไนติงเกลทรงเลี้ยงได้ นกไนติงเกลทรงเลี้ยง กับ นกไนติงเกลไขลาน อาจมีตัวแทนของสิ่งเก่ากับสิ่งใหม่ ซึ่งสุดท้ายแล้วสิ่งใหม่ไม่สามารถเอาชนะสิ่งเก่าได้อยู่ดี
ธัมเบลิน่า นิทานเกี่ยวกับมนุษย์จิ๋วที่อาศัยอยู่ในดอกไม้ เป็นนิทานที่สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผู้หญิงผ่านตัวละครที่มีชื่อว่า “ธัมเบลิน่า” เด็กหญิงที่เกิดจากดอกไม้ แถมยังมีขนาดเล็กเท่าหัวแม่มืออีกด้วย ต้องมาผจญภัยผ่านฤดูกาลอันเหน็บหนาวกว่าจะได้พบบ้านอันแสนอบอุ่นในบั้นปลาย คืออาณาจักรแห่งดอกไม้ที่มีราชาแห่งภูตดอกไม้เป็นผู้ปกครอง ชีวิตของธัมเบลิน่าต้องผ่านความโหดร้ายของสิงสาราสัตว์ต่าง ๆ เช่น กบ แมลง ตัวตุ่น และหนูนา ทำให้เห็นว่าเมื่อพบเจออุปสรรคปลายทางนั้นก็คือความสุขและความสำเร็จที่รอคอยอยู่
ฮันส์ เป็นคนฉลาดที่สามารถหยิบยกเรื่องราวที่เขาพบเห็นมาแต่งเป็นนิทานได้อย่างไม่มีที่ติ นิทานของเขาจึงมีชีวิตชีวา คงด้วยเหตุนี้ที่ทำให้ผู้ที่ได้อ่านนิทานของเขารู้สึกสนุกและประทับใจ และกลายเป็นที่นิยมอย่างไม่มีวันเลือนหายไป เชื่อมั่นว่าการเกิดขึ้นมาของนิทานในแต่ละเรื่อง ฮันส์ย่อมมีจุดประสงค์แฝง ในฐานะที่เขาเป็นผู้ผ่านโลกมามาก ย่อมอยากที่จะฝากแง่คิดและคำสอนของเขาไว้ในนิทานอย่างแยบยล นี้คือคุณค่าของนิทานแอนเดอร์สัน
ที่มา :
ภาพ :
บทความน่าสนใจ
เวเทหิ หญิงงามผู้เสียชื่อเพราะความโกรธ นิทานธรรมะ จากพระโอษฐ์
ถอยหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้า นิทานธรรม สอนใจให้มีปัญญา
กำไรจากเรื่องร้าย ๆ นิทานธรรมสะกิดใจ โดย พระมหาวีระพันธ์ ชุติปัญโญ
นิทานแสนเศร้า บทความเตือนใจสำหรับพ่อแม่ทุกคน
นิทานชาดก 500 ชาติ เส้นทางแห่งบารมี 30 ทัศ มีกี่เรื่องกันแน่ ?
วิ่งไล่ตามก้อนเมฆ นิทานของผู้ใหญ่ แต่งโดยหลวงปู่ ติชนัทฮันห์