เป็นภาพที่ชินตา แม่กำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่หน้าเตาถ่านในครัว แม่ใช้เวลาส่วนใหญ่ของชีวิตอยู่ในครัว… (แม่ของฉัน)
ปีนี้ฉันอายุ 34 ปี เป็นปีที่ลาออกจากงานที่รัก มีแฟนหนึ่งคน กิ๊กครึ่งคนก็ไม่มี มีเพื่อนที่รักอยู่บ้าง มีศัตรูที่ไม่เผาผีกันก็เยอะ มีชายหนุ่มที่ฉันรอคอยอย่างเจ็บปวด มีความฝันที่ค้าง ๆ คา ๆ และแต่ละวันของชีวิตหมดไปกับการนอนให้โทรทัศน์สะกดจิต
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ตอนอายุ 35 ซึ่งหมายความว่าฉันเหลือเวลาแค่หนึ่งปีที่จะเป็นคนที่โลกไม่อาจลืมอย่างพระพุทธเจ้า คนอายุ 34 ในสายตาของฉันเมื่อเนิ่นนาน ช่างเป็นวัยที่ชราภาพจริง ๆ และฉันก็เริ่มตระหนักแล้วว่า เรี่ยวแรงเริ่มไม่มากเท่าเมื่อก่อน ความพลุ่งพล่านที่คิดว่าตัวเองจะเปลี่ยนแปลงโลกได้เริ่มน้อยลง
ปีนี้แม่แก่ลงมาก ฉันเพิ่งสังเกตเห็นผมขาวบนหัวของแม่ แม่ที่เคยไม่มีวันดูแก่ของฉันเริ่มมีริ้วรอย กระฝังลึกที่แก้มของแม่ดูชัดขึ้น หน้าท้องที่อุดมด้วยไขมันของแม่ไม่เคยหายไป และแม่ก็มีอาการไอเรื้อรังมาร่วมเดือน
ฉันนั่งมองแม่…ฉันเคยเป็นนักข่าวไปสัมภาษณ์คนมากมาย สุดแสนจะตื่นเต้นเมื่อได้คุยกับชายขาพิการคนแรกของโลกที่ปีนเขาเอเวอเรสต์สำเร็จ ได้สบตากับดาราหนุ่มที่ฉันชื่นชอบ ได้พูดจาฉลาด ๆ กับคนระดับประเทศ และคิดเอาเองว่าโลกที่ซับซ้อนคือโลกที่ฉันแสวงหา
แต่วันนี้เมื่อมองหน้าแม่ ฉันก็ได้รู้ตัวว่าตัวเองรู้จักแม่น้อยเหลือเกิน
แม่เป็นคนบ้านนอก จบแค่ ม.6 ชีวิตนี้แม่เคยไปต่างประเทศแค่ครั้งเดียว ซึ่งแม่ก็ทรมานกับการเดินทางน่าดู ฉันเคยพาแม่ไปเกาะสมุยในวันที่ไมเคิล แจ๊คสัน ตาย แทนที่จะตื่นเต้นกับทะเล แม่กลับนอนนิ่ง ๆ มองฟ้า…แม่เหมือนเป็นคนแปลกหน้าที่ฉันไม่รู้จัก
แม่แต่งตัวสวยเสมอ สวยจนเพื่อนบ้านชอบแซวว่าแม่เหมือนดารา ตู้เสื้อผ้าของแม่เป็นความตื่นเต้นของฉันเสมอ ผ้าไหม ผ้าลูกไม้ ผ้าชีฟอง ผ้าลินิน ทุกตัวถูกรีดอย่างประณีต คำว่าประณีตของแม่ยังใช้กับการทำอาหารด้วย ฉันเห็นแม่อยู่ในครัวนาน ๆ เสมอ แม่จะล้างภาชนะทุกอย่างอีกครั้งก่อนใช้ และค่อย ๆ ก่อเตาถ่าน แม่ไม่ชอบใช้เตาแก๊ส บอกว่าเพราะกลิ่นแก๊สทำให้อาหารไม่อร่อย
นอกจากในครัวแล้ว ฉันชอบแซวแม่ว่า จะเจอแม่ได้ตามสุมทุมพุ่มไม้ แม่จะเดินรดน้ำ สำรวจผักสวนครัว และนั่งนิ่ง ๆ ที่แคร่…แม่เหมือนคนแปลกหน้าที่ฉันไม่รู้จัก
แม่คลอดฉันตอนอายุ 23 เมื่อฉันถามแม่ว่า ทำไมคนเราต้องแต่งงาน แม่ก็ตอบง่าย ๆ ว่า เพราะโบราณบอกว่า คนที่ไม่แต่งงาน เมื่อตายไปจะกลายเป็นคนเก็บดาว ไม่มีคำคมอะไรมากไปกว่านั้น ไม่มีทฤษฎีว่าด้วยความรักอะไรทั้งสิ้น และเมื่อฉันถามว่า ทำไมแม่ถึงมีลูก แม่ก็ตอบง่าย ๆ ว่า เพราะครอบครัวจะได้เป็นครอบครัว แม่ไม่เคยมีคำอธิบายยาก ๆ ให้ฉันเลยสักครั้ง
เมื่อฉันพาแม่ไปดูพิพิธภัณฑ์แสดงงานศิลปะ ขณะที่ภาพวาดระดับโลกปรากฏตรงหน้า แม่ก็นิ่งงันอยู่เนิ่นนาน จนฉันปลาบปลื้มใจว่าแม่คงจะซาบซึ้งกับภาพนั้น แต่แม่กลับบอกว่า มองนาน ๆ จะได้จำแบบเสื้อของผู้หญิงในภาพไปตัดตามบ้าง! เอากะแม่สิ แม่เป็นคนตลกมาก ๆ แม่เป็นคนที่ทำให้ฉันหัวเราะได้มากที่สุด แม่ชอบร้องเพลงที่แต่งเองและคิดเอาเองว่าตัวเองเสียงดีเหลือเกิน
ฉันเคยอายมากตอนที่ไปงานเลี้ยงกับแม่ แล้วแม่กระโดดคว้าไมค์ร้องเพลงอะไรสักอย่างที่โบราณสุด ๆ แม่มั่นใจยังกับทาทายัง และตลกร้ายยังกับหม่ำ จ๊กมก…แต่เมื่อก่อน ฉันไม่คิดอย่างนี้หรอก ฉันคิดแค่ว่า ทำไมแม่ของฉันไม่เหมือนคนอื่น
ถ้าฉันเล่าเรื่องเพื่อนหรือชายหนุ่มคนไหนให้แม่ฟัง แม่จะจำได้ไม่เคยลืม และจะถามหาบุคคลในชีวิตของฉันอยู่บ่อย ๆ เมื่อฉันไม่อยู่บ้าน และมีเพื่อนบางคนแวะไปเที่ยวที่บ้าน แม่ก็ทำอาหารเลี้ยงเพื่อนฉัน จนเพื่อนฉันจำไปสามปีสี่ปีว่า เขาเคยมาบ้านคนคนหนึ่งที่ทำอาหารเลี้ยงเขาเหมือนมีงานบุญประจำปี แม่ชอบดูแลคน และแม่มักบอกให้ฉันพาเพื่อนมาเที่ยวบ้านเสมอ ๆ เพราะแม่เหงา
เมื่อลูก ๆ เหมือนนกที่บินออกจากรัง พวกเรามาตามล่าหาความฝันที่กรุงเทพฯ แม่ก็อยู่บ้านคนเดียว บางวันแม่เหงามาก และโทร.มาหาฉันตอนที่ฉันกำลังประชุมอยู่ ฉันไม่ได้รับโทรศัพท์แม่และเหนื่อยเกินกว่าจะโทร.กลับ แม่ก็ชดเชยความโดดเดี่ยวด้วยการไปเรียนเต้นรำ หัดขับรถ หัดทำดอกไม้ อบรมการปลูกผักสมุนไพร ฝึกอบรมการทำสปา ประกวดนางงาม ทำสวนยางพารา แม่ทำทุกอย่าง หลังจากนั้นแม่ก็ลืมและกลับมาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในครัวเหมือนเดิม
ฉันนึกถึงภาพแม่นั่งนิ่ง ๆ ไม่ยินดียินร้ายกับความงดงามของทะเลในเกาะสมุย และได้ค้นพบว่า คนเรามี soul place ไม่เหมือนกัน แม่ดูมีพลังเมื่ออยู่ในครัวและดูแปลกแยกเมื่ออยู่ในพื้นที่ที่แม่ไม่คุ้นชิน ในขณะที่ soul place ของฉันคือแผ่นดินอื่น คือความตื่นเต้นใหม่ ๆ ที่ฉันไม่รู้จัก และฉันก็เหมือนซานติเอโก เด็กเลี้ยงแกะในหนังสือเรื่อง The Alchemist ไม่มีผิด ที่ฝันซ้ำ ๆ ถึงขุมทรัพย์ที่อยู่ไกลถึงดินแดนพีระมิดในอียิปต์
วันหนึ่งแม่บอกฉันว่า แม่จะไปตลาดแป๊บเดียวแล้วจะรีบกลับ ขอให้ฉันอยู่เฝ้าบ้าน อย่าลืมล็อกประตู และอย่าออกมานั่งนอกบ้านคนเดียว แม่สั่งเหมือนฉันเป็นเด็ก ๆ ฉันหลับไปตื่นมาไม่เห็นแม่ ผ่านไปห้าชั่วโมง แม่ก็ยังไม่กลับมา ฉันใจหาย…แม่ไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป และไม่ควรหายไปนานขนาดนี้
ฉันออกตามหาแม่ ไล่ตั้งแต่โรงพยาบาลถึงสถานีตำรวจ ฉันยังรู้จักแม่น้อยเหลือเกิน แม่จะหายไปจากชีวิตฉันไม่ได้ ความกระวนกระวายก่อตัวอย่างรุนแรงจนฉันสติแตก และสะอื้นเหมือนเด็ก ๆ ฉันกลับมาบ้านอีกครั้ง ครัวดูว่างเปล่า สุมทุมพุ่มไม้ไม่มีแม่…ฉันสะอื้น น้ำตาเม็ดโตไหลอาบแก้ม ฉันยังรู้จักแม่น้อยเกินไป
สักพักโลกก็สว่างไสว เมื่อแม่เดินกระย่องกระแย่งกลับมา ในมือถือตะกร้าที่เต็มไปด้วยอาหารที่ฉันชอบ ฉันดุแม่ที่ทำให้ตกใจ แม่ขอโทษ และเช่นเคย…แม่หายเข้าไปในครัว
ปีนี้ฉันอายุ 34 เป็น 34 ปีที่คนที่อยู่ข้างฉันมาตลอดก็คือแม่ ฉันเลิกเสื้อแม่ขึ้นเพื่อดูรอยผ่าที่ท้อง มันเป็นรอยยาวและลึกเหลือเกิน แม่ถูกผ่าท้องเพื่อให้ฉันคลอดออกมา เป็น 34 ปีที่ฉันนึกเสียใจว่า ทำไมตัวเองถึงไม่เข้าใจเรื่องง่าย ๆ ที่ว่าเราไม่ควรทำให้คนที่มีค่าที่สุดกลายเป็นคนแปลกหน้า เพราะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันน้อยเกินไป
แม่บ่นว่าหน้าท้องของแม่น่าเกลียดเหลือเกิน รอยผ่าท้องนี้แม่ได้มาตั้งแต่อายุ 23 เป็นวัยที่ยังสาวและเปล่งปลั่ง แม่แลกชีวิตของแม่เพื่อชีวิตของฉัน แต่ฉันไม่คิดว่าแม่จะบอกตัวเองอย่างนั้น อย่างที่บอก โลกของแม่ไม่เคยซับซ้อน แม่คงคิดง่าย ๆ ว่า ก็เพราะว่าฉันเป็นลูก และแม่เป็นแม่…
ฉันไม่รู้จะพูดอะไรจึงได้แต่กอดและหอมแก้มแม่ สักพักแม่ก็เล่าเรื่องตลก ๆ บางเรื่องให้ฉันฟัง มันเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีที่สุดของปีนี้
…รองจากการที่แม่กลับบ้านในวันที่ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองรู้จักแม่น้อยเกินไปจริง ๆ
(แม่ของฉัน)
ที่มา นิตยสาร Secret
เรื่อง ภาวนา แก้วแสงธรรม
Photo by Ylanite Koppens from Pexels
บทความน่าสนใจ